เมื่อถึงช่วงเวลาพักผ่อน ที่ใครหลายคนรอคอย อาจถามตัวเองว่า มีมั๊ย…ที่พักที่อบอุ่น ในบรรยากาศโรแมนติก ใกล้ชิดทะเลใสแบบเอื้อมถึง กับทรายที่ขาวละเอียด ตกเย็นก็ยังได้ชมพระอาทิตย์ตกจากฟ้า ประหนึ่งภาพวาดจากปลายพู่กันของศิลปิน
ลองมาสักครั้งที่นี่ หาดคลองเจ้า เกาะกูด จ.ตราด กับบูติกรีสอร์ทเก๋ๆ “Tinkerbell Privacy Resort (ทิงเกอร์เบล ไพรเวซี่ รีสอร์ท)” ในกลุ่มรีสอร์ท “ปีเตอร์แพน” และ “กัปตันฮุค” ที่พร้อมจะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม เพียงมุมเดียวบนโลกใบนี้ ด้วยการดูแลของ ต้น-ยุทธพงษ์ โรจนวนิช และ ปู-เกษรี ศรีสมยง สองผู้บริหารที่น่ารักและใจดี มีความเป็นกันเอง
กับการเดินทางที่แสนสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น รถส่วนตัว รถตู้ หรือรถประจำทาง ก็ใช้เวลาเพียง 4 ชม. มุ่งหน้าจากกรุงเทพฯ มาตามทางหลวงหมายเลข 3 (บางนา-ตราด) เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (ชลบุรี-บ้านบึง-แกลง) เมื่อถึง อ.แกลง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน จ.จันทบุรีจนถึง จ.ตราด รวมระยะทาง 315 กม. เพื่อตรงไปยังท่าเรือแหลมศอก
จากนั้นพักยืดเส้นยืดสาย เก็บข้าวของเพื่อเดินทางต่อด้วยการนั่งเรือ “สปีทโบ๊ต” (ราคาเที่ยวละ 600บาทต่อคน) รับลมชมวิวทะเล ประกอบกับ ดูแนวเขากั้นระหว่างประเทศไทย-พม่า และเกาะเล็ก เกาะใหญ่เพลินๆ อีก 1 ชม. ก็ถึงที่หมาย (เรือขาไปมีรอบ 09.00น. และ 11.45 น. ส่วนขากลับ มีรอบ 09.30 น. รอบเดียว)
บนพื้นที่ 14 ไร่ของรีสอร์ทเล็กๆ น่ารักแห่งนี้ มีบ้านพักหลังน้อยที่เน้นความเป็นส่วนตัวเพียง15 ห้อง มี 2 แบบให้เลือก ถ้าต้องการห้องใหญ่หน่อย ก็ต้องห้องแบบ Pool Side Villa มีแค่ 7 ห้องเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าห้องพักจะไม่ติดทะเล แต่เดินเพียง 5 ก้าว ก็สัมผัสได้กับความละเอียดของเม็ดทราย หรือถ้าอยากชมความกว้างใหญ่ของทะเล ก็ขึ้นไปชมได้ที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งโอบล้อมด้วยผนังไม้ไผ่ แถมยังให้คุณนอนนับดาวภายใต้แสงจันทร์
ถ้าใครอยากสัมผัสทะเลใสราวกระจก สะท้อนเงาแสงอาทิตย์ที่ปลายเส้นขอบฟ้า และสายลมสุดสดชื่น ที่คอยเคาะประตูปลุกคุณทุกเช้า เพียงก้าวผ่านประตูกระจกใสบานใหญ่ ต้องเลือกห้องพักแบบ Beach Front Villa ที่มีถึง 8 ห้อง แนบชิดติดชายหาด รับรองว่าได้กลิ่นอายทะเลชนิดก้าวเท้าลงจากเตียงก็แตะผืนทรายกันเลยทีเดียว กับฟ้าใส ทะเลสวย สุดสายตาในมุมมอง 180 องศา ให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับทุกวินาทีที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ซึ่งไม่อาจสัมผัสได้จากชีวิตในเมือง
เมื่อมาถึงที่นี่นอกจากจะเล่นน้ำทะเล นอนอาบแดดอ่านหนังสือชิลๆ แบบชาวต่างชาติ ที่รักความเป็นส่วนตัวแล้ว อีกกิจกรรมที่ห้ามพลาดก็คือ การไปดำน้ำแบบ “สน็อกเกิล” รอบเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีปะการังโต๊ะ ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือตัวใหญ่ ปลาดาว และปลานีโมที่ว่ายเวียนหยอกล้อกับดอกไม้ทะเลแล้ว ยังมีฝูงปลาข้างเหลืองแหวกว่ายข้างๆ ตัวเรานับหมื่นนับพันๆ ตัว น่าตื่นตาใจเป็นที่สุด
ส่วนใครที่อยากจะบริหารกล้ามเนื้อแขน ไปพร้อมกับความสนุก ก็ยังมี “เรือคายัค” ให้ได้พายเล่นกันตามใจชอบ ถ้ากลัวร้อนก็พายช่วงเย็นๆ ซึ่งจะได้ของแถมเป็นอาหารตากับพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังเคลื่อนคล้อยจากขอบฟ้า ท่ามกลางเกลียวคลื่น และความงดงามของท้องฟ้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนสี ผสานกับแสงทองของตะวัน เติมเต็มให้ท้องฟ้าและท้องทะเลอบอุ่นเป็นหนึ่งเดียวกัน สอดประสานกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง กังวานดุจดังเครื่องดนตรีชิ้นเอก
ไม่เพียงแค่อิ่มใจกับเป็นธรรมชาติที่อบอุ่นแล้ว ยังอิ่มท้องกับอาหารทะเลสดๆ ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา จะเลือกกินแบบปิ้ง ย่าง หรือ ต้ม ยำ ทำแกง ก็ได้ตามใจปรารถนา แต่ถ้าไม่ชอบอาหารทะเล ก็ยังมีอาหารไทย หรืออาหารฝรั่งให้เลือกอิ่มอร่อยได้แบบไม่อั้น
ช่วงอากาศดีๆ แบบนี้ใครๆ อาจตั้งใจไปเที่ยวภูเขา แต่สำหรับทะเลที่เกาะกูด ถือได้ว่าเป็นช่วงจังหวะที่สวยที่สุด โดยตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ส่วนช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย. จะมีการเกาะปิดเพราะเป็นช่วงมรสุม จากนั้นก็จะเปิดให้ได้ซึมซับบรรยากาศกันตามปกติ
และยิ่งใกล้วันแห่งความรักอย่างนี้ ทางรีสอร์ตก็มีโปรโมชั่นพิเศษเอาใจผู้ที่จะมาพักแบบสองเรา เพื่อเติมความหวานกับแพกเกจ 3 วัน 2 คืน ราคา 11,900 บาทต่อ2 ท่าน และ 6,450บาทสำหรับแพคเกจ 2 วัน 1 คืน (ค่าสปีทโบ๊ทไป-กลับ และอาหารวันละ3 มื้อ) ในแพกเกจนี้ยังรวมถึงการพาไปเที่ยวน้ำตกคลองเจ้า สัมผัสชีวิตชาวประมง ชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2966-1800-2
ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตา จะไม่รู้ด้วยใจ ว่าเหตุใดเกาะกูดจึงยังคงสวยงามและโรแมนติกเช่นนี้
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net