>>ไม่เพียงแต่สัญลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นเฉดสีเขียวเข้มที่ทำให้เรานึกถึงพืชพรรณธรรมชาติเท่านั้น แต่ “สตาร์บัคส์” ยังเน้นการทำธุรกิจในแบบกรีนคอนเซ็ปต์ ที่พยายามตอบแทนประโยชน์คืนสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายร่วมกันของสตาร์บัคส์ทั่วโลก และสตาร์บัคส์ประเทศไทยก็ขานรับกับคอนเซ็ปต์นี้อย่างจริงจัง จนทำให้สามารถสร้างร้านที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน LEED ® Gold เป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชีย ที่ สตาร์บัคส์ สาขาปอร์โต ชิโน
คอนเซ็ปต์ร้านแบบ “กรีนสโตร์” ของสตาร์บัคส์ คือการทำร้านกาแฟอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่สตาร์บัคส์มุ่งมั่นเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของร้านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยแนวคิดนี้เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2553 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเริ่มได้รับการรับรอง LEED® Certification ที่สาขา Pike Place เมืองซีแอตเทิล เป็นสาขาแรก
LEED® หรือที่ชื่อเต็มๆ คือ Leadership in Energy and Environmental Design คือ มาตรฐานการสร้างอาคารอนุรักษ์พลังงานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดย LEED ® อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ U.S. Green Building Council (USGBC) ของสหรัฐอเมริกา การประเมินในระบบ LEED® แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ แบบได้รับการรับรอง Certified, ระดับ Silver, ระดับ Gold และระดับ Platinum ซึ่งจะมีการจัดประเมินหลากหลายสาขา ทั้งแบบอาคารเก่า อาคารใหม่ ที่อยู่อาศัย หรืออาคารพาณิชย์ เป็นต้น
โดยเขาจะดูทั้งในการเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบที่ประหยัดพลังงานทั้งเรื่อง น้ำ ไฟ การดูแลสภาพแวดล้อม ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและแหล่งที่มา โดยแต่ละหัวข้อมีรายละเอียดที่ต้องเอาใจใส่มากมาย ทางสตาร์บัคส์ประเทศไทย จึงได้จับมือร่วมกับพันธมิตรอย่าง SCG ผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง LEED® มาช่วยในการดำเนินงานขั้นตอนต่างๆ
ปัจจุบัน สตาร์บัคส์ มีร้านต้นแบบ “กรีนสโตร์” ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED® ทั้งสิ้น 116 สาขาทั่วโลก ซึ่งจะมาจากสาขาในอเมริกาเป็นหลัก ส่วนในเอเชียมีเพียง 13 สาขา โดยส่วนใหญ่จะได้ระดับ Certified และ Silver มีเพียงสาขาปอร์โต ชิโน ของประเทศไทย ที่ได้รับระดับ Gold เป็นแห่งแรกในภูมิภาคนี้
โดยเขามีสารพัดหลักการออกแบบและแนวคิดการดำเนินงานที่สำคัญ ที่สามารถทำให้ผ่านมาตรฐานการรับรองสุดหินนี้ได้ ทั้ง– การเลือกใช้สีทาผนัง ที่ใช้สีทาภายในสูตรน้ำที่มีปริมาณสารระเหยอยู่ในระดับต่ำ ปลอดภัยสำหรับผู้ทำงานระหว่างการก่อสร้างและผู้ใช้งานอาคาร
– การเลือกใช้วัสดุท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ที่มีการรีไซเคิล อย่างกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและผนัง เป็นกระเบื้องที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลถึงร้อยละ 60, แผ่นฝ้าและผนังสมาร์ทบอร์ด เป็นแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ไม่ใช้แอสเบสตอส มีคุณสมบัติทนน้ำทนชื้น และยังมีความต้านทานความร้อนสูง ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในการผลิต
– ระบบปรับอากาศ Variable Refrigerant Flow (VRF) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถปรับปริมาณและควบคุมสารทำความเย็นหรือน้ำยาแอร์ตามสภาพอากาศของร้านในขณะนั้นๆ ผ่านการควบคุมด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ ทำให้ประหยัดการใช้พลังงานในการทำความเย็น
– ระบบควบคุมแสงสว่าง ที่มีระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจวัดระดับความสว่างของแต่ละพื้นที่ในร้าน
– หลังคา มีค่าการสะท้อนความร้อนสูง ทำให้สามารถลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคารและลดปรากฏการณ์เมืองร้อน (Heat Island Effect) ได้
– เลือกใช้หลอดไฟ LED ซึ่งเป็นหลอดที่มีประสิทธิภาพการให้พลังงานแสงสว่างสูงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้าภายในร้าน นอกจากนี้ยังคำนึงถึงปริมาณปรอทที่เจือปนภายในหลอดไฟที่อยู่ในระดับต่ำ
– ใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ ที่สามารถประหยัดน้ำได้สูงถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับสุขภัณฑ์ทั่วไป
– มีจุดรับกาแฟที่ใช้แล้ว ตั้งจุดแจกกากกาแฟให้ลูกค้าและพนักงานนำไปใช้ประโยชน์และเพื่อลดปริมาณขยะ ไม่ว่าจะนำไปผสมกับปุ๋ย ตลอดจนการนำไปขัดผิว เพื่อคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของสิ่งของได้สูงที่สุด
– ทำจุดจอดรถจักรยาน ส่งเสริมการประหยัดพลังงานในการเดินทางมาที่ร้าน โดยมีการติดตั้งจุดจอดรถจักรยาน และมีอุปกรณ์ดูแลซ่อมแซมขั้นพื้นฐานให้กับลูกค้า
นอกจากความสำเร็จในการช่วยดูแลโลกในสตาร์บัคส์สาขานี้แล้ว สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ยังตั้งใจเดินหน้าพัฒนาร้าน “กรีนสโตร์” อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้มาตรฐาน LEED ® มาใช้ในการปรับปรุงร้าน รวมถึงการออกแบบร้านเปิดใหม่ ซึ่งปัจจุบันนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มีร้านที่ผ่านการรับรองจาก LEED® อีกหลายแห่ง ทั้งที่สาขา CDC (ระดับ Silver) และอีก 3 สาขาในระดับ Certified อย่างสาขาเมกา บางนา, สาขาบ้านชาติ, สาขาอินท์ พระราม 3 และอีกกว่า 10 สาขาที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้เป็นไปตามเกณฑ์ของ “ร้านสีเขียว” และอยู่ระหว่างรอการรับรองอย่างเป็นทางการ
สำหรับใครที่อยากทำให้อาคารของตนเป็นอาหารสีเขียวเพื่อช่วยรักษาโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงนั้นต้องอาศัยทั้งเรื่องการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ การดำเนินการ และการปรับพฤติกรรมของผู้ที่อาศัยอยู่บนอาคาร โดยใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ลองสอบถามเพิ่มเติมได้ที่แผนก Green Building Center ของ SCG โทรศัพท์ 0-2586-5010 :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/