สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการอ่านให้เกิดขึ้นในครอบครัวด้วยงาน “เทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2”ภายใต้แนวคิด “สร้างสรรค์จินตนาการ ปูพื้นฐานจากครอบครัว” ชวนสมาชิกทุกคนในครอบครัวมาร่วมสร้างนิสัยรักการอ่าน มุ่งสู่ความรู้อย่างสนุกในทุกด้าน และเปิดโลกความคิดอันไร้ขอบเขตผ่านตัวหนังสือร่วมกัน พร้อมเต็มอิ่มกับหนังสือคุณภาพจากสำนักพิมพ์ชั้นนำ 168 แห่ง รวม 384 บูท บนพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร
พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวถึงความสำคัญของการอ่านว่าความรู้ที่ควบคู่กับจินตนาการ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งในการสร้างและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนสังคมให้พัฒนาไปได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง และเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพก็คือ “การอ่าน”
“การอ่านนอกจากจะก่อเกิดความรู้แล้ว ยังสร้างสรรค์จินตนาการ นำไปสู่การคิด การวิเคราะห์ การไตร่ตรอง สร้างวิจารณญาณ รวมถึงบ่มเพาะคุณธรรมและจริยธรรมให้งอกงาม จะสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นได้นั้น ต้องได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เยาว์วัย และผู้ที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดก็คือครอบครัว พยายามส่งเสริมให้ที่บ้านมีมุมหนังสือ สร้างบรรยากาศสบายๆในการร่วมทำกิจกรรมการอ่านกับลูกตั้งแต่ยังเด็กๆ อย่ารอให้เขาโตมาจนเข้าโรงเรียนหรืออ่านหนังสือออก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยการศึกษาของเด็กไทยอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554 หรือเมื่อประมาณเกือบสองปีมาแล้ว ผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระราชทานแนวทางว่าควรทำอย่างไรเพื่อช่วยปิดช่องว่างทางการศึกษา ระหว่างโรงเรียนที่ห่างไกลความเจริญ และโรงเรียนที่อยู่ในในพื้นที่ชุมชน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวความคิด และพระราชทานทุนทรัพย์ให้คณะองคมนตรีได้ทำงาน ซึ่งทำงานกันมาสองปีกว่าแล้ว นั่นคือโครงการกองทุนการศึกษา โดยเราได้ทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน มีหลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม เป็นงานอาสาสมัคร ทำกันด้วยใจ โดยไม่ได้คิดว่าจะต้องมีสิ่งตอบแทนใดๆ กลับมา เพราะการศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
แต่ยังมีเยาวชนอีกมาที่ขาดโอกาส โครงการกองทุนการศึกษาจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆได้มีโอกาสร่วมกันในการอ่านหนังสือและช่วยเติมเต็มช่องว่างการศึกษา เราจะต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้ทุกโรงเรียนมีห้องสมุดที่เหมือนกัน เด็กและเยาวชนมีโอกาสทางการอ่านที่เท่ากัน การอ่านและการศึกษาจะจะทำให้ผู้คนมีการไตร่ตรอง พิจารณาเรื่องต่างๆ ด้วยความรอบคอบ ช่วยสร้างเยาวชนที่คิดดี พูดดี ทำดีให้มีจำนวนมากขึ้น”
ด้าน จรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เผยถึงกิจกรรมไฮไลต์เด็ดๆ เพื่อทุกเพศทุกวัยอีกด้วยว่า ได้เตรียมไว้อย่างมากมาย อาทิ นิทรรศการผ่าสมองไอน์สไตน์ เปิดโลกจินตนาการด้วยการอ่าน ,โครงการประกวดเล่านิทานสารคดีหัวข้อ “”ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน เราพร้อมแล้ว” สำหรับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ซึ่งจะเป็นการเล่าพร้อมกับการแสดงประกอบ ,“นิทานในสวนกระดาษ”, “อ่านแต่เล็ก เด็กฉลาด สมรรถนะดี” ที่ชวนพ่อแม่ลูกมาอ่านหนังสือในโครงการหนังสือเล่มแรก Bookstart และสนุกกับกิจกรรมเสริมจินตนาการอย่าง พับกระดาษรูปสัตว์, หุ่นนิทานนิ้วมือ, ปั้นตัวละครจากหนังสือ,เพ้นท์กระเป๋าผ้าลดโลกร้อน, กิจกรรมบันไดงูอาเซียน ทั่วบริเวณงานเพื่อให้น้องๆ หนูๆ ได้เรียนรู้เรื่องอาเซียนผ่านการละเล่นสนุกๆ พร้อมของรางวัล
“ที่สำคัญทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ยังคงทำกิจกรรม PUBAT Charity ปันกันอ่าน แบ่งกันให้อย่างต่อเนื่อง เพราะการให้โอกาสทางการอ่านแก่ผู้ที่ขาดโอกาสเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากกิจกรรมต่อเนื่องอย่าง “โครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง” ซึ่งเราจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 โดยมอบบัตรกำนัลให้แก่เด็กด้อยโอกาสจากองค์กรต่างๆ จำนวน 400 คน มูลค่าคนละ400 บาท เพื่อนำไปเลือกซื้อหนังสือที่สนใจภายในงาน รวมถึง “โครงการจัดหาหนังสือและสื่อการศึกษาเข้าห้องสมุดโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน” เพื่อขยายโอกาสและส่งเสริมการเข้าถึงหนังสือและการอ่านให้กับเด็กและชุมชนที่อยู่ห่างไกล ที่ในปีนี้ได้มอบเงินอุดหนุนรวม 10 โรงเรียน รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท เพื่อจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดด้วยแล้วนั้น ปีนี้เรายังมีโครงการจัดหาหนังสือเข้าห้องสมุดโรงเรียน ในโครงการกองทุนการศึกษา 23 โรงเรียน โดยมอบเงินให้แก่โรงเรียนในถิ่นทุรกันดารเพื่อนำไปจัดซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด โรงเรียนละ 30,000 บาท รวมทั้งสิ้น 690,000 บาทอีกด้วย เราหวังว่าสิ่งที่ทำไปจะช่วยสร้างและขยายโอกาสทางการอ่านให้แก่เด็กไทยในท้องถิ่นที่ห่างไกลความเจริญได้เข้าถึงหนังสือที่เหมาะสมกับพวกเขามากขึ้น
อีกโครงการสำคัญคือทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จับมือกับครอบครัวข่าว 3 สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทำหนังสือเรื่อง “อ่านเป็นข่าว” โดยเชิญผู้ประกาศข่าวและนักข่าวชื่อดัง 13 ท่าน อาทิ กรุณา บัวคำศรี, เพชรี พรหมช่วย, กะละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ, แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกุล, มีสุข แจ้งมีสุข, กิตติ สิงหาปัด ฯลฯ มาร่วมเขียนหนังสือ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เด็กได้เห็นว่าความสำเร็จในชีวิตนั้น ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากพื้นฐานของการอ่าน โดยรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย จะมอบให้มูลนิธิครอบครัวข่าวสามเพื่อนำไปใช้ประโยชน์สาธารณกุศลต่อไปครับ” จรัญกล่าว
เทศกาลหนังสือครอบครัวนักอ่าน ครั้งที่ 2 มีขึ้นตั้งแต่วันนี้- วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม 2556 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pubat.or.th แล้วอย่าลืมมาร่วมเปิดโลกจินตนาการจากการอ่าน