“เหมือนเดินเข้าป่า”
นั่นคือความรู้สึกของหลายๆคน เวลาที่อยู่ท่ามกลางภาพแนวนามธรรมหลายสิบชิ้นของ ของ เสนีย์ แช่มเดช ซึ่งเคลื่อนย้ายจากสตูดิโอที่บ้านเกิด จ.นครสวรรค์ มาจัดแสดงให้ผู้สนใจได้ชมระหว่างนี้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถ.เจ้าฟ้า
ไม่แปลกอะไรที่บางคนจะรู้สึกเช่นนั้น เพราะเสนีย์กล่าวว่า ภาพเขียนของเขาทุกชิ้น มีที่มาจากการเดินเข้าออกป่าหลายๆแห่ง เพื่อซึมซับเอาแรงบันดาลใจจากป่า เรียกได้ว่าทั้งชีวิตของเขาเลยก็ได้
และบ่อยครั้งที่รวมกลุ่มกับเพื่อนศิลปิน เคลื่อนไหว และทำกิจกรรมในนาม กลุ่มศิลปินรักษ์ผืนป่าตะวันตก และ กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมพยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
ตลอดมาหลายสิบปี ชีวิตศิลปินของเสนีย์จึงขับเคลื่อนไปพร้อม กับความชอบที่จะสร้างสรรค์งานศิลปะในแนวนามธรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และความรักความห่วงใยที่มีต่อธรรมชาติรอบตัว
เสนีย์บอกเล่าถึงเสน่ห์ของงานศิลปะในแนวนามธรรม ที่ดึงดูดให้เขาเทใจให้กับมันมาหลายปีว่า
“ทำอย่างอื่นมันไม่ตรงใจ แต่ว่างานแนวธรรม เรื่องของ เส้น สี และแสงเงา เป็นเรื่องที่ตรงใจเรา
งานแนวนามธรรมมันไม่จำเป็นต้องบอกออกมาผ่านรูปร่างที่ชัดเจนว่ามันคืออะไร แต่มันใช้แค่ เส้น สี และแสงเงา สื่ออารมณ์ ความรู้สึกที่เรามีต่อสิ่งที่เราชอบ ที่เรารักและห่วงใย”
ในอนาคตเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะขยับไปนำเสนองานในแนวนามธรรมที่บอกเล่าเรื่องราวของธรรมชาติ ผ่านสื่อที่หลากหลายมากกว่าภาพเขียน แต่อาจต้องรอเวลาอีกสักนิด
“ศิลปะสำหรับบ้านเรา เราต้องเข้าใจว่า มันต้องค่อยๆก้าว ค่อยๆเดิน ถ้าพรวดพราดไปทำนามธรรมเป็น Land Art ไปทำ Happening Art หรือ Installation Art มันไม่ได้
เหมือนแต่ก่อนที่ศิลปินทำงานในแนวเหมือนจริง แล้วค่อยขยับมาทำงานกึ่งนามธรรม แล้วก็นามธรรมในที่สุด
ตอนนี้ผมเห็นว่า สังคมไทย หมายถึงตัวผู้ชม เดินมาถึงแค่งานในแนวกึ่งนามธรรมเอง คือภาพแบบที่ ดูรู้ว่าคือดอกไม้แต่ก็ไม่ใช่ดอกไม้อย่างที่เราเห็นในธรรมชาติทั่วไป ดังนั้นเราจะรีบหลุด นำเฉพาะเส้นและสีมาเสนออย่างเดียว มันไม่ได้ เราต้องพยายามปูพื้นฐานให้กับสังคม ต้องค่อยๆเดิน ทีละก้าว”
เพราะที่ผ่านมา แค่นำเสนองานแนวธรรมผ่านภาพเขียนอย่างเดียว เจ้าตัวยอมรับว่า ยังต้องคอยตอบคำถามกับผู้ชมเรื่อยๆอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าภาพเขียนนามธรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติของเขา มันเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของศาสนาที่เขาก็พยายามสื่อผ่านภาพด้วยเช่นกัน ผลงานจึงสามารถสื่อสารกับผู้ชมได้ง่ายขึ้น
ดังเช่นตัวอย่างผลงานชุดล่าสุดนี้ ที่มีชื่อนิทรรศการว่า “จินตามยปัญญา แห่งนามธรรม” ที่มีความหมายว่า ภาพเขียนนามธรรม ที่ถ่ายทอด จินตนาการตามปัญญาที่ศิลปินคิดสร้างสรรค์
“เวลาที่เราเข้าไปอยู่ในป่า มีต้นไม้หลายชนิดที่เราไม่รู้จัก แตกต่างจากเวลาที่เราเข้าไปในสวนสาธารณเราจะรู้ว่าต้นไม้มีอะไรบ้าง แต่เวลาเราเข้าป่า เราจะไม่รู้ว่าต้นไม้คือต้นอะไร แต่เราสามารถซึมซับความอุดมสมบูรณ์ ความเย็น ความเจริญงอกงามได้
ภาพเขียนของผมก็เหมือนกัน เราไม่ต้องรู้จักป่า แต่เรารู้สึกได้ว่า มันคือส่วนผสมของสายน้ำที่หล่อเลี้ยงเรา คือต้นไม้ที่ให้ร่มเงา คือสิ่งที่สร้างบรรยากาศของโลกให้สงบเย็น หรือแม้แต่กระทั่งมันให้ความร้อนที่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง เป็นวัฐจักร ในภาพของผมมีทุกอย่างทั้งความเย็น ความร้อน ความอบอุ่น ทุกสรรพสิ่ง ที่เป็นปัจจัยสี่
ผมใช้เวลาทั้งชีวิตเลย ในการที่จะเรียนรู้ เฝ้าคอยสังเกตในสิ่งที่มันตั้งอยู่ และก็ดับไปของธรรมชาติ”
มากกว่าแค่การเชื้อเชิญทุกคนแวะเวียนไปชมผลงานชุดล่าสุด สิ่งที่เขาอยากจะหวังจากผู้ชมมากไปกว่านั้นคือ
“ผมอยากให้ผู้ชม พยายามทำความเข้าใจกับธรรมชาติให้มากๆ เพราะว่าถ้าธรรมชาติอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ แต่ถ้าธรรมชาติอยู่ไม่ได้ เราอยู่ไม่ได้ สำหรับผม ธรรมชาติเป็นพ่อแม่เรา และเราเป็นนวัตกรรมของธรรมชาติ เราต้องการน้ำ ต้องการอากาศ
มนุษย์เป็นนวัตกรรมของธรรมชาติ ถ้าเราตัดธรรมชาติ ก็เหมือนเราตัดพ่อแม่ของเรา ตัดสิ่งที่สามารถเลี้ยงดูเรา เราก็จะอยู่ไม่ได้ เราตายแน่”
นิทรรศการภาพเขียนนามธรรม “จินตมยปัญญา แห่งนามธรรม” โดย เสนีย์ แช่มเดช เปิดแสดง วันนี้ – 28 เมษายน พ.ศ. 2556 ณ พิพิภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถ.เจ้าฟ้า กรุงเทพฯ
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ www.facebook.com/arteyeviewnews