เมื่อเอ่ยถึงร้านโฟชอง คนไทยที่ไปเยือนฝรั่งเศสจะต้องแวะลิ้มลองอาหารและขนมที่ร้านชื่อดังแห่งนี้ ซึ่งเป็นภาคบังคับเพราะมิฉะนั้นถือว่ามาสัมผัสวัฒนธรรมความเป็นฝรั่งเศสไม่ครบถ้วน
ร้านโฟชองถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1880 โดยโอกุสต์โฟชอง โดยเริ่มจากการขายเบเกอรี่และขนมอบ จนถึงปี 1898 ก็เริ่มเปิดบริการอาหารและน้ำชาและเริ่มมีชื่อเสียงจนร้านแห่งนี้กลายเป็นที่พบปะของกลุ่มคนสังคมชั้นสูง
ด้วยความพิถีพิถันทั้งเรื่องการเฟ้นหาวัตถุดิบและการสืบสานความเป็นเลิศอันเป็นจุดเด่นของอาหารฝรั่งเศส โฟชองจึงได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าเป็นผู้นำในเรื่องวัฒนธรรมอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย จึงไม่แปลกที่โฟชองที่ฝรั่งเศสจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา
โฟชองขยายสาขามาถึงเมืองไทยเมื่อต้นปี โดยเปิดร้านขนมแห่งแรกที่สยามพารากอนในสไตล์“โฟชอง ปารีส บูทีค” คือขายขนมยอดนิยมของโฟชอง ทั้งขนมเอแคลร์ เค้ก มิลเฟยเมอแฌฟ มาการองฯลฯ และล่าสุดได้มาเปิดอีกสาขาที่ห้างดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ร้านโฟชองที่เอ็มควอเทียร์ ตกแต่งในสไตล์เดิมตามคอนเซปต์ทั่วโลกคือเน้นสีดำ-ขาวและมาเจนต้า(ชอกกิ้งพิงค์) ซึ่งล้วนเป็นสีที่สะดุดตา เปรียบเหมือนสาวฟารีเซียงที่สวย สง่างาม ด้วยตำแหน่งของร้านที่อยู่หัวมุมจึงทำให้มีทางเข้าถึง 2 ทาง คือสามารถเดินเข้าจากภายในห้าง หรือจะเดินเข้าจากทางเดินด้านนอกก็ได้
และถ้าโครงการสวนของห้างเสร็จ ร้านโฟชองจะมีพื้นที่เอ้าท์ดอร์ด้านนอกสำหรับให้ลูกค้าได้นั่งจิบชากับขนมหวาน ดื่มด่ำกับบรรยากาศสวนสวยกลางกรุง
โม้นานไปหน่อย หิวหรือยังคะ มาดูเมนูอาหารกันก่อนดีกว่า ร้านโฟชองมีเมนูไม่ค่อยมากนัก แต่เลือกเฉพาะของเด็ด ๆ จากปารีสสู่แบงคอกจริง ๆ
จานแรกมาอุ่นเครื่องด้วยซุปฟักทองร้อน ๆ (150 บาท++) เป็นซุปเนื้อข้นที่หนักกว่าซุปทั่ว ๆ ไป เรียกว่าครีมมี่มาก โดยมีไข่ดาวน้ำหรือPoached Egg ลูกกลมน่ากินมาก เวลากินตีไข่ให้แตกจะเห็นไข่แดงเหลวข้น ตักปนกับซุปข้น ๆ รสชาติสุดจะมัน
สลัดปู ( 325 บาท ++) จานนี้หน้าตาไม่เหมือนสลัดที่ประโคมผักกับเนื้อปูแล้วราดด้วนน้ำสลัด แต่เป็นสลัดจานโมเดิร์นที่นำวัตถุดิบมาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ รองชั้นล่างสุดด้วยอโวคาโดเขียวสดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มะเขือเทศ มันฝรั่งและเนื้อปูท็อปบนสุด น้ำสลัดรสเปรี้ยวจากน้ำส้มบัลซามิค จานนี้จะใส่พริกป่นอัลฟาเรดจากสเปน ที่ทำเป็นพริกป่นคลุกเคล้าลงไป ให้รสเผ็ดเล็กน้อย เนื้อปูหวานผสมกับกับความมันของอโวคาโดและเปรี้ยวเผ็ด รสชาติจึงทำให้สลัดจานนี้อร่อยแปลกไม่เหมือนใคร
วิคตอเรียสลัด ( 325 บาท++) จานนี้ถือเป็นซิกเนอเจอร์หรือจานเด็ดของโฟชอง เพราะถึงขนาดนำชื่อภรรยาเจ้าของร้านผู้ก่อตั้งมาตั้งเป็นชื่อเมนูทีเดียว ประกอบไปด้วย เนื้อปลาแซลมอนรมควัน เนื้อปู ผักสลัด และหน่อไม้ฝรั่งฝานบาง ๆ ส่วนน้ำสลัดใช้ผักชีผสมกับมะนาวสดเป็นหลักเพราะจะได้ดับกลิ่นคาวของแซลมอน ความอร่อยอยู่ที่ผักสดกรอบ โดยมีความเปรี้ยวของมะนาวมาเป็นตัวช่วยให้เนื้อปลาแซลมอนหวานขึ้นในบัดดล
จานนี้ขอเรียกว่า “ยำเนื้อปลากะพงสไตล์ฝรั่งเศส” ละกัน!! เหมือนยำบ้านเราที่ใช้ความเปรี้ยวของมะนาวบีบใส่เนื้อปลากะพงสด ๆ ทำให้เนื้อปลาพอสุก แต่จานนี้นอกจากมะนาวแล้วยังมีตัวช่วยให้เปรี้ยวอีกอย่างคือส้มที่ใส่ทั้งน้ำและเนื้อเป็นชิ้น ๆ ลงไปด้วย แล้วโรยพริกป่นอัลฟาเรดจากสเปน รสชาติจึงออกเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ อร่อยถูกปากจริง ๆ
อกเป็ดราดซอสส้ม( 390 บาท++) ถ้าเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแล้วจะขาดจานนี้ไม่ได้เลย และใครไปร้านโฟชองก็ต้องสั่งจานนี้เช่นกันถือเป็นเมนูยอดฮิตอันดับต้น ๆ เนื้ออกเป็ดสุกกำลังดีให้รสชาตินุ่มหอม แต่ที่อร่อยสุด ๆ ผู้เขียนชอบside dish ที่เสิร์ฟมันฝรั่งกาแตงโดฟีนัวส์ คือมันฝรั่งบดที่ใส่โหระพาสับลงไปคลุกเคล้า ขูดชีสโรยหน้า นำไปอบให้เกรียมเล็กน้อย เวลากินจะได้หอมทั้งชีส มันบดและโหระพา อร่อยมาก ๆ
อาหารยังมีอีกหลายเมนู แต่กลัวอิ่มจนไม่เหลือพื้นที่ในกระเพาะให้กับขนมหวานอันลือชื่อของโฟชองคือเอแคลร์ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของร้านนี้ที่ขายดีและโด่งดังไปทั่วโลก ส่วนมิลเฟยหรือขนมพันชั้นที่เนื้อคือพายกรอบที่เนื้อกรอบกำลังดีช่วงนี้เน้นไส้ประเภทเบอร์รี่รสเปรี้ยวให้เลือกกินกับชาและสุดท้ายคือมาการอง สีสดจัดจ้านน่ากินมาก ๆ และเป็นขนมหวานตัวเดียวที่ต้องนำเข้าจากฝรั่งเศส ราคาถึงเอาเรื่องอยู่ที่ชิ้นละ 95 บาท
ความจริงโฟชองที่เอ็มควอเทียร์มีบริการอาหารแทบจะเรียกว่าเป็น all day dining เลย เพราะมีอาหารเช้า มื้อกลางวัน ขนมหวานกับชายามบ่าย และมี weekly special menu ซึ่งเปลี่ยนทุกวันศุกร์ โดยขายเป็นเซ็ตในราคาถูก อาทิ สตาร์ทเตอร์ 1 + เมนคอร์ส 1 ราคา 500บาท หรือ สตาร์ทเตอร์ 1 +เมนคอร์ส 1 +เอแคลย์ ประจำสัปดาห์ 1 ชิ้นราคา 650 บาท
ร้านโฟชอง ตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคาร The Helix Quartier เปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00น.
โทร.02-003-6033-4
ภาพโดย ปวริศร์ แพงราช