ART EYE VIEW—“ผมศรัทธาความมีวินัยในการทำงานที่เรารักของ Van Gogh เป็นศิลปินที่นึกถึงแต่การเขียนภาพอย่างเดียวโดยไม่เผื่อคิดเรื่องอื่นเลย แล้วมาเริ่มต้นตอนอายุเยอะแล้ว แต่ทำต่อเนื่อง ผมเห็นว่าเป็นตัวเลขที่พอเป็นไปได้สำหรับตัวเอง เลยเลือกเป็นแนวทางทางเพื่อเดินตาม
Van Gogh ทำงานศิลปะอยู่ประมาณ 10 ปี แล้วเสียชีวิต ผมตั้งใจไว้เช่นกันว่าจะทำแบบนี้ต่อเนื่องกันไป 10 ปี ถึงตอนนั้นถ้าไม่พบอะไรค่อยเลิกทำครับ”
แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งที่ วธน กรีทอง ได้รับจากศิลปินชื่อดังระดับโลก Vincent Van Gogh และทำให้ริเริ่มโครงการ “การงานวันนี้” อันเป็นเสมือนพันธะสัญญาที่ให้กับตัวเองว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปี จะทุ่มเทเวลาให้กับการเขียนภาพอย่างจริงจัง
หลังจากที่เคยผ่านการทำงานประจำในตำแหน่ง visualzer , Art Director และผู้กำกับหนังโฆษณา กระทั่งตัดสินใจลาออกเมื่อปี 2553
“ปี 2553 ผมออกจากวงการโฆษณาเนื่องจากมีความตั้งใจว่าจะทำงานศิลปะเต็มตัวแล้ว และพร้อมจะใช้ชีวิตอย่างคนที่ไม่มีรายได้ประจำ ก่อนหน้านั้นการเขียนภาพสำหรับผมเป็นแค่งานอดิเรก”
วธน ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่ประมาณ 2 ปี สำหรับวิถีชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม และพยายามค้นหาว่าเทคนิคใดที่จะเหมาะสมสำหรับการนำเสนองานศิลปะของตนเอง ในที่สุดก็มาลงตัวที่เทคนิคสีน้ำ
“ลองทำมาหลายเทคนิคครับ ทั้งเทคนิคสีน้ำมัน และเทคนิคอื่นๆ
วันที่เริ่มเขียนสีน้ำ ผมยังไม่แน่ใจหรอกว่าจะเขียนไปได้นานแค่ไหน แต่เบื่อกับการที่จะต้องเตรียมผ้าใบสำหรับการเขียนภาพ และต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่ต้องใช้มากหากเขียนสีน้ำมัน จึงเริ่มหันมาเลือกใช้สีน้ำ เพื่อบันทึกภาพ บันทึกความคิดของตัวเองดูบ้าง
ในช่วงแรกผมเกือบยอมแพ้ เพราะยังไม่รู้จักอุปกรณ์และยังไม่เข้าใจวิธีการใช้มันเท่าไหร่
แม้ตอนที่เรียนศิลปากร ผมจะเคยเรียนเขียนภาพสีน้ำเป็นวิชาพื้นฐาน แต่จากนั้นก็เปลี่ยนมาเรียนภาพพิมพ์ แล้วย้ายมาลงเรียน Painting ตอนปี 3 ซึ่งก็เป็นการเขียนภาพสีน้ำมัน”
“สีน้ำ” สื่อที่เข้าถึงผู้ชมได้อย่างอ่อนโยนที่สุด
แต่เมื่อฝึกฝนมากขึ้นเรื่อยๆ วธนยิ่งหลงใหลในสีน้ำ รวมถึงเมื่อได้ศึกษาธรรมะควบคู่กันไปด้วย ทำให้เขามีความรู้สึกว่าการเขียนสีน้ำเหมาะแก่กาลของตนเอง
“ช่วงปลายปี 2554-2555 ผมเริ่มศึกษาธรรมะแบบจริงจัง โดยเฉพาะ ‘พุทธวจน’ ตอนแรกก็ไม่อินมาก พอศึกษามาก บวกกับการนั่งสมาธิต่อเนื่อง สีน้ำเริ่มเป็นคำตอบครับ มันคือการที่เราไม่ต้องไปปรุงแต่ง ไม่ต้องไปจินตนาการอะไรมาก แต่คือการที่เรามองโลกอย่างที่มันเป็น
เรามองอะไร อย่างไร ก็เพราะ ข้างในเราเป็นอย่างนั้น มีทัศนะคติ มีทิฐิอย่างนั้น หลอกกันไม่ได้
ผมจึงเริ่มค้นพบว่าตนเองน่าจะเขียนสีน้ำควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตในด้านอื่นๆ
นอกจากนี้ อ.ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ ท่านเคยบอกผมว่า สีน้ำเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้ชมได้อย่างอ่อนโยนที่สุด และโดยส่วนตัว ยิ่งเขียนผมก็ยิ่งชอบครับ”
จาก “เงินเดือน “ สู่ “เงินชาติ”
วธนเลือกเขียนภาพวิวทิวทัศน์และสิ่งของใกล้ตัว และบ่อยครั้งที่ขับมอเตอร์ไซด์บรรทุกอุปกรณ์ไปเขียนภาพตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ และสถานที่ใกล้บ้านย่านตลิ่งชัน
“บางทีของที่เราวางๆไว้บนโต๊ะนั่น ก็นับว่าเป็นธรรมชาติเหมือนกันนะครับ ส่วนการออกไปเขียนภาพวิวธรรมชาติในที่ไกลๆ ยังอยู่ในแผนการ ผมได้วางแผนไว้ว่า กลางปีนี้ อยากจะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเขียนภาพ แต่ต้องติวเด็กเพื่อสอบช่วงเดือนมีนาคมนี้ให้เสร็จก่อนครับ”
เพราะเขาและภรรยาซึ่งเป็นคนทำงานศิลปะเช่นกัน ได้เปิดบ้านให้เป็น โรงเรียนสอนศิลปะเล็กๆชื่อ สำนักศิลปะสมุทรวาดเขียน
“ผมเรียกการเขียนภาพของผมในแต่ละครั้งว่า การงานวันนี้ เพราะถือว่าตนเองก็กำลังทำงานเหมือนกับคนอื่นๆเช่นกัน แต่เป็นงานเขียนภาพครับ ผมเคยคุยกับภรรยาว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราไม่ได้หาเลี้ยงชีพแบบเป็นเงินเดือน เงินปี หรือ เงินสิบปี แต่เราหาเป็นเงินชาติ 55… หมายถึงหากันเป็นชาติไปเลย หรือตายไปแล้วนั่นแหละค่อยได้เงิน หรืออาจจะหลายชาติก็ไม่รู้นะ ขำๆครับ”
ที่กล่าวเช่นนี้เพราะโครงการระยะยาวที่เขาวางแผนให้ตัวเอง ยังต้องรอเวลาเพื่อการพิสูจน์ และเขาเองก็เพิ่งพาตนเองออกจากจุดสตาร์ทได้เพียงไม่กี่ปี
“เป็นการเดินทางที่ยังต้องไปต่ออีกไกลครับ”
รักในสิ่งที่ทำเป็นพื้นฐาน
เมื่อถูกถามว่าอะไรจะเป็นสิ่งชี้วัดว่าการเดินทาง 10 ปี ประสบความสำเร็จหรือ ล้มเหลว วธนตอบว่า
“อืม…นั่นสิครับ ผมลืมนึกไปเลย แต่ผมคิดว่าผมคงจะพบคำตอบระหว่างทางมั๊งครับ”
แต่อย่างน้อยๆช่วงเวลานี้เขาได้รู้แล้วว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจเลือกนั้น นำมาซึ่งความสุขเป็นอย่างมาก แม้บางเวลาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากคนรอบข้างได้
“ความสุขของผมคือการได้หลุดออกมาจากสิ่งที่เราคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ครับ มาสู่การทำงานศิลปะอย่างเดียวโดยไม่มีรายได้ประจำ และต้องปรับเปลี่ยนวิธีการบริโภคของตัวเอง เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เลิกปาร์ตี้ ต้องเลิกครับ มันคือสิ่งที่เราต้องแลกครับ ถ้าอยากจะเริ่มต้นทำบางสิ่งอย่างให้จริงจัง
ส่วนเรื่องการสร้างวินัยในการทำงานของผมก็ไม่มีอะไรมาก ขอเพียงให้เราต้องมีความรักในสิ่งที่ทำเป็นพื้นฐานครับ” ศิลปินสีน้ำวัย 47 ปี กล่าว
ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW ของ www.astvmanager.com และ ART EYE VIEW เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews