>>วันนี้ Celeb Online จะพาคุณไปรู้จักกับวิถีการดูแลสุขภาพวิถีใหม่ ที่ใช้แนวคิดผสมผสานหลักธรรมชาติบำบัด หรือศาสตร์การแพทย์ทางเลือก กับหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการวิจัยผลพิสูจน์รองรับ ที่จะเปิดโอกาสให้คุณได้ดูแลสุขภาพเชิงรุก มีวิธีป้องกันก่อนที่จะป่วย ช่วยระมัดระวังศัตรูร้ายแรงของสุขภาพคนไทยอย่างโรคหัวใจและมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบริการของ แมน เนเจอร์ แล็ป คลินิกเทคนิคการแพทย์ (Man Nature Lab)
คำกล่าวที่ว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีอะไรจะหักล้างได้ เพราะไม่ว่าคุณจะร่ำรวยมากแค่ไหน หรือประสบความสำเร็จเพียงใด แต่ถ้าสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เป็นโรคหรือมีอาการเจ็บป่วยก็ไม่มีทางที่จะมีความสุขไปได้ ดังนั้น วิธีเดียวที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความสุขอย่างสมบูรณ์ได้ คือการดูแลร่างกายให้ดีไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเยี่ยมเยือน
จุดเริ่มต้นแมน เนเจอร์ แล็ป
แมน เนเจอร์ แล็ป คลินิกเทคนิคการแพทย์ เริ่มจาก 2 กำลังหลัก คือ “อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” นักสื่อสารมวลชนผู้ที่สนใจด้านธรรมชาติบำบัดได้จับมือกับ “รศ.ดร.คล้ายอัปสร พงศ์รพีพร” นักวิทยาศาสตร์สาขาชีวเคมีระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านการถอดรหัสพันธุกรรม ผู้ซึ่งนำเอาเทคนิควิธีวิจัยมาช่วยให้คำแนะนำในเรื่องการดูแลสุขภาพให้กับคนไทย
“ด้วยความรู้และผลวิจัยของอาจารย์คล้ายอัปสร ที่ศึกษาด้านการถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์จนสามารถตรวจสอบได้ว่า มนุษย์เราเป็นโรคหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคใดบ้าง จากการสังเกตการกลายพันธุ์ของรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเน้นการศึกษาที่ 2 โรคคือโรคหัวใจและมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้คนเสียชีวิตมากที่สุด
เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเสี่ยงแต่ยังไม่ได้เกิดอาการ จึงไม่สามารถใช้การรักษาด้านแพทย์แผนปัจจุบันได้ จึงต้องใช้ความรู้ด้านธรรมชาติบำบัดในการช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อช่วยให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่ผมให้ความสนใจและศึกษามาอย่างยาวนาน มันจึงเป็นจุดที่มาบรรจบกันได้อย่างลงตัว และทำให้เราร่วมมือกันเปิดที่นี่ขึ้น” อาจารย์ปานเทพกล่าว
รศ.ดร.คล้ายอัปสร กล่าวเสริมว่า “แรงบันดาลใจเริ่มต้นในการทำแล็บตรวจการถอดรหัสพันธุกรรมนี่เกิดจากความตั้งใจที่อยากทำให้ความรู้ในตำราและการวิจัยที่ทำอยู่มันสามารถนำมาสานต่อให้เกิดผลได้ จึงคิดที่จะทำแล็บตรวจโดยเอาความรู้ที่เราทำวิจัยมาขยายผล ไม่ให้ความรู้เหล่านี้อยู่แค่ในตำราหรือวิทยานิพนธ์เท่านั้น
โดยแล็บที่ทำใช้ระบบมาตรฐานแบบเดียวกับการวิจัยของนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอกของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะละเอียดมาก และมีการออกแบบการทดลองให้เหมาะกับแต่ละเคส ไม่ใช่พวกแล็บสำเร็จรูปแบบที่เปิดกันทั่วไป โดยช่วงแรกก็เน้นการตรวจด้านโรคหลอดเลือดหัวใจเพราะเป็นเรื่องที่เลือกทำวิจัยจนได้รับรางวัลและสิทธิบัตรร่วมกับมหาวิทยาลัย คือเป็นการตรวจหาความผิดปกติในยีนส์หลอดเลือดหัวใจ
แต่คนไทยจะไม่ค่อยสนใจในโรคนี้นัก จึงมีคนแนะนำให้หันมาตรวจเรื่องมะเร็งซึ่งเป็นโรคที่คนไทยให้ความสำคัญมากกว่า ซึ่งในช่วงแรกนั้นก็เป็นการตรวจจากชิ้นเนื้อ และค่อยปรับมาใช้การตรวจเลือด ที่นอกจากจะให้ผลที่แม่นยำไม่ต่างกันแล้วยังสามารถที่จะบ่งชื้ความน่าจะเป็นของโรคในอนาคตได้อีกด้วย”
ธรรมชาติบำบัดคือคำตอบ
เมื่อหันมาศึกษาการถอดรหัสพันธุกรรมที่สามารถบ่งถึงแนวโน้มการป่วยในอนาคตได้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์พันธุ์แท้อย่าง รศ.ดร.คล้ายอัปสร เริ่มสนใจเรื่องธรรมชาติบำบัด “มีเคสของลูกค้าท่านหนึ่ง สมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งลำไส้กันหมด และแต่ละท่านก็ป่วยหนัก เสียเงินค่ารักษาไปเป็นสิบล้าน แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เสียชีวิตหมด เขาก็เครียดมาก กลัวจะเป็น ก็ตรวจเช็กค่าเลือด เช็กชิ้นเนื้อตลอดแต่ไม่พบ แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจจึงมาเลือกตรวจกับเราด้วย ซึ่งพอตรวจโดยวิธีการถอดรหัสพันธุกรรม ก็พบว่ามีเซลล์กลายพันธุ์ที่มีแนวโน้มจะเป็นสูงมาก ตรงตามข้อมูลประวัติครอบครัวเลย
พอรู้ผลเขาก็ใช้วิธีปรับพฤติกรรมโดยแพทย์ทางเลือก ใช้ธรรมชาติบำบัด แล้วเมื่อมาตรวจซ้ำอีกครั้งหลังจากนั้นอีก 6 เดือน ก็พบว่าแนวทางธรรมชาติบำบัดได้ผล เพราะสภาพเซลล์มีการเปลี่ยนแปลง แนวโน้มการเป็นมะเร็งลดลงอย่างเห็นได้ชัด และนั่นเป็นจุดที่ทำให้เริ่มหันมาสนใจเรื่องธรรมชาติบำบัดอย่างจริงจัง และพอได้ศึกษาก็พบว่ามันมีงานวิจัยมีบทความที่รองรับวิถีของธรรมชาติบำบัดอยู่เยอะแยะมากเลย เพียงแค่ก่อนหน้านี้เรายังไม่เคยตระหนักถึงข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน”
ส่วนอาจารย์ปานเทพกล่าวเสริมว่า “ส่วนตัวผมเองสนใจเรื่องงานธรรมชาติบำบัดและทำการศึกษามานานแล้ว ว่าจะทำอย่างไรให้คนเราพึ่งยาน้อยลง ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมชีวิตและการรับประทาน ซึ่งแนวคิดนี้มันมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว และคนยังไม่ได้ให้การยอมรับหรือแพร่หลายนัก
เนื่องจากจุดอ่อนของธรรมชาติบำบัดคือ หลักการหรือวิธีปฏิบัติส่วนใหญ่มาจากการบอกต่อๆ หรือจากคำพูด “เขาเล่าว่า….” ซึ่งไม่มีใครรองรับได้ว่ามันเป็นความจริงหรือเท็จอย่างไร ได้แต่บอกต่อๆ กันมา มันไม่มีทฤษฎีหรือผลทดลองใดๆ มารองรับว่าจะประสบผลสำเร็จ อาจมีบางรายลองทำแล้วเห็นผล แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะปัจจัยหรือสาเหตุใด อาจจะเป็นการอุปทาน จิตคิดไปเอง ทำให้สภาพร่างกายดีขึ้นก็เป็นได้
และยิ่งทุกวันนี้โลกของโซเชียลเน็ตเวิร์กมันไปไกล เราจะเห็นข้อมูลเหล่านี้แชร์ผ่านในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก หรือไลน์ อยู่ตลอด ทำให้ผมที่สนใจในด้านนี้กลัวว่าถ้าปล่อยต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้คนรังเกียจ ไม่เชื่อถือเรื่องธรรมชาติบำบัดอีกต่อไป เพราะว่าเหมือนถูกหลอก ไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง
จึงเล็งเห็นว่าจะปล่อยให้เป็นทิศทางแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ผมจึงหันมาทำงานด้านสื่อมวลชนอย่างจริงจังเพื่อเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง โดยการศึกษาเรื่องธรรมชาติบำบัดเพื่อหาข้อมูลที่แท้จริงมายืนยัน ทำให้เรื่องธรรมชาติบำบัดเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ หาผลงานวิจัยมารองรับ เพื่อให้ได้ข้อมูลด้านธรรมชาติบำบัดที่ถูกต้องและสร้างการยอมรับอย่างแท้จริง โดยการสนับสนุนความรู้ ผลวิจัย ทฤษฎีต่างๆ เป็นอย่างดีจากทาง รศ.ดร.คล้ายอัปสร”
ตรวจเลือดเปลี่ยนชีวิต
การบริการของที่นี่ใช้วิธีการตรวจเลือด โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือการตรวจภูมิแพ้อาหาร, การตรวจโละหนักในกระแสเลือด และการถอดรหัสพันธุกรรม โดยในส่วนการตรวจภูมิแพ้อาหารก็เพื่อการลดอาการเจ็บป่วยของคนเราที่เกิดจากการแพ้สารอาหารบางชนิด ทั้งแบบเฉียบพลันที่จะออกอาการให้เห็นอย่างเด่นชัดในทันที และแบบภูมิแพ้แฝงที่คุณไม่อาจทราบได้เลยว่ากำลังแพ้สิ่งนั้นอยู่ เพราะจะไม่ส่งผลให้สังเกตเห็นได้ทันที แต่อาจจะใช้เวลานานถึง 3 วันจึงจะแสดงอาการ ซึ่งตลอด 3 วันคุณก็ได้สัมผัสกับอาหารและสารต่างๆ มากมายจนไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเกิดจากการแพ้สิ่งใดกันแน่
ที่สำคัญอาการที่เกิดขึ้นจากภูมิแพ้อาหารแฝงคือ อาการคลาสสิกที่คนเรามักจะประสบกันเป็นประจำอย่างอาการปวดหัว, นอนไม่หลับ, ผื่น, น้ำมูลไหล, หอบ, คัดจมูก, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, ปวดข้อ, ปวดกล้ามเนื้อ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เกิดจากการรับประทานอาหารได้หมดแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ซึ่งทำให้ต้องคอยกินยาเพื่อรักษาเหล่านี้ ช่วยบรรเทาที่ปลายเหตุไม่ได้แก้ไขต้นตอของอาการ การเข้ารับการตรวจนี้ก็ช่วยให้ทราบว่าอาหารใดที่เราแพ้บ้าง และเมื่อหลีกเลี่ยงหรือลดอาหารเหล่านั้นลงก็จะทำให้คุณสามารถห่างจากการเจ็บป่วยได้
ด้านการตรวจโลหะหนักนั้นเพื่อช่วยให้คุณรู้ว่าขณะนี้ร่างกายได้รับสารพิษหรือโลหะหนักเข้าไปในปริมาณเท่าไร และส่งผลเสียใดต่อสุขภาพบ้าง เพราะทุกวันนี้คนเราต้องประสบกับสารปนเปื้อนและโลหะหนักได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นมลพิษ, ข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงสีทาบ้าน ต่างมีส่วนผสมของโลหะหนักทั้งสิ้น และการสะสมสารพิษเหล่านี้ในปริมาณมากๆ เป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยของคนได้หลายโรคมาก
เมื่อรับรู้ถึงปัญหาแล้วว่าร่างกายคุณมีโลหะหนักชนิดไหนตกค้างอยู่มาก ก็สามารถเลือกเพื่อทำการปรับพฤติกรรมความเป็นอยู่ การเลือกใช้สินค้า และอาหาร และการใช้การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัดเข้ามาช่วยขับสารพิษ อย่างแคดเมียม เป็นสาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง มีการศึกษาว่าสามารถขับออกจากร่างกายได้ทางน้ำดีและตับ การล้างพิษตับก็เข้ามาช่วยตอบโจทย์นี้ได้
ถอดรหัส DNA เพื่อวางแผนชีวิต
ส่วนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดคือการถอดรหัสพันธุกรรม นั่นคือ การสร้างแผนที่ของสุขภาพให้คุณได้วางแผนที่จะป้องกันก่อนการเกิดโรค หรือถ้าป่วยเป็นโรคแล้ว ก็สามารถช่วยให้คุณเลือกทิศทางการรักษาได้อย่างถูกต้อง เพราะการถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ คือการสังเกตรหัสพันธุกรรมในตำแหน่งต่างๆ ว่าเกิดการกลายพันธุ์และเกิดการเสียหายตรงจุดไหนบ้าง ซึ่งจะบอกได้ว่าคนคนนั้นเป็นโรคหรือมีแนวโน้มจะเป็นโรคในอนาคต ซึ่งจะเน้นที่การตรวจโรคมะเร็งเป็นหลัก
ถ้าผลการถอดรหัสพันธุกรรมบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มจะเป็นโรคมะเร็ง แน่นอนว่าจะใช้วิธีให้ยา คีโม หรือฉายแสง จะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากอาการยังไม่เกิดจึงไม่สามารถจะใช้วิธีรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันได้ ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาคือการใช้ธรรมชาติบำบัดเข้ามาช่วยปรับพฤติกรรม เนื่องจากการกลายพันธุ์ของรหัสพันธุกรรมร้อยละ 95 เกิดจากวิถีการใช้ชีวิต มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เกิดจากกรรมพันธุ์ การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ การเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังจึงสามารถช่วยส่งผลต่อการซ่อมแซมการกลายพันธุ์ของรหัสพันธุกรรมได้
ส่วนผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งนั้น การถอดรหัสพันธุกรรมก็จะช่วยให้ข้อมูลคุณได้ว่า วิธีการรักษาแบบไหนที่จะเหมาะสมกับร่างกายคุณ ซึ่งมี 4 ทางเลือก 1.คีโม 2.ฉายแสง 3.ใช้ยาตามเป้าหมาย 4.ธรรมชาติบำบัด เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละท่านมีรหัสพันธุกรรมที่สอดคล้องกับวิธีการรักษาไม่เหมือนกัน และหากไม่ถอดรหัสพันธุกรรมจะไม่มีทางรู้ได้ว่าวิธีการไหนอาจทำให้โรคมะเร็งลุกลามเลวร้ายลงกว่าเดิม การมาตรวจแบบนี้เพื่อให้ทราบข้อมูลที่ละเอียดและครบถ้วนเพื่อตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องไปลองผิดลองถูก
วิธีการถอดรหัสพันธุกรรมที่นี่ ใช้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์แบบรายบุคคลทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกของแต่ละคน และสามารถนำไปวางแผนการใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างตรงจุด เพราะมนุษย์เรามีความแตกต่างกัน ดังนั้น ไม่ว่าทฤษฏีไหน หรืองานวิจัยชื่อดังอย่างไร มันก็ไม่สามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับทุกคนได้เสมอไป การทำวิจัยแบบเฉพาะบุคคลเท่านั้นถึงจะให้ข้อมูลถูกต้องและครบสมบูรณ์ที่สุด ที่เหมาะจะนำไปใช้ในการวางแผนที่ในการดำเนินชีวิต
“การมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน แล้วเลือกกตัดสินใจรักษาไปในทางที่ผิด นั่นเป็นการเสียโอกาสครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะนอกจากจะไม่หายแล้วยังเสียเวลาอันมีค่า เสียค่าใช้จ่ายที่สูง และอาจทำให้หมดโอกาสที่จะรักษาให้หายเลยก็เป็นได้” อาจารย์ปานเทพกล่าวทิ้งท้าย :: Text by FLASH
แมน เนเจอร์ แล็ป คลินิกเทคนิคการแพทย์ (Man Nature Lab) มุ่งให้ข้อมูลแก่ประชาชน ในการวางแผนดูแลสุขภาพ สำหรับผู้ที่ยังไม่ป่วย และเป็นข้อมูลสำหรับแพทย์ในการวางแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วย เพื่อการปฏิวัติสุขภาพของตนเอง โดยแบ่งบริการออกเป็น 3 ส่วน
1.บริการตรวจ Food Test ภูมิแพ้อาหาร โดยจะใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยผลประมาณ 7-15 วัน โดยแบ่งการตรวจออกเป็น ดังนี้
-บริการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงเรื้อรัง 221 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้เฉียบพลัน 30 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้เอเชียแบบแฝงเรื้อรัง 96 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้เอเชียแบบเฉียบพลัน 96 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้เอเชียแบบแฝงเรื้อรังและเฉียบพลัน 96 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้ผักและผลไม้แบบแฝงเรื้อรัง 96 ชนิด
-บริการตรวจภูมิแพ้สำเร็จรูป 12 ชนิด
2.บริการตรวจโลหะหนัก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสารพัดโรค โดยโลหะหนัก 4 ชนิดที่มักพบในปัจจุบัน คือ
-สารหนู ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านการทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และเม็ดเลือดขาวมีปริมาณลดลง การเปลี่ยนแปลงของลักษณะผิวและการติดเชื้อในปอด
-ตะกั่ว เป็นอันตรายต่อระบบประสาทก่อให้เกิดความดันโลหิตสูง รวมทั้งความผิดปกติด้านสมอง
-ปรอท สามารถก่อให้เกิดความผิดปกติทางระบบประสาท ระบบเส้นเลือดหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบสืบพันธุ์ และแคดเมียม ที่ก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อ
โดยมีบริการตรวจหาโลหะหนักในกระแสเลือด ดังนี้ บริการตรวจโลหะหนักในกระแสเลือด 5 ชนิด และบริการตรวจโลหะหนักในกระแสเลือด 13 ชนิด ใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยผลประมาณ 7 – 15 วัน
3.บริการตรวจการถอดรหัสพันธุกรรม จาก Plasma RNA และ Plasma DNA
การถอดรหัสพันธุกรรมจากพลาสม่าดีเอ็นเอ และพลาสม่าอาร์เอ็นเอ ทางใหม่ของการตรวจเพื่อป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งจากสถิติโรคมะเร็งคร่าชีวิตคนไทยชั่วโมงละ 6 คน เป็นโรคอันดับ 1 ที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยผู้ที่ควรตรวจ ได้แก่ ผู้ที่มีประวัติครอบครัว, คนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ, ผู้ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เอื้อต่อสูขภาพ เช่นสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เครียดตลอดเวลา ฯลฯ, ผู้ที่มีประวัติสุขภาพบางอย่าง เช่น ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ และผู้สูงอายุที่รักสุขภาพ
โดยบุคคลทั่วไป ใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยประมาณ 2 เดือน และสำหรับผู้ป่วย ใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยประมาณ 2 สัปดาห์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แมน เนเจอร์ แล็ป คลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่ตั้ง 102/1 ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2629-4488 หรือ 096-065-3684-5