เทศกาลเจปีนี้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9-17 ตุลาคมนี้ มีทั้งคนที่เคร่งตามธรรมเนียม และหลายคนที่เลือกจะพักร่างกาย ส่งเสริมสุขภาพด้วยการงดรับประทานเนื้อสัตว์ในช่วงนี้ ที่มีอาหารเจและมังสวิรัติมากมายให้เลือกรับประทาน ซึ่งการที่ต้องระมัดระวังในการเลือกอาหารที่ต้องถูกจำกัดวัตถุดิบ ทำให้อาจมีเมนูให้เลือกไม่ค่อยหลากหลาย และเกิดอาการเบื่อกับความจำเจของเมนูเจแบบเดิมๆ ได้ แต่ปีนี้รับรองได้ว่าปัญหาที่ว่าจะไม่เกิดขึ้น เพียงมาที่ เกษรวิลเลจ (GAYSORN VILLAGE)
ที่เกษรวิลเลจได้จัดงาน “Vegetarian Festival 2018” ที่แต่ละร้านอาหารชั้นเลิศที่เรียงรายอยู่ที่นั่นได้พร้อมใจกันจัดสรรเมนูพิเศษเพื่อเอาใจคนรับประทานอาหารเจและมังสวิรัติในช่วงเทศกาลเจปีนี้ ซึ่งมีเมนูเด็ดๆ มากมายให้คุณได้เลือกอร่อยกว่า 100 เมนู ที่รับรองได้ว่าคุณจะลืมเหล่าอาหารที่มีแต่แป้งและความมันในแบบเดิมๆ ไปเลยทีเดียว โดยวันนี้เรามีเมนูอาหารเจบางส่วนที่จะเสิร์ฟในช่วงเทศกาลเจปีนี้จาก 5 ร้านดังมาแนะนำ ซึ่งมีทั้งเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างกาแฟ อาหารไทย อาหารฝรั่ง ไปจนถึงอาหารญี่ปุ่น
เริ่มจาก Snap (สแน็ป) คาเฟ่สุดชิล ที่มีทั้งเครื่องดื่ม อาหารคาว อาหารหวานแบบรับประทานง่ายพร้อมเสิร์ฟ ได้รังสรรค์เมนูกาแฟเจและมังสวิรัติที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครถึง 3 เมนู คือ “Tofu Coffee” กาแฟเต้าหู้ ที่โดดเด่นด้วยรสชาติกลมกล่อมของเผือกบดผสมกับกาแฟเอสเปรสโซเข้มข้น เพิ่มรสสัมผัสและความนุ่มละมุนลิ้นด้วยเต้าหู้ขาวและฟองเต้าหู้, Red bean Coffee กาแฟสกัดเย็น ไนโตร โคลด์ บรูว์ แคลอรีต่ำพร้อมนมถั่วเหลือง เพิ่มความหวานมันให้กาแฟถ้วยโปรดด้วยการท็อปด้วยถั่วแดง และสำหรับสายสุขภาพที่ไม่ดื่มกาแฟคือเมนู “Cocoa” ที่เป็นการ Mix & Match อย่างลงตัวระหว่างผงโกโก้รสชาติเข้มข้นผสมกับนมถั่วเหลืองเพิ่มรสชาติด้วยถั่วแดง และตกแต่งด้วยเต้าหู้ขาวกับฟองเต้าหู้ รับรองได้ว่าคุณต้องไม่เคยลิ้มลองที่ไหนมาก่อน
ถัดมาเป็นร้านอาหารไทยๆ อย่าง KUB KAO’ KUB PLA (กับข้าว’ กับปลา) ที่นำเสนออาหารไทยเมนูแบบโฮมเมดแบบอร่อยกันที่บ้านได้อย่างอบอุ่น ก็ได้แนะนำอาหารเจที่ทั้งรูปสวย รสอร่อย กลมกล่อม และรับประทานได้แบบไม่รู้สึกต่างจากเมนูธรรมดาทั่วไป โดยเขาเน้นวัตถุดิบที่ดี สดใหม่ และรสชาติจัดจ้านไม่เหมือนอาหารเจแบบเดิมๆ อย่างเมนู “หลนเต้าหู้ผักสด” ที่นับเป็นเมนูเพื่อสุขภาพ เพราะเต็มไปด้วยผักสดสารพัดชนิด รับประทานคู่กับหลนที่มีส่วนผสมของเต้าหู้ถั่วเหลืองเคี่ยวลงในกะทิตั้งไฟให้เดือด ปรุงรสให้กลมกล่อม รวมถึงมีเนื้อเห็ดฟางเพิ่มเนื้อสัมผัสให้อร่อยในทุกคำ หรือจะเลือกอร่อยกับ “เห็ดทอดราดซอสมะขาม” เมนูรับประเล่นที่ทำจากเห็ดนางฟ้านำไปทอดให้เหลืองกรอบน่ารับประทาน ราดด้วยซอสมะขามที่ปรุงพิเศษมีทั้งรสเปรี้ยว เค็ม หวาน เพิ่มสีสันให้สดใสด้วยการโรยหน้าด้วยพริก และใบมะกรูดทอด รับรองว่ารับประทานกันเพลินจนหยุดไม่ได้เลยทีเดียว
ส่วนร้านอาหารไทยอีกร้านคือ PROVENCE (โพรวองซ์) ที่โดดเด่นด้านรสชาติและเมนูฉบับไทยแท้ และเป็นตำนานความอร่อยมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดดเด่นทั้งวัตถุดิบที่สดใหม่และคัดเลือกมาจากแหล่งที่ดีที่สุด นำมาปรุงใหม่แบบสดอร่อยทุกวัน ซึ่งนอกจากเมนูเด็ดอย่างข้าวแช่ชาววัง, ขนมจีนซาวน้ำ และก๋วยเตี๋ยวเรือที่เลื่องชื่อแล้ว ในช่วงเทศกาลเจของทุกปีเขาก็จะจัดทำเมนูอาหารเจมาคอยบริการ มีการแยกอุปกรณ์หม้อ กระทะ สำหรับอาหารเจโดยเฉพาะ และใส่ใจในทุกส่วนประกอบเพื่อเป็นอาหารเจแท้ๆ ซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค
โดยเมนูเด็ดคือ “ขนมจีนน้ำยา (เจ)” ที่เครื่องแกงน้ำยาหอมอร่อยใช้เห็ดฟางเป็นตัวเนื้อ รับประทานกับขนมจีนซึ่งต้องเป็นเส้นสดเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเส้นแป้งหมักจะมีส่วนผสมของยีสต์ซึ่งไม่ใช่อาหารเจ เสิร์ฟคู่กับผักสดสารพัดชนิดซึ่งเป็นผักออร์แกนิก มีทั้งถั่วฝักยาว ถั่วงอก ดอกขจร แตงกวา ผักบุ้ง มะระ ไปจนถึงใบแมงลัก (ใช้แทนโหระพา ซึ่งมีกลิ่นฉุนจึงไม่ใช่อาหารเจ) หรือจะเลือกอร่อยกับ “ข้าวซอย(เจ)” สูตรเด็ดของร้าน กับน้ำพริกแกงเผ็ดเจที่ทั้งหอมอร่อย รสเด็ดไม่ต่างจากข้าวซอยปกติ เมื่อนำมารับประทานกับเส้นบะหมี่เจที่ปราศจากส่วนผสมของไข่ แต่ก็นุ่มอร่อยไม่น้อยหน้ากัน ก็ลงตัวแบบสุดๆ นอกจากนี้เขายังมีเมนูอาหารเจอีกมากมาย อย่างยำเห็ดรวมมิตร ยำวุ้นเส้นเจ เปาะเปี๊ยะเจ ฯลฯ ไปจนถึงของหวานต่างๆ
แต่ขอบอกว่าร้านนี้ต้องรีบมาหน่อยหรือไม่ก็โทร.จองล่วงหน้า เพราะเขามาแต่ละเมนูในจำนวนจำกัด เพราะอยากให้อร่อยสดใหม่ ทำสดทุกวันทุกเมนูไม่มีการเหลือค้าง จึงเตรียมมาแบบวันต่อวันเท่านั้น สอบถามหรือจองเมนูต่างๆ ได้ที่ โทรศัพท์ 0-2656-1438
สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าอร่อยอย่าง SUSHI MORI (ซูชิ โมริ) ก็มีเมนูเจให้เลือกรับประทานมากมาย เพราะโดยปกติทางร้านมีอาหารเจและมังสวิรัติไว้ค่อยบริการอยู่แล้วกว่า 10 เมนู เพราะทางร้านยึดหลักอยากให้บริการได้ตอบสนองลูกค้าได้อย่างครบถ้วน และยิ่งในช่วงเทศกาลเจแบบนี้ ก็จะเพิ่มเมนูสำหรับคนรับประทานเจและมังสวิรัติขึ้นรวมแล้วกว่า 20 เมนูเลยทีเดียว
อย่าง “Hiyashi Tofu” เต้าหู้เย็น เป็นเต้าหู้สูตร Homemade ของทางร้าน ราดด้วยน้ำซอสงาขาวท็อปด้วยอะโวคาโด หรือจะอร่อยกับ “Yasai Chirashi” ข้าวดงบุริเจ ที่หน้าตาและรสสัมผัสคล้ายกับข้าวหน้าปลาดิบรวมแบบแทบแยกกันไม่ออก โดยมีเครื่องอย่าง เต้าหู้ทอดหั่นเต๋า เห็ดออรินจิ อะโวคาโด เห็ดหอม ผักดอง และยำสาหร่าย คลุกเคล้ากับซอสสูตรพิเศษ หรือจะเลือกรับประทานอาหารเมนูโรล ซึ่งเป็นเมนูเด่นของร้าน กับ “Yasai Tama Roll” ที่ใช้ส่วนผสมของเต้าหู้เทมปุระแทนไข่หวาน ห่อด้วยอะโวคาโดและงา แต่งหน้าด้วยผักดองและเห็ดหอม จิ้มซอสสูตรพิเศษที่ทำจากอะโวคาโดและทรัฟเฟิล เป็นความอร่อยที่ลงตัวเป็นที่สุด
ปิดท้ายกันที่ร้าน 1823 TEA LOUNGE by Ronnefeldt (1823 ที เลานจ์ บาย รอนเนอเฟลด์) ร้านชาชื่อดัง ที่นำเสนอเมนูมังสวิรัติเป็นเซตอาหารกลางวันแบบ 3 คอร์ส ซึ่งใช้ “ชา” อันเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้านมาปรุงพิเศษในทุกจาน เริ่มจากของว่างอย่าง “Tomato Basil Soup” (ซุปมะเขือเทศกับโหระพา) ซุปหอมๆ เนื้อเบาๆ ที่มีซุกินีกับพริกหวานหั่นเต๋วเพิ่มรสสัมผัส ส่วนเมนูหลักก็มี 2 จานให้เลือก ระหว่าง “Fried Tofu Filet with its Fricassée of Mushrooms” โดยการเซียร์เต้าหู้เหลืองให้มีกลิ่นหอม กับเห็ด 4 ชนิด คือ เห็ดหอม เห็ดออรินจิ และเห็ดนางรม กับเห็ดเข็มทองทอดกรอบ รวดด้วยซอสที่ปรุงจาก “ชาต้าหงเผา” หรือราชันแห่งชาอู่หลง ที่มีกลิ่นหอม หรือจะเลือกเมนู “Vegetarian Meli Melo” ที่นำเอาฟักทองญี่ปุ่นที่มีรสชาติหวานละมุนไปอบ เสิร์ฟคู่กับแครอทพูเร และ ไพ-นัท รสชาติกลมกล่อม และเมนูของหวาน “Jasmine Tea infused Tofu cream with Raspberry coulis” เต้าหู้เย็นกลิ่นชามะลิราดด้วยซอสราสป์เบอร์รี และในเซตจะมีเสิร์ฟชาเย็น 1 แก้ว ซึ่งจะเปลี่ยนเมนูชาไปในแต่ละวัน
นอกจาก 5 ร้านนี้แล้ว ร้านอื่นๆ ในเกษรวิลเลจก็ขนทัพอาหารเจที่คิดรังสรรค์มาเป็นพิเศษเพื่อให้บริการในช่วงเทศกาลเจปีนี้ รับรองได้ว่าใครที่รับประทานเจมาที่นี่แล้วไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน ติดตามรายละเอียดของ “Vegetarian Festival 2018” ของเกษรวิลเลจได้ที่ www.facebook.com/gaysornvillage และ www.gaysornvillage.com