ในวันพักผ่อนสบายๆ ของคนเมือง จะดีกว่าหรือไม่ หากคุณได้ทำกิจกรรมยามว่างร่วมกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก อย่าง น้องหมาและน้องแมวของคุณ วันนี้เรามี 5 กิจกรรมสุดคูล มาแนะนำสำหรับคนที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly Residences) คอนโดฯ ที่เปิดกว้างให้ผู้อยู่อาศัยเลี้ยงสัตว์ได้ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง Pet Zone และภายในห้องพักของคุณ
เพราะทุกวันนี้การเลี้ยงสัตว์เป็นเสมือนอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ ที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นอีกหนึ่งสมาชิกในครอบครัว การเลือกที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly Residences) จึงไม่เพียงแต่จะมอบประโยชน์กับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ทว่าเป็นการมอบความสุขให้กับตัวคุณเอง ในการใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณได้อย่างใกล้ชิดในทุกที่ทุกเวลา เพราะคอนโดฯ ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ จะมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือ Pet Zone ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยและสัตว์เลี้ยง เพื่อให้ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องพัก
เช่น โครงการคอนโดมิเนียมของ เมเจอร์ ดีเวลอปเม้นท์ ผู้นำในการพัฒนา Pet-friendly residences ในทุกโครงการคอนโดมิเนียม อาทิ เมทริส พระราม 9-รามคำแหง, เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย, เมทริส ลาดพร้าว, มาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี ฯลฯ โดยมีข้อตกลงร่วมในการดูแลความเรียบร้อยภายในโครงการให้เจ้าของสามารถเลี้ยงสุนัข แมว และกระต่าย ที่มีขนาดโตเต็มวัยไม่เกิน 15 กิโลกรัม และต้องขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงกับนิติบุคคลก่อนเข้าโครงการเพื่อรับรองว่าผ่านการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนตรงเวลาและกำจัดเห็บหมัดเรียบร้อย
5 กิจกรรมในวันสบายๆ ที่ได้อยู่กับสมาชิกในครอบครัวตัวน้อย อย่าง น้องหมาและน้องแมว
1.สนุกกับของเล่นชิ้นโปรด การให้สัตว์เลี้ยงอยู่แต่ในห้องพักอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตใจ เจ้าของควรพาน้องหมาน้องแมวออกไปสัมผัสบรรยากาศภายนอก เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ในบริเวณ Pet Zone ที่ทางโครงการจัดไว้ให้ ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดให้เจ้าของต้องใส่สายจูงสัตว์เลี้ยง ขณะใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับสัตว์ตัวอื่น กิจกรรมนี้ เจ้าของอาจจะนำอุปกรณ์จำพวกกรวยไปวางให้น้องหมาฝึกสมาธิวิ่งหลบหลีกสิ่งกีดขวาง รวมถึงลูกบอลและของเล่นชิ้นโปรดอื่นๆ ไว้เล่นเกมเก็บของที่พวกเขาชื่นชอบ
2.ฝึกให้ทำตามคำสั่งง่ายๆ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียมคือการฝึกวินัย ไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน ทั้งการขับถ่าย การกัดแทะสิ่งของ โดยเฉพาะ น้องหมาที่อาจเห่าส่งเสียงดัง หรือแอบไปวิ่งเล่นนอกห้อง จนอาจทำให้สัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ แตกตื่นได้ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการใช้เวลาร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงที่สะดวกที่สุด สามารถทำได้ภายในห้องพักของตัวเอง เช่น ฝึกคำสั่ง “หยุด” หรือ “รอ” รวมถึงการฝึกให้ชินกับสายจูง ป้องกันสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเวลาพาสัตว์เลี้ยงออกไปเจอกับสัตว์ตัวอื่นในพื้นที่ Pet Zone หากมีขนมชิ้นเล็กๆ ไว้ให้เมื่อน้องทำตามคำสั่งได้ ก็จะเป็นแรงจูงใจให้น้องสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น
3.ใช้ Pet Zone พบปะกับเพื่อนตัวอื่น เนื่องจากคอนโดฯ ที่เป็น Pet-friendly residences มีข้อดีคือเราไม่ต้องเลี้ยงสัตว์แบบหลบๆ ซ่อนๆ ภายในโครงการจะมีคนรักสัตว์คนอื่นๆ ที่มีน้องหมาน้องแมวอยู่ด้วยเช่นกัน จึงถือเป็นโอกาสดีที่จะได้พาน้องหมาและน้องแมวของเราออกไปยังพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อที่จะได้มีสังคมสัตว์เลี้ยง เล่นกับเพื่อนสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกัน เจ้าของสัตว์เลี้ยงก็อาจจะแลกเปลี่ยนเทคนิคหรือมุมมองในการดูแลสัตว์เลี้ยงระหว่างกันได้ เพื่อช่วยกันดูแลให้เป็นสังคมเลี้ยงสัตว์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยท่านอื่นในโครงการ ทั้งคนที่เลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์ ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกัน
4.ถึงจะตัวเล็กก็ต้องออกกำลังกาย การพาสุนัขออกไปเดินเล่นอาจไม่ใช่กิจกรรมที่ทำได้บ่อยนัก แต่สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย จะส่งผลเสียต่อกล้ามเนื้อ หรือมีปัญหาน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานได้ การมีอุปกรณ์ออกกำลังกาย อย่าง ลู่วิ่งไฟฟ้าภายในห้องพัก จะช่วยให้น้องหมาได้เคลื่อนไหวร่างกาย โดยเริ่มจากความเร็วต่ำสุดก่อน ให้สัตว์เลี้ยงไม่ตื่นกลัวและคุ้นเคย จากนั้นค่อยเพิ่มระดับความเร็วที่เหมาะสม ส่วนน้องแมวอาจจะเตรียมเสาให้ปีนป่ายและฐานให้กระโดด เพื่อให้ได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบถและเป็นการออกกำลังกายแบบเบาๆ
5.จัดมุมโปรดสำหรับพักผ่อน สำหรับคนที่เลี้ยงแมวคงมีของเล่นสำหรับลับกรงเล็บ หรือบ้านให้มุดซ่อนเล่น ส่วนสุนัขควรเป็นมุมนอนพักผ่อนที่มีเบาะนิ่มๆ กับตุ๊กตาหรือของเล่นชิ้นโปรดวางอยู่ในมุมที่เป็นส่วนตัวสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่ยังอยู่ในสายตาของเรา เพื่อให้ได้แอบดูความน่ารักตลอดเวลา แค่นี้ก็มีความสุขทั้งคนเลี้ยงและสัตว์เลี้ยงแน่นอน