Celeb Online

จับคู่เมนู "ซัมเมอร์ เจอร์นี" และน้าผลไม้อันเลอค่า เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยจาก "สระบัว บาย กิน กิน"


ต้อนรับการกลับมาเปิดให้บริการของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ที่มีชื่อเสียงได้รับรางวัลมิชลินหนึ่งดาวสี่ปีซ้อน ด้วยเมนู ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ และน้าผลไม้อันเลอค่าดั่งอัญมณี ‘สตอรี ออฟ เจมส์’ (Story of Gems) ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ตั้งอยู่ที่โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ สาหรับเมนู ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ นี้ มีให้บริการถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564


สระบัว บาย กิน กิน ห้องอาหารที่ได้รับการกล่าวถึงว่าให้บริการอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ถูกรังสรรค์อย่างประณีตด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลที่มีคุณภาพเยี่ยมและใช้เทคนิคการปรุงอาหารระดับโลก สาหรับเมนู ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ ปีนี้ เชฟระดับมิชลินสตาร์ เชฟเฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน และหัวหน้าเชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ ได้นำวัตถุดิบพรีเมียมสดใหม่ที่ดีที่สุดในฤดูร้อนนี้ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์และผสมผสานวัฒนธรรมการทำอาหารไทย นำเสนอออกมาเป็นอาหารมื้อสุดพิเศษและน่าจดจำ

สาหรับเมนู ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ นี้ เชฟทั้งสองขอเชิญท่านเริ่มมื้อค่ำที่น่าจดจำด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย ‘สตรีท ฟู้ด’ เสิร์ฟพอดีคำ อาทิ ไข่แดงเค็มกับไข่ปูรสชาติหวานมันเค็ม ถุงข้าวเม่ากรุบกรอบปรุงรสด้วยผงแกงกะหรี่ ต้มข่าเห็ดเมอแรงค์ ซุปเห็ดช็อตมาพร้อมกับเห็ดมอเรลสอดไส้ขิง คาเวียร์ซีอิ๊วญี่ปุ่นอะโวคาโดปูว์เร เป็นต้น


เมนูใหม่ 8 คอร์ส เริ่มคอร์สแรกด้วยต้มยำกุ้งเสิร์ฟพร้อมกับเส้นเต้าหู้ที่สามารถลงมือปรุงได้ด้วยตัวเอง วาฟเฟิลผักชีสไตล์เดนมาร์กรับประทานคู่กับยำปลาอินทรีย์และปลาคอด และพล่ากุ้งรับประทานคู่กับข้าวเกรียบกุ้ง คอร์สที่สอง เป็นเมนูแซลมอนรมควันเนื้อฟูจากนอร์เวย์รับประทานคู่กับยำมะม่วงและไข่ปลาแซลมอน คอร์สที่สามฟลานมิโซะเนื้อนุ่มและหอยนางรมเสิร์ฟคู่กับแพนเค้กพัฟสไตล์เดนมาร์ก เอบเบลสกีเวอร์ (Æbleskiver) กับกุ้งแห้ง เป็นเมนูไฮไลท์ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก คอร์สที่สี่ห่อหมกปูและหน่อไม้ฝรั่งเสิร์ฟพร้อมล็อบสเตอร์บิสก์ สูตรต้นตำหรับจากท้องถิ่นจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของหัวหน้าเชฟชยวีร์ สำหรับคอร์สที่ห้าซึ่งเป็นคอร์สสุดท้ายของอาหารเรียกน้ำย่อย ตับห่านฟัวกราส์กับมะขามและลูกแพร์ชัทนีย์เสิร์ฟพร้อมโฮมเมดติ่มซำไส้เนื้อน่องเป็ดกงฟีและฟัวกราส์รับประทานคู่กับพริกน้ำส้มสูตรจากท้องถิ่นจากจังหวัดตรัง มาถึงคอร์สอาหารจานหลัก มัสมั่นซี่โครงเนื้อสันจากออสเตรเลียซูวี 48 ชั่วโมงที่ 62 องศาเสิร์ฟพร้อมแก่นตะวันทอดและปูว์เร พร้อมข้าวหอมมะลิโครงการหลวงจากท้องถิ่นจังหวัดสุรินทร์

สาหรับสองคอร์สสุดท้ายเป็นเมนูของหวานอันแสนสดชื่นสองเมนูเพื่อคลายร้อน เริ่มต้นด้วยทาทาร์สับปะรดกับมะพร้าวขมิ้นสมุนไพรท็อปด้วยเหล้ารัมสโนว์ และไอศกรีมชากับใบมะกรูดเชื่อม ตามด้วยเมนูที่ขาดไปไม่ได้ คือ เปติ โฟร์ (petit four) ขนมหวานชิ้นเล็กที่ออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์และสวยงาม รับประทานพร้อมชาถ้วยโปรดหรือกาแฟที่ทำให้มื้อค่ำนี้สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด


น้ำผลไม้อันเลอค่าดั่งอัญมณี ‘สตอรี ออฟ เจมส์’ (Story of Gems) ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อเสริมรสชาติของเมนูแต่ละจานจาก ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ อาทิ น้ำแอปเปิ้ลแดงและขึ้นฉ่ายฝรั่งจากจังหวัดเชียงใหม่ผสมกันอย่างลงตัว มีสีแดงดุจดั่งโกเมนสื่อถึงความเป็นนิรันดร์ เสิร์ฟคู่กับต้มยำกุ้ง ช่วยปรับสมดุลความเผ็ดและรสเปรี้ยวได้อย่างลงตัว

น้ำเสาวรสจากจังหวัดตรังผสมส้มยูซุ สีเหลืองอร่ามดั่งบุษราคัมซึ่งสื่อถึงความฉลาดล้ำเลิศ เสิร์ฟพร้อมกับฟลานมิโซะเนื้อนุ่ม หอยนางรมและแพนเค้กพัฟสไตล์เดนมาร์ก เพื่อให้รสเปรี้ยวช่วยเปิดต่อมรับรสและส่งเสริมให้รสชาติของอาหารจานนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

น้ำสับปะรดภูเก็ตคั้นสดผสมเสาวรสและกะทิ สีขาวบริสุทธิ์คล้ายกับไข่มุกอันดามัน สื่อถึงความงดงามและความสงบ เสิร์ฟพร้อมของหวาน ทาทาร์สับปะรดกับมะพร้าวขมิ้นสมุนไพรท็อปด้วยเหล้ารัมสโนว์ และไอศกรีมชากับใบมะกรูดเชื่อม ปิดท้ายดินเนอร์ที่น่าจดจำและเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว


เมนู ‘ซัมเมอร์ เจอร์นี’ เสิร์ฟคู่กับน้ำผลไม้อันเลอค่าดั่งอัญมณี มีให้บริการถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้

สาหรับมื้อกลางวันให้บริการเมนู 4 คอร์ส ราคา 1,850 บาทต่อท่าน และ 6 คอร์ส ราคา 2,600 บาทต่อท่าน เวลา 12:00-15:00 น. (ออเดอร์สุดท้ายเวลา 13:30 น.) และสาหรับมื้อค่ำให้บริการเมนู 6 คอร์ส ราคา 2,600 บาทต่อท่าน และ 8 คอร์ส ราคา 3,200 บาทต่อท่าน เวลา 17:00-20:00 น. (ออเดอร์สุดท้ายเวลา 17:30 น.)

น้ำผลไม้อันเลอค่าดั่งอัญมณี (Story of Gems) เสิร์ฟคู่ไปกับทุกเมนูเพื่อให้ได้อรรถรสในการรับประทานอาหารมื้อพิเศษเพิ่มมากขึ้นด้วย สาหรับ 4 คอร์ส ราคา 390 บาทต่อท่าน 6 คอร์ส ราคา 590 บาทต่อท่าน และ 8 คอร์ส ราคา 790 บาทต่อท่าน

นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจไวน์แพริ่ง (wine pairing)ไว้ให้บริการสาหรับ 4 คอร์ส ราคา 1,200 บาทต่อท่าน 6 คอร์ส ราคา 2,000 บาทต่อท่าน 8 คอร์ส ราคา 2,300 บาทต่อท่าน

ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%


ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ www.kempinski.com/en/bangkok/siam-hotel/restaurants-and-bars/sra-bua-by-kiin-kiin/