>>ยิ่งโลกเราทันสมัยมากขึ้นเท่าไหร่ ไลฟ์สไตล์การดื่ม-กินของผู้คนก็ยิ่งเปลี่ยนไปมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องเครื่องดื่มค็อกเทลที่ปัจจุบันผู้คนมีความพิถีพิถันในการดื่มค็อกเทลมากขึ้น เพื่อสะท้อนมากกว่าความเป็นตัวตนแต่มันเป็นเรื่องของอัตลักษณ์ในการดื่ม
ภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นในสังคมเมืองไทยบ้านเราขณะนี้ ที่เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิปมากมาย ทั้งชอปปิ้งมอลล์, ร้านอาหาร, ผับ, บาร์ แสดงให้เห็นว่าผู้คนสมัยใหม่จะไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องการดื่ม-กินเท่านั้น แต่จะหันมาบริโภคอัตลักษณ์ของการดื่ม-กิน ทำให้เราย้อนกลับมาพูดกันว่า เราจะดื่มอย่างไร? กินแบบไหน? และอะไร? ที่สะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ดื่ม-กินมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งการดื่มนอกจากจะคำนึงถึงเรื่องรสชาติแล้ว อัตลักษณ์ในการดื่มก็มีส่วนสำคัญไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเรื่องของรสชาติเพียงอย่างเดียว เพราะนั่นมันสะท้อนถึงรสนิยมและตัวตนของผู้ดื่มมากเลยทีเดียว
ก่อนที่เราจะเลือกดื่มเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยรสชาติ สีสัน และรูปแบบต่างๆ ได้อย่างถูกปาก แน่นอนว่าจะต้องมีนักปรุงที่มีฝีมือและทักษะเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงนี้เกี่ยวกับ “มิกโซโลจิสต์” หรือนักปรุงเครื่องดื่มค็อกเทลอันมีสไตล์ที่เป็นมากกว่าบาร์เทนเดอร์ด้วยซ้ำไป ผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่มค็อกเทลอันเปี่ยมด้วยศิลปะแห่งการปรุง
ที่กล้าพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อไม่นานมานี้ Celeb Online ได้รับเกียรติจาก บริษัท ดิอาจิโอ โมเอต เฮนเนสซี (ประเทศไทย) จำกัด เดินทางไปร่วมงาน “Diageo Reserve WORLD CLASS 2012” ซึ่งเป็นสุดยอดเวทีการแข่งขันค็อกเทลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นแคมเปญระดับโลกที่สานต่อเป็นปีที่ 4 โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2009 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดมิกโซโลจิสต์ผู้เปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการรังสรรค์เครื่องดื่มชั้นเลิศ ณ โรงแรมโคปาคาบานา พาเลซ เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล และเวทีนี้นี่เองที่ตอกย้ำให้เราเห็นว่าวิถีการดื่มในปัจจุบันจะต้องแตกต่างไปจากเดิม
เวทีการแข่งขันค็อกเทลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนี้เริ่มขึ้น ณ ดินแดนแซมบ้า ด้วยเพราะเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสีสันและความหลากหลายทางวัฒนธรรม และภูมิประเทศที่งดงาม ยิ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง “โคปาคาบานา” ด้วยแล้ว ทำให้หลายคนนึกถึงดนตรีสไตล์แซมบ้า หนุ่มสาวที่ชอบออกมาเดินอวดหุ่นริมหาด และเครื่องดื่มเก๋ๆ สักแก้ว ทำให้ได้อรรถรสในการใช้ชีวิตยิ่งนัก
สุดยอดการแข่งขันค็อกเทลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระดับโลกครั้งนี้ มีมิกโซโลจิสต์กว่า 50 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน รวมถึง “น้องปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์” จากโรงแรมเซนต์ รีจิส ตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทยไปร่วมแข่งขันด้วย โดยมีพี่เลี้ยงฝีมือเยี่ยมอย่าง “แจน-เจนณรงค์ ภูมิจิตร” Brand Ambassador บริษัท ดิอาจิโอ โมเอต เฮนเนสซี (ประเทศไทย) พร้อมด้วยหัวเรือใหญ่จากประเทศไทยอย่าง “คุณภัทร์-ภีสภัทร์ ดีดับเข็ญ” ผู้อำนวยการขายสินค้าในกลุ่ม Reserve & Prestige อาทิ เฮนเนสซี, สเมอร์นอฟ วอดก้า, จอห์นนี วอล์กเกอร์ โกลด์ รีเสิร์ฟ-บลู รีเสิร์ฟ เลเบิล, โมเอต แอนด์ ชองดอง, และเคเทล วัน ว้อดก้า เป็นต้น ร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วย
บรรยากาศการแข่งขันเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ตื่นเต้น และลีลาของแต่ชาติที่ขนทักษะ อุปกรณ์ และลีลาสุดเร้าใจข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาประชันฝีมือกันแบบไม่มีใครยอมใคร ณ ดินแดนละตินอเมริกาแห่งนี้ มีการแบ่งสายการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่ม A กลุ่ม B กลุ่ม C และกลุ่ม D โดยน้องปาล์ม-ศุภวิชญ์ ตัวแทนจากประเทศไทยอยู่ในกลุ่มตัว D พร้อมด้วยผู้แข่งขันจากสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ สเปน ไต้หวัน ตรินิแดด เวียดนาม และสวีเดน ซึ่งทุกกลุ่มจะต้องโชว์ทักษะและความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มค็อกเทลแนวใหม่สุดล้ำเลิศ ภายใต้โจทย์ Tropical Journey และ Hollywood Bollywood Hong Kong โดยจะต้องมี จอห์นนี วอล์กเกอร์ บลู เลเบิล และโกลด์ เลเบิล เป็นส่วนผสมด้วย ตัดสินโดยคณะกรรมการซึ่งเป็นกูรูด้านเครื่องดื่มค็อกเทลระดับโลก อาทิ Salvatore Calabrese, Dale Degroff, Gary Regan, Peter Dorelli, Hidetsugu Ueno และ Spike Merchant เป็นต้น
ภายในโรงแรมโคปาคาบานา พาเลซ ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดริมหาดโคปาคาบานา สร้างขึ้นในปี 1920 ใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน ถูกเนรมิตให้เป็นเวทีประลองฝีมือการผสมค็อกเทลเป็นห้องแข่งขันตามโจทย์ต่างๆ ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันกำหนดขึ้น โดยใช้เวลาในการแข่งขัน 4 วัน จนกว่าจะได้ผู้ชนะเลิศ
การแข่งขันวันแรก ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคนจะต้องเข้ารับการอบรมถึงกฎ กติกา และมารยาท ในการแข่งขัน ก่อนจะเริ่มการแข่งขันขึ้น สำหรับน้องปาล์ม-ศุภวิชญ์ ตัวแทนจากประเทศไทย เริ่มการแข่งขันด้วยโจทย์ Tropical Journey โดยให้ผู้แข่งขันสะท้อนแรงบันดาลใจความเป็นทรอปิคอลผ่านเครื่องดื่มค็อกเทลรสเลิศ น้องปาล์มสะกดสายตาคณะกรรมการและผู้เข้าร่วมแข่งขันประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม ด้วยเครื่องดื่มในชื่อ Cast Away ที่มีส่วนผสมของตากีล่า “ดอน ฮูลิโอ” (Don Julio) ผสมเข้ากับนางเอกของตระกูลผลไม้อย่าง “ลิ้นจี่” เสิร์ฟในแก้วที่ทำจากกระบอกไม้ไผ่ พร้อมสัมผัสรสชาติความเป็นไทยจากใบมะกรูดผ่านหลอดที่ทำจากต้นกก จนสร้างความประทับใจไปตามๆ กัน
จากนั้น แข่งขันต่อด้วยโจทย์ Cocktail Mastery น้องปาล์มนำเสนอเครื่องดื่มค็อกเทลที่แสดงถึงความเป็นตัวตนมากที่สุดในชื่อ “Palm D'or” ที่สื่อถึงความเลอค่าของเครื่องดื่มในแบบ “ทองคำ” โดยเลือกสรรบาร์เซตสีทองเรืองรองบวกเข้ากับส่วนผสมชั้นเลิศอย่าง “จอห์นนี วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิล” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มค็อกเทลที่นอกจากจะเลอค่าแล้วยังเต็มเปี่ยมไปด้วยลูกเล่นต่างๆ เช่น ผงประกายทองที่ถูกโรยก้านอบเชยเมื่อนำไปคนในแก้วเปลี่ยนเป็นสีทองประกาย
ส่วนโจทย์ที่หลายคนให้ความสนใจไม่แพ้กัน คงต้องยกให้กับธีม “Hollywood Bollywood Hong Kong” โดยน้องปาล์มตัวแทนจากประเทศไทย นำเสนอแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สุดอมตะอย่าง “เจมส์ บอนด์ 007” มาโชว์ ไฮไลต์อยู่ที่การนำ “จอห์นนี วอล์กเกอร์ บลู เลเบิล” มาเป็นส่วนผสม แล้วใช้ปืนรมควันสร้างกลิ่นจากส้มและวานิลลาลงไปในวิสกี้ พร้อมใส่ผงทองลงไปแกว่งไกวให้สว่างไสวอยู่ในดีแคนเตอร์รูปทรงสุดคลาสสิก ทำให้ทุกครั้งที่ดื่มนอกจากรสชาติของเครื่องดื่มจะถูกปากแล้ว ผงทองที่เคลื่อนตัวไปมาในแก้ว ยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่มอีกด้วย
การแข่งขันสุดยอดค็อกเทลครั้งนี้ ทำให้น้องปาล์ม-ศุภวิชญ์ มีชื่อเป็นผู้เข้ารอบ 18 คนสุดท้าย จากผู้เข้าร่วมการแข่งขันจาก 50 คน 50 ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือว่าปีนี้ตัวแทนจากประเทศไทยมาไกลกว่าปีที่ผ่านมา โดยตำแหน่งสุดยอดมิกโซโลจิสต์โลกปีนี้ ณ เมืองริโอ เดอ จาเนโร ตกเป็นของ “ทิม ฟิลลิป” จากประเทศออสเตรเลีย
การแข่งขันสุดยอดค็อกเทลนี้ช่วยสร้างสีสันให้เวทีการประกวดค็อกเทลคึกคักมากยิ่งขึ้น และเป็นประตูสู่ความเป็นที่สุดของนักปรุงเครื่องดื่มค็อกเทลเลิศรสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศิลปะชั้นสูง กระตุ้นให้เกิดมิกโซโลจิสต์หน้าใหม่ๆ มากมาย ที่สำคัญมันช่วยเพิ่มรสนิยมในการดื่มค็อกเทลของนักดื่มขึ้นไปอีก ทำให้ต่อไปนี้เราจะไม่ได้พูดถึงแต่เรื่องรสชาติของค็อกเทลเท่านั้น หากแต่มันแสดงถึงอัตลักษณ์ในการดื่มของนักดื่มผู้มีรสนิยมอีกด้วย แล้วพบกันใหม่กับ Diageo Reserve WORLD CLASS ปี 2013 :: Text by FLASH