ART EYE VIEW—หลังจากที่ในช่วงหลายวันนี้ได้มีประเด็นท้วงติงโดยกลุ่มคนที่ทำงานภาพถ่ายว่า ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2549 ที่หลายคนเคยเข้าใจมาตลอด 10 ปี ว่าเป็นผลงานภาพถ่ายของช่างภาพชื่อดังอย่าง นายอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง (เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา พระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ถูกนำไปใช้ประกอบการให้สัมภาษณ์ของนายอนุชัยผ่านสื่อต่างๆหลายครั้ง)ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ผลงานของนายอนุชัย แต่เป็นภาพที่ตกแต่งจากไฟล์ภาพถ่ายผลงานของช่างภาพรุ่นใหญ่ นายรชฏ วิสราญกุล
กลายเป็นประเด็นร้อน จนทำให้ในเวลาต่อมานายอนุชัยต้องชี้แจ้งผ่าน Facebook ของตัวเองว่า ที่มาของพระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งให้โอกาสตนทำงาน ได้นำไฟล์ภาพมาให้ตกแต่งและตนได้ตกแต่งพระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้ขึ้นจากไฟล์ภาพมากกว่าหนึ่งไฟล์ รวมถึงใช้ไฟล์ภาพของตนด้วย เมื่อตกแต่งเสร็จแล้วตนได้ส่งให้ผู้ใหญ่ท่านนั้นนำไปเผยแพร่ โดยที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตนไม่ทราบว่าไฟล์ภาพต้นฉบับเป็นของใคร ต่อมาตนถูกท้วงติงจากนายรชฏ และแสดงตนให้ทราบว่าเป็นเจ้าของไฟล์ภาพ ตนจึงอยากชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องก่อนที่สื่ออื่นๆจะนำภาพไปใช้งานและอยากกราบขอโทษนายรชฏซึ่งเป็นช่างภาพที่ตนให้ความเคารพนับถือในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนไม่อยากให้เกิดบรรยากาศของความขัดแย้งในห้วงเวลานี้ ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช
ขณะเดียวกันได้มีช่างภาพรุ่นใหม่หลายคนแสดงตนเพื่อแฉและประนามการกระทำของนายอนุชัยในหลายกรณี ตัวอย่างเช่น ภาณุวัฒน์ จิตติวุฒิการ ช่างภาพหนุ่มผู้เคยได้รับรางวัลด้านภาพถ่ายหลายรางวัลและเป็นเจ้าของผลงานภาพถ่ายชุด “ใบหน้าผู้ลี้ภัยชาวทิเบต” ที่บอกว่าครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ตนเพิ่งเรียนจบใหม่ๆตนก็เคยถูกช่างภาพผู้มีรางวัลระดับโลกการันตีอย่างนายอนุชัยรังแกจนเกือบจะขาดโอกาสที่จะแจ้งเกิดในวงการศิลปะ
รวมถึงช่างภาพหนุ่มอย่าง นายตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ ที่ร่วมประนามว่าการกระทำของนายอนุชัยว่า เป็นการกระทำเพื่อเอาดีเข้าตัว อ้างว่าการกระทำของตนเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำไปเพราะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากให้ทุกคนที่ได้รับทราบข้อมูลช่วยกันส่งต่อความจริงว่านายรชฏต่างหากคือผู้ที่ถ่ายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ภาพนี้
….น่าสลดใจที่คนที่มีคุณูปการต่อสังคมต่อวงการถ่ายภาพกลับถูกรังแกจากผู้ที่เอาตัวเอาหน้าไปออกสื่อและพูดอย่างหน้าตาเฉยว่าตนเป็นผู้บันทึก(คิดได้ไง)
กี่ครั้งกี่หนแล้วที่คนนี้เอาเรื่องแนวนี้มาแอบอ้างว่าได้รับการแต่งตั้งได้รับความไว้วางใจแต่เพียงผู้เดียว เพื่อเอาดีเข้าตัว คนดีๆที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ยังถูกรังแก ในอนาคตผู้ที่บันทึกอาจจะถูกปรามาสว่า เอารูปของคนที่ไม่ได้บันทึกมาแอบอ้างว่าเป็นของตัวเองก็เป็นได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนปกติธรรมดาอย่างเราๆจะอ้าปากพูดอะไรได้
ช่วยส่งต่อๆกันไปนะครับอย่างน้อยรูปที่พวกเราเห็นกันทั้งประเทศจะได้ทราบว่า อาจารย์ รชฏ วิสราญกุล เป็นผู้บันทึก
และอย่ามาอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำไปเพราะเทิดทูนสถาบัน “เพราะนั่นไม่ใช่ เจตนาที่ทำนั้นทุจริตและไร้จริยธรรมอย่างชัดเจน” …
ล่าสุดได้มีประกาศของ สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เรื่องการให้นายอนุชัย ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพ ด้วยเห็นว่าการกระทำของนายอนุชัยผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรม นำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคมฯ
…ด้วยปรากฏหลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า นายอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง สมาชิกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประเภทสมาชิกตลอดชีพ หมายเลขสมาชิก 2137 ได้ทำการนำไฟล์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2549 ที่ถ่ายโดยนายรชฏ วิสราญกุล จำนวนหลายไฟล์ไปทำการตกแต่งเป็นภาพใหม่ โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของภาพ อีกทั้งยังได้ใส่ชื่อตนเองในภาพเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของและนำภาพนั้นไปเผยแพร่ในสื่อหลายประเภททั้งสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์ในหลายโอกาส โดยให้สัมภาษณ์เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจว่าภาพดังกล่าวเป็นผลงานของตนเอง
คณะกรรมการบริหารสมาคมภาพสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้พิจารณาเรื่องนี้ในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2559 เห็นว่าการกระทำของนายอนุชัยเป็นการกระทำที่มิบังควร อีกทั้งเป็นการเจตนากระทำผิดทั้งทางกฎหมายและจริยธรรม นับเป็นการประพฤติในทางอันเป็นที่น่ารังเกียจของสังคม และนำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคมฯอย่างยิ่ง
อาศัยอำนาจตามข้อบังคับสมาคมภาพสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฉบับแก้ไขใหม่ ปี พ.ศ.2558 ข้อ 10(5) จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้นายอนุชัย ศรีจรูญพู่ทอง ขาดจากสมาชิกภาพของสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป ทั้งนี้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป…
ประกาศเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2559 ลงชื่อ นายนิติกร กรัยวิเชียร นายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.manager.co.th Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews