Celeb Online

5 ประโยชน์ของคอลลาเจน ตัวช่วยชั้นดี ที่ไม่ได้ให้แค่ผิวสวยเป๊ะปัง


สงสัยไหมว่าพอเริ่มอายุมากขึ้นก็มักมีปัญหาต่างๆ เข้ามากวนใจไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวที่ตั้งใจดูแลมาตลอด ทั้งเสียเงินซื้อสกินแคร์ทุกเดือน แต่ก็ยังมีริ้วรอยมากวนใจ หรือปัญหาปวดข้อ ปวดกระดูก ขยับนิดขยับหน่อยก็ดังกร๊อบแกร๊บ จะลุกนั่งก็ลำบาก หรือปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะภายในอย่างหัวใจ ที่ทุกวันนี้มีเรื่องให้ตกใจไม่เว้นแต่ละวัน ต้องเร่งดูแลกันซะหน่อย สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ (Nutrilite Health Institute) ไม่นิ่งนอนใจ จะพาทุกคนไปรู้จักกับพระเอกที่จะช่วยดูแลทุกปัญหา ให้ทุกคนผิวสวยครบแถมสุขภาพดีได้ในตัวเดียว

ทำความรู้จักกับ ‘คอลลาเจน’ ตัวช่วยสำคัญของหลายปัญหา

คอลลาเจน เป็นโปรตีนที่มีมากที่สุดในร่างกาย คิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วร่างกาย โดยคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างหนึ่งของผิวหนัง ผม เล็บ กระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น นอกจากนั้นยังสามารถพบคอลลาเจนได้ในส่วนอื่นๆ ของร่างกายอีกด้วย เช่น หลอดเลือด กระจกตา และฟัน โดยคำว่าคอลลาเจน ในภาษาอังกฤษ อย่าง Collagen มีที่มามาจากคำภาษากรีกคำว่า “kólla” ซึ่งแปลว่า “กาว” ดังนั้น คอลลาเจนจึงมีคุณสมบัติในการยึดเกาะสิ่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันคล้ายกับกาวนั่นเอง

โดยร่างกายของเรานั้นสามารถผลิตคอลลาเจนได้เอง แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและเส้นใยคอลลาเจนจะอ่อนแอลง ซึ่งสัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือ ผิวของทุกคนไม่เต่งตึง ความยืดหยุ่นอ่อนนุ่มลดน้อยลง และมีอาการปวดตามข้อต่อเพราะกระดูกอ่อนอ่อนแอลงตามอายุ


คอลลาเจนมีหลายชนิด และแตกต่างกันไปตามหน้าที่ในร่างกาย แต่ที่สำคัญและควรรู้จักมี 3 ชนิด ได้แก่

– คอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen type I) เป็นชนิดที่มีมากที่สุดในร่างกาย พบที่ผิวหนัง กระดูก
– คอลลาเจนชนิดที่ 2 (Collagen type II) ทำจากเส้นใยที่หลวมกว่า และพบได้ในกระดูกอ่อนตามข้อต่อ
– คอลลาเจนชนิดที่ 3 (Collagen type III) พบได้ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ อวัยวะภายใน และหลอดเลือดแดง


5 คุณประโยชน์ของคอลลาเจนที่ไม่รู้ไม่ได้แล้ว

คอลลาเจนกับสุขภาพผิว จากงานวิจัยโดยแอมเวย์ประเทศจีน ได้มีการทดลองให้ผู้หญิงที่มีภาวะฝ้าที่ใบหน้า รับประทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยคอลลาเจนเปปไทด์ เปปไทด์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวย 10 กรัมทุกวัน เป็นเวลา 60 วัน พบว่ารอยดำที่ฝ้าจางลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทาน นอกจากนี้ เมื่อสังเกตผู้หญิงที่รับประทานคอลลาเจน 2.5–5 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่าผิวแห้งน้อยลงและความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานคอลลาเจนและจากการทดลองให้ผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มผสมกับคอลลาเจนทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าผิวมีความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นและความลึกของริ้วรอยลดลงอย่างมาก

คอลลาเจนกับอาการปวดข้อ จากการศึกษาพบว่า เมื่อให้นักกีฬารับประทานคอลลาเจน 10 กรัมทุกวันเป็นเวลา 24 สัปดาห์ พบว่าอาการปวดข้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ที่รับประทานคอลลาเจน 2 กรัมทุกวัน เป็นเวลา 70 วัน พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อได้อย่างมีนัยสำคัญและสามารถมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานอีกด้วย

คอลลาเจนกับมวลกระดูก จากการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่รับประทานอาหารเสริมแคลเซียมร่วมกับคอลลาเจน 5 กรัมทุกวัน เทียบกับการรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมอย่างเดียวทุกวันเป็นเวลา 12 เดือน พบว่าผู้หญิงที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมและคอลลาเจนมีระดับโปรตีนในเลือดที่ส่งเสริมการสลายกระดูกลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าผู้ที่รับประทานแคลเซียมเพียงอย่างเดียว

คอลลาเจนกับมวลกล้ามเนื้อ จากการศึกษาพบว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจนช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในผู้ที่เป็นโรคซาร์โคพีเนีย หรือภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยที่มักพบในผู้สุงอายุ และเมื่อให้ผู้ชายที่กล้ามเนื้อน้อย เสริมคอลลาเจน 15 กรัมขณะเข้าร่วมโปรแกรมออกกำลังกายทุกวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับผู้ชายที่ออกกำลังกายแต่ไม่ได้รับประทานคอลลาเจน พบว่ามีมวลกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

คอลลาเจนกับสุขภาพหัวใจ จากการศึกษาพบว่าคอลลาเจนเป็นโครงสร้างของหลอดเลือดแดง หากคอลลาเจนมีไม่เพียงพอ หลอดเลือดแดงอาจอ่อนแอและเปราะบาง นำไปสู่การตีบตันของหลอดเลือด อาการหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง โดยมีการทดลองให้ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงรับประทานคอลลาเจน 16 กรัมทุกวันเป็นเวลา 6 เดือน พบว่าความแข็งของหลอดเลือดลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับก่อนที่จะเริ่มรับประทานคอลลาเจน


กินอะไรจึงจะสามารถเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายได้?

คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีความพิเศษเพราะมีกรดอะมิโน 3 ชนิดที่พบได้น้อยในอาหารอื่นๆ ได้แก่ไกลซีน, โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีน โดยทุกคนสามารถช่วยให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่สำคัญนี้ได้โดยการรับประทานสารอาหารดังต่อไปนี้

– วิตามินซี พบมากในผลไม้รสเปรี้ยว พริกหวาน และสตรอเบอร์รี
– โพรลีน พบมากในไข่ขาว จมูกข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากนม กะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง และเห็ด
– ไกลซีน พบมากในหนังหมู หนังไก่ และเจลาติน หรืออาหารที่มีโปรตีนสูงต่างๆ
– ทองแดง พบมากในเนื้อสัตว์ เมล็ดงา ผงโกโก้ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วเลนทิล

นอกจากนี้ ร่างกายของเรายังต้องการโปรตีนคุณภาพสูงที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นในการสร้างโปรตีนใหม่ เช่น โปรตีนจากพืชซึ่งเป็นแหล่งของกรดอะมิโนชั้นยอด

สิ่งที่ทำลายคอลลาเจน มีอะไรบ้าง?

– การรับประทานน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีมากเกินไป น้ำตาลจะขัดขวางความสามารถของคอลลาเจนในการซ่อมแซมตัวเอง ควรลดการบริโภคน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีให้น้อยที่สุด
– การได้รับแสงแดดมากเกินไป เนื่องจากรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายและลดการสร้างคอลลาเจน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดมากเกินไป และป้องกันผิวด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
– การสูบบุหรี่ทำให้การสร้างคอลลาเจนลดลง ส่งผลให้แผลหายช้าลง และทำให้เกิดริ้วรอยมากขึ้น


รู้จัก ‘คอลลาเจน คอมเพล็กซ์’ ส่วนผสมที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์คอลลาเจน

เนื่องจากคอลลาเจนสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างหลากหลาย การบริโภคสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยสร้างคอลลาเจนอาจไม่เพียงพอ ทำให้หลายคนเลือกที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์คอลลาเจนเสริมเข้าไปอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่ดี มักจะมีส่วนผสมของ คอลลาเจน คอมเพล็กซ์ ที่ประกอบด้วย คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเล เปปไทด์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว ที่มีคุณสมบัติที่ส่งเสริมการทำงานของกันและกันในการเพิ่มการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย โดยนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่า คอลลาเจน คอมเพล็กซ์ มีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใสเพิ่มขึ้น 15% และเม็ดสีผิวลดลง 20% ใน 60 วันอีกด้วย

– คอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเล มีกรดอะมิโน ไกลซีน โพรลีน และไฮดรอกซีโพรลีน ที่สามารถดูดซึมนำไปสร้างเป็นคอลลาเจนภายในร่างกายได้ดี และยังมีคุณสมบัติเพิ่มการสร้างกรดไฮยาลูรอนิกที่ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นในผิว
– เปปไทด์จากถั่วเหลือง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยมโดยธรรมชาติ และยังมีงานวิจัยพบว่าเปปไทด์จากถั่วเหลืองมีส่วนช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ซึ่งพบมากที่ผิวหนัง
– สารสกัดจากดอกเก๊กฮวยขาว เป็นสมุนไพรจีนที่มีการใช้เพื่อบำรุงสุขภาพกันมาอย่างยาวนาน ทั้งการใช้บำรุงตับ สายตา และผิวพรรณ เนื่องจากฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก และเมื่อนำมาใช้ร่วมกับคอลลาเจนเปปไทด์ กลับให้ผลในการลดการสร้างเม็ดสีผิวได้

การเสริมคอลลาเจนให้กับร่างกายนั้นมีความเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ทั้งการช่วยปรับปรุงสุขภาพผิวโดยการเพิ่มความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย และความแห้งกร้าน นอกจากนี้ยังอาจช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกและบรรเทาอาการปวดข้อและช่วยเรื่องสุขภาพหัวใจอีกด้วย ดังนั้นทุกคนควรบริโภคคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างผิวสวยสดใส พร้อมสุขภาพดีในทุกๆ วัน


นิวทริไลท์ คอลลาเจน (NUTRILITE™ Collagen) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน ได้แก่ ไฮโดรไลซ์คอลลาเจนจากปลาทะเล ผงเปปไทด์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวย กลิ่นสาลี่ กลิ่นสับปะรด กลิ่นพีช โดยใช้สารสกัดจากหญ้าหวาน เป็นวัตถุที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล

“นิวทริไลท์ คอลลาเจน” ไม่เจือสีและไม่ใช้วัตถุกันเสีย รับประทานวันละ 2 ครั้ง โดยผสมคอลลาเจน 1 ซอง ลงในน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่นปริมาณ 100-150 มิลลิลิตร คนให้เข้ากันและดื่มทันที หนึ่งกล่องบรรจุ 30 ซอง ราคาสมาชิก 1,500 บาท ราคาขายปลีก 1,650 บาท

สั่งซื้อได้จากนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่16 มกราคม 2564 เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Amway Contact Center 0-2725-8000 หรือ www.amway.co.th

ข้อมูลจาก สถาบันสุขภาพนิวทริไลท์ (Nutrilite Health Institute)