Celeb Online

เสริมสิริมงคลตรุษจีน แวะทำบุญวัดดังในต่างแดน


>>เมื่อพูดถึงสิงคโปร์ หลายคนอาจจะนึกถึงตึกสูงระฟ้า แหล่งชอปปิ้งหรูหราสำหรับขาชอป ร้านอาหารจากเหล่าเชฟชื่อดัง รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกนับไม่ถ้วน แต่อีกหนึ่งกิจกรรมที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลายคนเวลาไปสิงคโปร์ คือการเข้าวัด เพราะการเข้าวัดทำบุญถือได้ว่าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจได้ทางหนึ่ง และนี่คือ 9 ตัวอย่างวัดดังในสิงคโปร์ สำหรับใครที่ต้องการจะขอพรเรื่องโชคลาภ ความรักดีๆ หรือแม้แต่เสริมดวงแก้ปีชง ก็สามารถเดินทางไปขอพรตามวัดเหล่านี้ให้สมหวังดังตั้งใจกันได้ทุกคน

ดังนั้นตรุษจีนปีนี้ถ้าใครยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ลองแวะไปเสริมดวงที่วัดมงคลที่ประเทศสิงคโปร์กันได้
โดย Route for Wealth เส้นทางเพื่อโชคลาภที่ควรเดินทางไปกราบไหว้มีดังนี้

วัดเซียน จู่ กง (Xian Zu Gong Temple)
วัดจีนที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาวจีนเพื่อถวายแด่เทพเจ้าตั่วแป๊ะกงซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ นอกเหนือจากการมากราบไหว้บูชาเพื่อโชคลาภและความเป็นสิริมงคลแล้วคนสิงคโปร์ก็นิยมมาขอพรให้ท่านเทพเจ้าช่วยปกป้องให้แคล้วคลาดจากศัตรูหรือภัยอันตรายอีกด้วย
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Telok Ayer ทางออก A

วัดตันสิชงซู (Tan Si Chong Su Temple)
วัดฮกเกี้ยนโบราณ ซึ่งสร้างอยู่ในบริเวณที่ถือว่าถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยมากที่สุดแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถมาชมความงดงามของวัดนี้ ที่มีความโดดเด่นด้านการตกแต่งด้วยรูปปั้นสัตว์มงคลต่างๆ รอบบริเวณวัด จุดพิเศษอีกจุดหนึ่งของวัดนี้ ได้แก่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในบริเวณวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมแวะเวียนมาขอพรเกี่ยวกับโชคลาภกันที่บ่อน้ำแห่งนี้อีกด้วย
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Clarke Quay ทางออก B

วัดซัมบาวัง (Sembawang God of Wealth Temple) 
เทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือในภาษาจีนเรียกว่า “ ไฉ่ ซิ้ง เอี้ย” นับว่าเป็นเทพเจ้าที่ชาวสิงคโปร์ให้ความเคารพบูชามากที่สุดองค์หนึ่ง ซึ่งที่วัดแห่งนี้เองก็มีเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน โดยองค์เทพเจ้านั้นจะตั้งอยู่บนหลังคา ตัวองค์เทพเจ้าเป็นสีทอง มีความสูงถึง 9.44 เมตรและหนักถึง 8 ตันเลยทีเดียว ถ้าใครอยากทำธุรกิจรุ่งเรือง ทำการค้าขายคล่องตัว ก็ไม่ควรพลาดโอกาสที่จะมาไหว้ขอพรที่วัดแห่งนี้

การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Sembawang ทางออก C

ส่วนอีกเส้นทาง Route for Love เส้นทางเพื่อความรัก ต้องไปยัง

วัดเจ้าแม่กวนอิม (KuanImTng Temple, JooChiat )
ภายในวัดนี้ สิ่งที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างแรกคงหนีไม่พ้นรูปปั้นหล่อของพระจุณทีโพธิสัตว์ นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดผู้คนให้มาขอพรกันเรื่องความรักแล้ว วัดนี้ยังเป็นวัดที่มีความสวยงามจากภาพวาดแกะสลักแบบจีนที่มีสีสันลวดลายอันงดงามตระการตา นอกเหนือจากนั้นผู้ที่ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีสวดที่จัดขึ้นได้ในทุกคืนวันเสาร์ เวลา 20.00 น.เป็นต้นไป หรือหากใครไม่สะดวกก็สามารถเขียนชื่อ เพศ วัน เดือน ปี เกิด และอายุ ลงในกระดาษสีชมพู จากนั้นนำไปให้เจ้าหน้าที่ประกอบพิธีให้ในวันเสาร์ได้เช่นเดียวเช่นกัน
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี PayaLebar ทางออก A

วัดเยี่ยไห่ชิง(Yueh Hai Ching Temple หรือ Wak Hai Cheng Bio)
วัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ใครที่อยากสมหวังเรื่องความรัก ก็ขอเชิญชวนให้ไปไหว้เทพเจ้า ‘Elder of Moon’ โดยให้นำด้ายสีแดงไปคล้องไว้ที่องค์เทพเจ้าและขอพรเรื่องความรัก ซึ่งผู้ที่มากราบไหว้ต่างสมหวังกันมากมายจนวัดได้รับการขนานนามว่าเป็น “The Love Temple” เลยทีเดียว นอกจากนั้นภายในวัดยังมีเทพเจ้าอื่นๆให้ได้ทำการอธิษฐานขอพรอีก เช่น เทพเกี่ยวกับการขอบุตรและเทพเกี่ยวกับการขอเรื่องความสำเร็จในด้านการศึกษา
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Raffles Place ทางออก D

วัดเทียนฮกเก๋ง (Thian HockKengTemple)
อีกหนึ่งวัดจีนที่มีจุดประสงค์หลักในการสร้างเพื่อบูชาเจ้าแม่แห่งท้องทะเลหรืออีกชื่อหนึ่งว่าเจ้าแม่ทับทิม (MaZu) ซึ่งถือเป็นวัดที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ด้วยลวดลายและฝีมือการแกะสลักที่ประณีตบรรจง โดยเฉพาะรูปปั้นมังกรบนหลังคาที่เห็นโดดเด่นเป็นสง่า จุดเด่นอีกอย่างที่น่าสนใจคือวัดนี้เป็นวัดเดียวในสิงคโปร์ที่ทำการก่อสร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว ในส่วนของวัดนี้คนส่วนใหญ่จะเน้นขอพรเกี่ยวกับเรื่องของความสงบสุขชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและราบรื่น โดยเฉพาะใครที่ต้องการขอพรเรื่องบุตรหรือความรักนั้นห้ามพลาดการไปขอพรต่อเจ้าแม่แห่งท้องทะเลเด็ดขาด
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Telok Ayer Exit A จากนั้นเดินจากวัดเยี่ยไห่ชิง ไปทางถนน Telok Ayer มุ่งหน้าไปทาง Chinatown ประมาณ 500 เมตร วัดจะอยู่ทางด้านขวา

ส่วนใครที่อยากเสริมดวงชะตาต้องไปที่ Route for Luck เส้นทางเพื่อเสริมดวง

วัดพระเขี้ยวแก้ว (The Buddha Tooth Relic Temple and Museum)
วัดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางย่านไชน่าทาวน์ ถูกออกแบบตามแบบสถาปัตยกรรมจีนในสมัยราชวงศ์ถัง โดยตัวอาคารจะเน้นสีแดงสด นอกจากนี้วัดแห่งนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นพระทนต์ของพระพุทธเจ้าถูกบรรจุอยู่ในสถูปทองคำตั้งอยู่ด้วย ส่วนชั้นดาดฟ้า ยังมีทั้งสวนดอกไม้สวยงาม รวมไปถึงระฆังยันต์ใบใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง บนตัวระฆังนั้นมีคำย่อสั้นๆของบทสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล มีผู้คนมากมายเดินทางมาที่นี่เพื่อแก้ปีชง เสริมดวง และขอพรจากเทพเจ้าที่คุ้มครองปีเกิด

การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Chinatown ทางออก A

วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว (Kwan Im Thong Hood Cho)
วัดที่ชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวนับถือและมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ในทุกๆวันจะมีผู้คนมากราบไหว้ขอพรกันอย่างเนืองแน่น ความเชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ในองค์เจ้าแม่กวนอิมนั้นก็มาจากคนที่มาไหว้ขอพรแล้วมักจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมมาขอพรเพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาวอีกด้วย และสิ่งสำคัญที่พลาดไม่ได้ คือการเสี่ยงเซียมซี เพราะชาวสิงคโปร์เชื่อกันว่าเซียมซีที่นี่แม่นมากที่สุด อยากรู้ว่าแม่นแค่ไหนต้องไปลองกันด้วยตัวเอง
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Bugis ทางออก C

วัดศรีมาริอัมมัน(Sri MariammanTemple)
วัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์แห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้แด่พระศรีมาริอัมมันหรือพระแม่อุมาเทวีผู้เป็นเทวีแห่งอำนาจและสันติสุข ซึ่งชาวฮินดูในประเทศสิงคโปร์เชื่อกันว่าสามารถช่วยปกปักรักษาผู้คนให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่งดงามโดดเด่น โดยเฉพาะซุ้มประตูที่ถูกประดับด้วยรูปเทวดาแกะสลักเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่มาเยือนในเดือนตุลาคม หรือพฤศจิกายน ก็จะได้เห็นพิธีลุยไฟซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีอีกด้วย
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน MRT สถานี Chinatown ทางออก A

มาเก๊า … เกาะศักดิ์สิทธิ์

หรือถ้าใครยังทำบุญหรือเสริมมงคลกันไม่จุใจลองแวะเวียนไปยังมาเก๊าได้ เพราะเกาะขนาดเล็กแห่งนี้เต็มไปด้วยวัดวาอารามและศาลเจ้าที่ล้วนศักดิ์สิทธิ์และเป็นแหล่งสิริมงคลอันลือชาทั้งสิ้น โดยควรแวะเวียนไปยังสถานที่เหล่านี้

วัดอาม่า (A-Ma Temple)
วัดอาม่าเป็น 1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า และนับว่าเป็นวัดดังในมาเก๊าที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันมากที่สุด สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงตั้งแต่ปี ค.ศ.1788 อีกทั้งวัดอาม่าแห่งนี้ได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ภายในวัดมีองค์อาม่าหรือเจ้าแม่ทับทิมเป็นองค์ประธาน นิยมมาขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัวโดยบูชาด้วยธูปขด-เทียน หรือเทียนดอกบัวคู่เพื่อขอพรเรื่องคู่ครองคนรัก ภายในวัดมีก้อนหินขนาดใหญ่แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เชื่อกันว่าหากพกธนบัตรที่นำไปลูบกับภาพจำลองเรือแกะสลักบนหินแล้วจะมีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา

วิธีบูชา
บูชาด้วยเทียน 1 คู่ ปักซ้าย-ขวา
จุดธูปเล็กทั้งกำ ทั้งหมด 15 ดอก ปักกระถางละ 3 ดอก
เผากระดาษเงินกระดาษทอง
เวลาเปิด – ปิด: 07.00 – 18.00
สถานที่ Rua de Sao Tiago da Barra
รถประจำทาง: 1 2 5 6B 7 10 10A 11 18 21A 26 28B N3

วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kun lam Temple)
วัดเจ้าแม่กวนอิมเป็น 1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า และเป็นหนึ่งในวัดใหญ่ที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ภายในวัดมีองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ประดิษฐานภายในแต่งเครื่องทรงอาภรณ์ ด้วยชุดเจ้าสาวโบราณทำจากผ้าไหม มีความงดงามยิ่งนัก ที่วัดนี้ผู้คนนิยมมาขอพรเรื่องเงินทองและโชคลาภ
วิธีบูชา (ในวิหารเจ้าแม่กวนอิม)
บูชาด้วยเทียน 1 คู่ ปักซ้าย-ขวา
ธูปใหญ่ 3 ดอก ปักตรงกลาง
จุดธูปเล็กทั้งกำ ปักกระถางละ 3 ดอก ทุกกระถาง ออกไปจนถึงหน้าวัด
เวลาเปิด-ปิด: 07.00-17.30
สถานที่: 2 Avenida do Coronel Mesquita เกาะมาเก๊า
รถประจำทาง: 12 17 18 23 28C

วัดเปากง (Pau Kung Temple)
วัดเปากง มีเทพประธานของศาล คือ เทพเปากง หรือ เปาบุ้นจิ้นที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เชื่อกันว่าเป็นเทพแห่งความยุติธรรม ผู้คนจึงนิยมมาขอพรจากเทพเปากงให้ช่วยปัดเป่าคนปองร้าย หรือ ศัตรู นอกจากนี้ที่วัดเปากงยังมีหอเทพไท้ส่วยเอี๊ย 60 องค์ สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชง

วิธีบูชาเทพเปากง
บูชาด้วยเทียน 1 คู่
ธูปใหญ่ 3 ดอก
ธูปเล็ก 3 ดอก ปัก 3 จุด
กระดาษเงินกระดาษทอง
วิธีบูชาเทพไท้ส่วย
บอกปีเกิดกับเจ้าหน้าที่
จุดเทียนคู่ ปักกระถางซ้าย-ขวา
จุดธูปใหญ่ 3 ดอก ปักกระถางเดียว
จุดธูปเล็ก 9 ดอก ปักกระถางเดียว
เจ้าหน้าที่จะสวดให้ ยกกระดาษเงินกระดาษทองแล้วบอกชี่อตัวเอง
เจ้าหน้าที่จะนำกระดาษเงินกระดาษทองไปตั้งที่เทพประจำวันเกิด
นำกระดาษไปเผา
เวลาเปิด-ปิด: 07.00-18.00
สถานที่: Rua da Figueira เกาะมาเก๊า
รถประจำทาง: 8A 17 18 18A 19 26

วัดซำไกวุยคุน (Sam Kai Vui Kun Temple)
วัดซำไกวุยคุน หรือเรียกอีกชื่อว่าวัดกวนไท คนไทยเรียกว่า วัดเทพเจ้ากวนอู สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้ากวนอู ได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จึงเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการเคารพในฐานะเทพอุปถัมภ์และเทพผู้ปกป้องคุ้มครองของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจ นักการเมือง และผู้นำทางธุรกิจ ที่นิยมมากราบไหว้เพราะเชื่อว่าสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆและช่วยเสริมอำนาจบารมีในการปกครองและคุ้มครองบริวาร

วิธีบูชาเทพกวนอู
เติมน้ำมัน อธิษฐานพร้อมบอกชื่อนาม-สกุล
เคาะภาชนะโลหะ 3 ครั้ง + ตีกลอง 3 ครั้ง + เคาะระฆัง 3 ครั้ง
บูชาด้วยเทียน 1 คู่ ซ้าย-ขวา
ธูปใหญ่ ปัก 4 กระถาง กระถางละ 3 ดอก
ธูปเล็ก ปัก 14 กระถาง กระถางละ 3 ดอก
กระดาษเงินกระดาษทอง
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-18.00
สถานที่: 10 Rua Sui do Mercado de Sao Domingos เกาะมาเก๊า
รถประจำทาง: 3 4 6A 8A 18A

ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม (Kun lam Ecumenical Center)
ศูนย์ส่งเสริมศาสนาเจ้าแม่กวนอิม หรือที่รู้จักกันในนาม เจ้าแม่กวนอิมปรางค์ทอง ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมทะเล มีความสูงกว่า 20 เมตร สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่บนฐานดอกบัว 16 กลีบ ที่มีความสูง 7 เมตร ดูงดงามอ่อนช้อย เมื่อสะท้อนกับแดดยามเย็นจะเห็นเป็นสีเหลืองอร่ามงดงามจับตา ภายใต้ฐานดอกบัวแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นที่ 1 ประกอบด้วย ห้องสำหรับประชุมหรือจัดเลี้ยงและเคาน์เตอร์ของที่ระลึก ชั้นที่ 2 เป็นห้องนั่งสมาธิ และห้องสมุดเล็กๆ ที่รวบรวมคำสอนต่างๆ จากพุทธศาสนา องค์เจ้าแม่กวนอิมรูปนี้มีความพิเศษคือมีพระพักตร์เป็นพระแม่มารี แต่อาภรณ์เป็นเจ้าแม่กวนอิม สืบเนื่องมาจากทางกาารโปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่มาเก๊า ในโอกาสที่ส่งมอบมาเก๊าคืนให้กับจีน นอกจากนี้มีความเชื่อว่าหากใครมาไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิมแล้วสามารถหาสัญลักษณ์ infinity หรือเลข 8 ที่ซ่อนอยู่ทั้ง 3 แห่งพบ จะทำให้มีโชคดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-18.00
สถานที่: Avenida Dr Sun Yat Sen เกาะมาเก๊า
รถประจำทาง: 3A 8 10A 12 17 :: Text by FLASH