>>วันเดอร์ฟรุ๊ต หนึ่งเดียวกับเฟสติวัลที่เฉลิมฉลองไลฟ์สไตล์ ดนตรี และศิลปะในประเทศไทย ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ได้ประกาศเลื่อนการจัดงานจากเดิมในเดือนธันวาคม 2559 เป็นวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อเป็นการถวายความอาลัยและแสดงความเคารพต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตขอประกาศรายละเอียดล่าสุดของไลน์อัพศิลปิน พร้อมอัปเดตโปรแกรมที่เพิ่มเข้ามาอีกจำนวนมาก เพื่อเตรียมต้อนรับเหล่าวันเดอเรอร์ทุกกลุ่ม ณ เดอะ ฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา
เหนือสิ่งอื่นใด ความมุ่งมั่นของวันเดอร์ฟรุ๊ต คือการช่วยสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกใบนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตก้าวเป็นผู้นำเฟสติวัลในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการขายบัตรจะถูกนำไปสนับสนุน โครงการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพริมบารายา (Rimba Raya Biodiversity Reserve) ในประเทศอินโดนีเซีย และอีกหนึ่งโปรแกรมพิเศษ คือการสนับสนุนการคืนความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ป่าชายเลนบริเวณเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำที่มีความเปราะบางในประเทศเมียนมาร์ ผ่านองค์กร Worldview International Foundation (WIF) และ Heyerdahl Mangrove Coin (HMC) ซึ่งเหล่าวันเดอเรอร์สามารถมีส่วนร่วมได้ง่ายๆ ด้วยการซื้อเครื่องดื่มพิเศษ “Green Drink” ในงาน โดยทุกๆ 1 แก้วที่คุณซื้อ จะถูกหักค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปซื้อต้น Mangrove สำหรับปลูกในพื้นที่ที่วันเดอร์ฟรุ๊ตร่วมลงทุนบริเวณป่าชายเลนในประเทศพม่า
วันเดอร์ฟรุ๊ตได้รับการคอนเฟิร์มจากศิลปินที่จะมาร่วมแสดงในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 เตรียมพบกับการแสดงสดเต็มรูปแบบของกลุ่มศิลปินเจ้าของยอดขายระดับแพลตินัม (Platinum Selling) และรางวัลบริท อวอร์ด (Brit Award) Rudimental, กลุ่มศิลปินแนวฮิปฮอป เจ้าของรางวัลเมอร์คิวรี่ ไพรซ์ (Mercury Prize) Young Fathers, นักร้องสาวชาวอังกฤษเจ้าของเสียงดึงอารมณ์ Shura, นักร้องสาวผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ Lianne La Havas, ดูโอหนุ่มจากนิวยอร์กกับแนวเพลงผสมผสาน Buke and Gase นอกจากนี้ยังมี JUNUN featuring Shye Ben Tzur & The Rajasthan Express, Kate Simko & London Electronic Orchestra, และ Mad Professor เป็นต้น และขอเสริมทัพไลน์อัพกับอีกหนึ่งดีเจและโปรดิวเซอร์จากฝั่งอเมริกา Sabo กับอีกมากมายที่จะทยอยเผยรายชื่อเพิ่มเติมเร็วๆ นี้
นอกจากไลน์อัพดนตรีที่ครบเครื่องทุกแนวแล้ว วันเดอร์ฟรุ๊ตจะพาเหล่าวันเดอเรอร์ไปสัมผัสกับเวที Farm Stage ที่สร้างและตกแต่งด้วยเมล็ดข้าวเพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมการปลูกข้าวแบบดั้งเดิมของชาวไทย รังสรรค์จากฝีมือสถาปนิกชาวไทยจาก PO-D และ ธ.ไก่ชน โดยเวทีแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ให้บรรดาไลน์อัพศิลปินต่างๆ และการแสดงมากมายได้มาโชว์ผลงานของตัวเอง ด้าน Gregg Fleishman ศิลปินนักออกแบบที่โด่งดังจาก Burning Man จะกลับมาคราวนี้กับซิกเนเจอร์การสร้างสรรค์ผลงานรูปทรงเรขาคณิตของเขามาเนรมิตเป็นเวที Solar Stage ที่จะเป็นพื้นที่ให้เหล่าวันเดอเรอร์ได้จดจำช่วงเวลาที่สวยงามยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกในวันเดอร์ฟรุ๊ต อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือการต้อนรับการกลับมาของ Molam Bus จากการรังสรรค์ของหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน ที่เปลี่ยนรถบัสให้เป็นเวทีแห่งความสนุกสนานไปด้วยเสียงเพลงแนวหมอลำ ดนตรีพื้นบ้านของชาวอีสาน รวมทั้งเป็นพื้นที่ในการจัดแสดงผลงานทางวัฒนธรรมอีกด้วย
นอกจากดีไซน์สุดอลังการของเวทีแล้ว เหล่าวันเดอเรอร์จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับศิลปะอินสตอลเลชันที่หาชมได้ทั่วทั้งงาน ผลงานไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด อาทิ Wonder Lily Island โมบายเสียงเพลงจากการรังสรรค์ของ Moral Turgeman ที่สวยงามและสามารถรื่นรมย์ได้ไม่ว่าขณะลืมตาหรือหลับตาชม ตามมาด้วย Cocoon Playground จาก Waft Lab ที่จะนำเวิร์กชอปและการแสดงที่ขับเคลื่อนด้วยออดิโอวิชวลมาให้ได้สัมผัส ต่อด้วยผลงานศิลปะรูปทรงเลียนแบบหินของ อดา จิระกรานนท์ รวมทั้งการแสดงแอนิเมชันแสงไฟกับดีเจเซตมันส์ ที่ Bonafide จากทีม ZIEGHT x Iconic Studio
สำหรับคนที่มองหาการแสดงแบบเร้าใจ พลาดไม่ได้กับโปรเจกต์ #Touch จากศิลปิน นามว่า Ulrich Gottlieb กับการแสดงแปลกใหม่ที่ผสมผสานการเต้นกับศิลปะป้องกันตัว การเคลื่อนไหวแบบละครเวที และการวาดภาพเข้าไว้ด้วยกัน ชมโชว์ระบำกระบองไฟผสมกายกรรมลอดห่วงจากลีลาของสมโภชน์ ทองหยวก และอเล็กซานดรา การแสดงกายกรรมผาดโผนจากศิลปินชื่อดัง Reprizzo รวมถึงศิลปะอินสตอลเลชันหุ่นกระบอกจากกลุ่มศิลปินชาวออสเตรเลีย Sight by Storm ส่วนใครที่อยากลองเปลี่ยนตัวเองเป็นผลงานศิลปะก็สามารถไปใช้บริการใน Wonder Salon เสริมความแฟนซีเก๋ไก๋ให้ตัวเองได้ด้วยการทำเครื่องประดับแปลกตา หรือเพนต์สีบนใบหน้าและเรือนร่าง ร่วมกับทีมสไตลิสต์ของวันเดอร์ฟรุ๊ต
ด้านโปรแกรม Wonder Feasts ภูมิใจนำเสนอสุดยอดไลน์อัพเชฟที่จะมาปรุงอาหารด้วยเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับเหล่าวันเดอเรอร์ในปีนี้โดยเฉพาะ นำโดย การกลับมาของเชฟมือหนึ่งของเอเชีย เชฟ Gaggan Anand เมนูบรันช์สไตล์เรกเก้ จากเชฟ Paulo Vitaletti แห่ง Peppina/ Appia และเชฟ Jarrett Wrisley แห่ง Soul Food Mahanakorn/ Appia สัมผัสบรรยากาศปาร์ตี้ช่วงบรันช์โดยทีมงานต้นตำรับจากลอนดอน Love Brunch แท็กทีมกับ เชฟ Jeriko แห่ง Cocotte และมื้ออาหารสุดเก๋จากทีม F.A.C.T. Collective กลุ่มนักสร้างสรรค์ผู้บุกเบิกประสบการณ์ใหม่ ผ่านอาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ที่จะพาคุณไปลิ้มรสเมนูอาหารไทยผสมผสานรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จากเหนือจรดใต้ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากอาหารและเครื่องดื่มที่จะพาให้เหล่าวันเดอเรอร์น้ำลายสอใน Wonder Feasts แล้ว ยังมีอาหารเลิศรสจากหลากหลายร้านที่เรียงรายมาเสริมทัพ ไม่ว่าจะเป็น พาสต้าหอยนางรมรมควัน จาก The Oyster Bar ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นร้านอาหารทะเลที่เน้นความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมแห่งเดียวในเอเชีย ข้าวผัดสเปน (Paella) และชูโรส์ เลิศรสจากร้าน Thyme เมนูซูชิและสาเกไม่ซ้ำใครจากร้าน Morimoto และเมนูอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง Marcel
และเพื่อเน้นความตั้งใจจริงของวันเดอร์ฟรุ๊ตในการสร้างสรรค์เฟสติวัลที่เป็นมิตรต่อครอบครัว วันเดอร์ฟรุ๊ตจัดเตรียมโซนสำหรับเด็กโดยเฉพาะที่รวบรวมเวิร์กชอปสุดครีเอทีฟ เกม และกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ไว้ ซึ่งภายในโซนแคมป์วันเดอร์ ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่เรียงรายมาให้เหล่าวันเดอเรอร์ตัวน้อยได้เลือกทำ ตั้งแต่ศิลปะป้องกันตัวคาโปเอร่า (Capoeira) กิจกรรมเพนต์ตัว ศิลปะและงานฝีมือ รวมถึงการประดิษฐ์หมวกและหน้ากาก หรือกิจกรรม Messy Jam ที่เหล่าเด็กๆ จะสนุกไปกับปืนฉีดน้ำและลูกโป่งที่สามารถเติมสีได้ เพื่อนำไปละเลงลงบนผืนผ้าใบตามจินตนาการ หรือจะปาใส่เพื่อนๆ และคนในครอบครัวก็สนุกไปอีกแบบ
สำหรับผู้ใหญ่ที่มองหากิจกรรมน่าตื่นเต้น วันเดอร์ฟรุ๊ตได้จัดเตรียมกิจกรรมเพื่อสุขภาพและการผจญภัยมากมาย สร้างความกระฉับกระเฉงตลอดงาน โดยมีคลาสพาร์คอร์ (Parkour) กับ Team Farang ทีมฟรีรันนิ่งชื่อดังของประเทศไทย คลาสศิลปะป้องกันตัวและการร่ายรำแบบจีนจาก Master Zhu Qiguo ที่จะเน้นวิชาวูซู กังฟูแบบเส้าหลินและไทเก๊ก และยังมีเครื่องร่อนที่ให้เหล่าวันเดอเรอร์ได้เหินฟ้าชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามของวันเดอร์ฟรุ๊ตจากบนท้องฟ้าเหนือเดอะ ฟิลด์
วันเดอเรอร์ที่สนใจเปิดโลกทัศน์สามารถเข้าร่วมกิจกรรมพูดคุยกับเหล่านักสร้างสรรค์และผู้นำทางความคิดใน Scratch Talks ร่วมสร้างแรงบันดาลใจไปกับ เอ็ดดี้ บร็อค (Eddie Brock) ที่จะมาสนทนาเกี่ยวกับโครงการ Real Island Life ซึ่งมุ่งมั่นในการสร้างชุมชนบนเกาะแบบใหม่ผ่านการศึกษาแบบยั่งยืน ค้นหาแรงบันดาลใจไปกับ ทอดด์ เลมอนส์ (Todd Lemons) ผู้ก่อตั้งองค์กรเอ็นวิชั่น คอร์เปอเรชั่น (EnVision Corporation) ที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน อลัน เลาบช์ (Alan Laubsch) ผู้ก่อตั้งสมาคม Natural Capital Alliance ที่จะแบ่งปันข้อมูลเรื่องการปฏิวัติสกุลเงินดิจิตอล Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain ดร.แอนดี้ คอร์นิช (Dr. Andy Cornish) ที่จะร่วมแบ่งปันเรื่องราวการทำงานของเขากับปลาฉลามและปลากระเบน รวมถึงกลุ่มแทรช ฮีโร่ (Trash Heroes) ที่จะมาบอกเล่าถึงแคมเปญเก็บขยะริมชายหาดอันน่าประทับใจ
ร่วมเปิดประสบการณ์ไปกับวันเดอร์ฟรุ๊ต โดยสามารถซื้อบัตรเข้างานแบบ 4 วัน ในราคา 5,500 บาท โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตร การเดินทาง และการจองที่พัก ได้ที่เว็บไซต์ของวันเดอร์ฟรุ๊ต