เชื่อว่า หลายๆ คนคงเคยอ่านหนังสือ “ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์” หน้าปกสีแดงๆ เป็นรูปไอน์สไตน์เหงื่อตก ที่นำเสนอสารพัดคำถามที่เราคิดว่ารู้คำตอบกันดีอยู่แล้ว แต่พอตอบเข้าจริงๆ ดันตอบผิดเกือบทั้งหมด
หนังสือเล่มนั้นทำให้รู้ว่า ภูเขาที่มีความสูงที่สุดในโลกไม่ใช่เอเวอร์เรสต์ ปลาวาฬสีน้ำเงินไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน โลกมีดวงจันทร์มากกว่า 1 ดวง และอีกสารพัดคำตอบที่ทำให้เมื่อคุณอ่านแล้วต้องรู้สึกอายตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่ตอบผิดมากมาย
แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นความอายที่มาพร้อมกับความสนุก และความยินดีที่ได้เปิดโลกทัศน์ ได้รู้ว่าเราเข้าใจอะไรผิดมากมายเหลือเกิน
ล่าสุด เพิ่งได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ของทีมผู้เขียน “ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์” จอห์น ลอยด์ และจอห์น มิทชินสัน หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า “เมื่อคิดให้ดี โลกนี้มีแต่ “สัตว์” ประหลาด” แปลจาก The Book of Animal Ignorance คราวนี้คู่หูจอห์นยังคงสไตล์การเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ คือนำข้อมูลแปลกใหม่ที่คาดไม่ถึง มาสร้างความประหลาดใจให้คนอ่าน แต่หันไปเล่นกับสัตว์โลกรอบตัวเรา ตั้งแต่หมา แมว ปลาดุก วัว ช้าง แพะ แมลงวัน ไปจนถึงสารพันสัตว์จากทั่วโลก
จะเรียกหนังสือเล่มนี้ว่า ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์เวอร์ชั่นสัตว์โลกผู้น่ารัก ก็ไม่ผิดนัก เพราะอ่านไปจนจบเล่มแล้วก็รู้สึกว่า เรารู้จักพวกมันไม่ถึง 1% เลยจริงๆ
ตัวอย่างเช่น คุณรู้หรือเปล่าว่า ลาเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ประจันหน้ากับสิงโตแล้วไม่วิ่งหนี (นับเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตัวเล็กกว่าสิงโต), หมีขาว เขาบอกว่าจริงๆ แล้วขนมันไม่ได้มีสีขาว แต่มันมีผิวหนังสีดำและมีขนโปร่งแสงต่างหาก แต่ที่เราเห็นขนเป็นสีขาวเพราะแสงที่สะท้อนออกมาจากชายฝั่งที่ว่างเปล่า อีกเรื่องที่น่ารู้ก็คือ นกอัลบาทรอสบินไม่หยุดพักเลยได้นาน 10 ปี และแค่การกระพือปีกครั้งเดียวทำให้มันลอยอยู่บนอากาศได้ 6 วัน เป็นต้น
เชื่อได้เลยว่าเรื่องเหล่านี้น้อยคนนักที่จะรู้ความเป็นมาที่แท้จริง
นั่นเป็นเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจเพียงบางส่วนของหนังสือเล่มนี้ ยังมีสัตว์อีกสารพัดชนิดรอให้ทุกคนเข้าไปสำรวจ โดยเฉพาะ ผู้อ่านที่ติดใจหนังสือ “ลบเหลี่ยมไอน์สไตน์” มาแล้ว อ่านเพลินมากๆ ทีเดียว
เมื่ออ่านเล่มนี้จบแล้ว คุณจะพบว่า คุณรู้จักสัตว์ร่วมโลกไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ เลย…
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net