By Lady Manager
ว้า..แย่จัง ทำไมชั้นเกิดมาผิวดำคล้ำ ใส่เสื้อสีแดงก็เหมือนอีกาคาบพริก สวมกางเกงสีดำยิ่งกลืนไปกับตัวเหมือนเสื้อลอยได้ซะงั้น!
อย่ามากลัดกลุ้มคิดมากปวดหัวตุ้บๆ กันหน่อยเลย รีบมาฟังข้อมูลทำอย่างไรให้ผิวขาวดีกว่ามั้ย! จากงานสมาคมแพทย์ผิวหนังพบสื่อมวลชนในโอกาสครอบรอบ 36 ปี ในหัวข้อ “เรื่องเด่น ประเด็นร้อนของหนุ่มผมบาง และสาวผิวคล้ำ” แหม ครั้งที่แล้ว ได้วิธีแก้ผมร่วงเด็ดสาระตี่กันไปแล้ว มาสัปดาห์นี้ถึงคิวของสาวผิวคล้ำกันบ้างแล้วล่ะ คุณหมอจะมาคลายปมปัญหา และมีวิธีแก้ผิวหมองอย่างไรบ้างน้า…
“เราไม่ได้เป็นชาวเกาหลี ผิวจะขาวแบบเขาได้อย่างไร เราต้องมีความรู้สึกดีภูมิใจกับผิวของเรา ถึงผิวอาจจะดูเข้ม แต่ก็สมกับคนชาติไทย ” รศ.พญ.เพ็ญพรรณ วัฒนไกร หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนัง มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว
“เคยได้ยินเรื่องเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ไหมคะ เป็นตัวทำให้เรามีสีผิวที่แตกต่างกัน มีประโยชน์ที่สำคัญคือ เรื่องของการป้องกันผิวจากแสงแดด
เราจะสังเกตเห็นว่า พวกฝรั่งจะมีเมลานินน้อย แต่อย่างประเทศไทย พวกโซนเอเชียจะมีมาก จำนวนเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวคล้ำหรือขาวนั่นเอง ฝรั่งเขาผิวขาวจริง แต่สังเกตดูดีๆ เขาจะมีกระเร็ว ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากเขาไม่มีอะไรที่จะปกป้องผิวเลย หากเป็นคนเอเชีย กว่าจะมีกระอายุก็ค่อนข้างสูงวัยแล้ว เคยได้ยินใช่ไหมคะ วัยตกกระ วัยตกกระคนเอเชียจะเป็นสำหรับคนมีอายุ แต่สำหรับฝรั่งไม่ใช่ เขาเป็นกันตั้งแต่เด็ก
จะพบว่าอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งผิวหนังในคนผิวเข้ม หรือคนผิวดำ จะน้อยกว่าคนผิวขาวมาก อันนี้เป็นข้อดีอีกหนึ่งข้อ และนอกจากนี้เรื่องของริ้วรอย เหี่ยวย่นก่อนวัย จะเห็นได้ว่าฝรั่งจะมีริ้วรอยย่นเยอะกว่าเรา ส่วนคนผิวดำจะมีกระ ริ้วรอยน้อยกว่าคนเอเชีย เนื่องจากเม็ดสีเมลานินจะช่วยปกป้องการทำร้ายผิวจากแสงแดด ทั้งหมดเป็นผลจากแสงแดดทำให้ผิวเสื่อม เมื่อผิวเสื่อมจะเกิดสีผิวไม่สม่ำเสมอ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น และมะเร็งผิวหนัง” คุณหมอเพ็ญพรรณ ชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการมีสีผิวคล้ำ
ดังนั้นสาเหตุของปัญหาผิวเสื่อม ผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ริ้วรอยแห่งวัยโผล่มารบกวนใจ เกิดได้จากสาเหตุภายใน เช่น กรรมพันธุ์ เชื้อชาติ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ระดับฮอร์โมนในร่างกาย ระบบการเผาผลาญภายในร่างกาย เช่น Oxidation และการอักเสบภายในของเซลล์ผิว และสาเหตุภายนอก เช่น แสงแดด รังสียูวี มลภาวะ ความเครียด การสูบบุหรี่ อาหารที่รับประทาน การดูแลผิวไม่เพียงพอ การแพ้เครื่องสำอาง เป็นต้นคะ” คุณหมอเพ็ญพรรณ บอกสาเหตุปัญหาผิวคล้ำ ริ้วรอยโผล่ก่อนวัยอันควร
แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ กับผู้หญิงประเภทที่รับไม่ได้จริงๆ กับผิวอันดำคล้ำของตนเอง จะมีวิธีการรักษา ตัวช่วยอะไรบ้างหนอ คุณหมอเพ็ญพรรณจัดวิธีทำผิวขาวให้ชุดใหญ่เลยจ้า
ขาวด้วยแพทย์
“การรักษาปัญหาผิวหมองกวนสวยของสาวเรามีหลากหลายวิธี หากเป็นการรักษาทางการแพทย์
เช่น วิธีการลอกผิว การฉีดสารเติมเต็ม การฉีดสารที่ลดการทำงานของกล้ามเนื้อโบทูลินั่ม ทอกซิน (Botulinum toxin) หรือเรียกกันคุ้นหูว่า โบท็อกซ์ (Botox) นั่นเอง IPL, เลเซอร์(Laser) ถึงแม้อาจจะได้ผล แต่ขอย้ำว่าไม่ถาวร แถมมีค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว ทว่าแม้อาจอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง ก็ยังเกิดผลข้างเคียงได้”
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวขาว
“แต่ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ป้องกันริ้วรอย ครีมทาผิวขาว ออกมาให้เลือกใช้ เพื่อดูแลผิวได้ทุกๆวัน แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มแรก ช่วยปกป้องแสงแดด รังสียูวี กลุ่มที่ 2 ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เร่งการผลัดเซลล์ผิว เช่น พวกอนุพันธ์วิตามินเอ เรตินอล (Retinol), วิตามินซี, โปรตีนเปปไทด์ (Peptide), AHA, BHA กลุ่มที่ 3 ต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี โคเอนไซม์ คิว10 (Co-enzyme Q10), สารสกัดจากต้นสน, สารสกัดจากขมิ้น กลุ่มที่ 4 สารที่ทำให้ผิวขาว ที่นิยมกันมากในเครื่องสำอางตามท้องตลาดเมืองไทย เช่น อาร์บิวติน(Arbutin) กรดโคจิด (Kojic acid) วิตามินซี วิตามินบี
กลุ่มที่ 5 ลดการอักเสบระคายเคืองผิว เนื่องจากปฏิกิริยา Oxidation ในร่างกายและอนุมูลอิสระทำให้เกิดการอักเสบขึ้น สารออกฤทธิ์ลดการระคายเคืองจึงมีความสำคัญคู่กันกับสารออกฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์ลดการระคายเคือง เช่น สารสกัดจากใบบัวบก, ว่านหางจระเข้ และสุดท้าย กลุ่มช่วยเพิ่ความชุ่มชื่นให้ผิว เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)
สารทำให้ผิวขาว
“พวกสารฟอกสี เช่น ไฮโดรควิโดน โมโนเบนโซน และปรอท ทั้งหมดนี้เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง เพราะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และมีอาการข้างเคียงรุนแรง
และสารทำให้ผิวขาว นิยมใช้กันมากในเครื่องสำอาง เช่น อาร์บิวติน กรดโคจิด แมกนีเซียมแอสคอร์บิกฟอสเฟต (Magnesum Ascrobyl Phoshate) สารดังกล่าวยังไม่มีประกาศควบคุม เพราะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และอาการข้างเคียงน้อย
สารเร่งการผลัดเซลล์ผิว AHA หรือเรียกกันว่า กรดผลไม้ เป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในอาหาร เช่น กรดมาลิก (Malic acid) ในแอปเปิ้ล กรดซิตริก (Citric acid) ในมะนาว กรดทาร์ทาริก(Tartaric acid)ในองุ่น หรือกรดแลกติก(Lactic acid) ในนมเปรี้ยว
AHA ช่วยละลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งยึดอยู่ระหว่างเซลล์ที่ตายแล้ว ลอกออกอย่างรวดเร็ว และสม่ำเสมอ ทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน ช่วยลดรอยฝ้า และจุดด่างดำ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอีกด้วย ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย แต่ AHA ทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดด เมื่อหยุดใช้ผิวหนังจะกลับคืนสู่ปกติภายใน 1 สัปดาห์
และสารสุดท้าย สารปกคลุมผิว โดยใช้พิกเมนต์ (Pigment) ซึ่งเป็นสารคุณสมบัติทึบแสง และมีสีขาวทันที แต่เมื่อล้างออกสีผิวหนังยังคงเดิม ไม่ได้ทำให้ผิวขาวขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ พวกสาวญี่ปุ่นที่ชอบแต่งหน้าขาว พอล้างออกสีผิวก็ยังเหมือนเดิม ขาวแค่ชั่วคราว สารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดคือ ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide ) จะมีสีขาว ทึบแสง”
*เทคนิคแก้ผิวหมอง
คุณหมอมีคำแนะนำในการดูแลรักษาผิวให้มีความสดใส ไม่หมองคล้ำอย่างง่ายด้วยตนเอง
“นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใสอย่าเครียด ความเครียดไม่ได้ก่อให้เกิดอะไรดีต่อร่างกายเลย ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ เป็นโรคใดๆ ก็ตาม ทำให้โรคแย่ลง ความเครียดทำให้เกิดอนุมูลอิสระ พวกฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกันต่างๆของร่างกายต่ำลง ถ้าเครียดทำให้แย่ลง เคยได้ยินใช่ไหมคะ หน้าดำคร่ำเครียด ที่คนโบราณพูด เวลาเครียดทำให้หน้าคล้ำได้
กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกายเพื่อให้เลือดหมุนเวียน ผิวแลดูสุขภาพแข็งแรง มีเลือดฝาด ทำความสะอาดผิวหนัง ทาโลชั่นบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และที่สำคัญ ต้องไม่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เนื่องจากเป็นการเพิ่มอนุมูลอิสระมาทำลายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ หน้าหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยได้
ปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติครบทั้ง UVA และ UVB ควรทาให้หนาเพียงพอกับขนาดพื้นที่ของร่างกาย เช่น การทาบนใบหน้าของเรา ควรบีบครีมกันแดดออกมาประมาณ 1 กรัม หรือคิดง่ายๆคือ 2 ข้อนิ้วนั่นเอง บางคนอาจบีบออกมาน้อยเพราะกลัวเปลือง อย่าง ครีมกันแดดมีขนาด 30 กรัม ควรจะหมดภายใน 1 เดือน
หรือหากต้องออกแดดควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด ใส่แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง และกางร่มเสมอ ” คุณหมอเพ็ญพรรณ แนะเคล็ดสวยหน้าใสด้วยวิธีแสนง่าย
ข้อมูลประโยชน์ทั้งหมดนี้จะช่วยให้มีผิวสวยใสจากภายในเด้งสูภายนอกได้อย่างดีเชียวล่ะ
ยังไม่จบ! คุณหมอเพ็ญพรรณ ฝากข้อคิดแฝงคำพูดตบท้ายว่า
“การมีผิวเหลืองแบบคนเอเชีย เป็นพันธุกรรมของคนไทย การมีผิวเข้มไม่ใช่โรค และการมีผิวขาวเป็นเพียงค่านิยมตามแฟชั่นที่กำหนดขึ้นมาเอง ผิวทุกสีทุกลักษณะจะดูได้ในแบบฉบับตัวเอง”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net