นักสื่อสารการตลาด: สุภี พงษ์พานิช
ระดับบริหารในไทยพาณิชย์ ชั่วโมงบินยาวนานกว่า 20 ปี
นักสื่อสารการตลาด หรือผู้ทำหน้าที่ส่งเสริมการตลาด โดยใช้หลักการการสื่อการตลาดแบบบูรณาการ นั่นคือ ใช้กลยุทธ์การจูงใจในหลายๆ รูปแบบ ทั้งใช้สื่อสารมวลชน และไม่ใช้สื่อสารมวลชน ทำให้หน้าที่ของนักสื่อสารการตลาด อาจคล้ายกับนักประชาสัมพันธ์อยู่บ้าง แต่จะครอบคลุมเนื้องานที่กว้าง และลึกกว่า ที่สำคัญ โดยเนื้องานแล้วจะต้องเน้นการปฏิบัติงาน โดยคำนึงถึงภาพลักษณ์องค์กรเป็นหลัก
แม้ด้วยลักษณะงานแล้วจะดูรับผิดชอบสูงครอบคลุมงานหลากหลาย แต่หลายคนกลับเห็นเป็นเรื่องท้าทายความสามารถ จนส่งผลให้อาชีพนี้กลายเป็นอีกอาชีพในฝันของใครต่อใคร และโอกาสนี้เราได้นักสื่อสารการตลาดตัวแม่ คุณสุภี พงษ์พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการขาย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มาบอกเล่าเก้าสิบ
คุณสุภีจบการศึกษาปริญญาตรี สาขาการประชาสัมพันธ์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อปริญญาโท ด้านการบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ หรือนิด้า (NIDA) ทำหน้าที่ฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการขายให้กับธนาคารไทยพาณิชย์มากว่า 20 ปี
เคล็ดลับความสำเร็จ คุณสุภีบอกว่า ต้องคิดและพัฒนากลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ ให้โดนใจลูกค้าอยู่ตลอด ทั้งยังต้องยิ้มแย้มได้เสมอ แม้ต้องเจอแรงกดดันเพียงใดก็ตาม
“การทำงานของพี่ หากสังเกตจะเห็นว่าเรา (ธนาคารไทยพาณิชย์) จะเน้นทำสิ่งต่างๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่สุด เช่น เราจะร่วมกับคอนเสิร์ต ภาพยนตร์ หรือบางคนอาจสนใจอยากทำอาหารกับเชฟ (chef) ดังๆ เราก็หาสิ่งเหล่านี้ มาให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ (lifestyle) ของลูกค้า ทั้งเรื่องทาน, เที่ยว, ดูหนัง, ฟังเพลง เราจะมีกิจกรรมต่างๆ มาให้ ซึ่งถือว่าดี เพราะคนเป็นลูกค้าไทยพาณิชย์ จะได้ประโยชน์เต็มๆ เราถือเป็นการขอบคุณลูกค้า คืนกำไรให้กับลูกค้า ลูกค้าจะประทับใจ เพราะบางทีมีเงินก็ซื้อไม่ได้ แต่เราให้ลูกค้าฟรี นี่คือ สิ่งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจองค์กรของเรา
และพี่ชอบทำอะไรก่อนใคร เราทำก่อนหลายอย่างเลย เช่น ร่มที่แม่ค้ากาง ร่มในสวนสาธารณะ ที่มีสัญลักษณ์ของธนาคาร เราทำมานานมาก ณ วันนี้มีคนตามเพียบ สิ่งนี้แหละทำให้พี่คิดว่าเราต้องคิดเผื่อสิ่งต่างๆ อยู่ตลอด ก่อนจะออกมาให้เห็นบนเวที ก่อนจะออกมาให้ลูกค้าได้ดู มันเครียด มันหนัก และไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะบางครั้งมันอาจเกิดการผิดคิว หรือไม่เป็นอย่างที่วางไว้ แต่เราก็ต้องยิ้มตลอดเวลา มีปัญหาต้องเอาเก็บไว้ เจออะไรก็ช่าง ยิ้มตลอด บางทีเจอลูกค้าที่แตกต่างหลากหลาย บางทีมีแรงกดดัน แต่เราก็ต้องรับเอาไว้ เพราะเราเป็นเหมือนหน้าเสื่อ เป็นตัวแทนขององค์กร สิ่งที่เราทำมันส่งผลต่อองค์กรเราด้วย”
หลังฉากที่ไม่ได้สวยหรู “อาชีพนี้คนเห็นแต่หน้าฉาก จริงๆ งานนี้เครียดนะ เพราะงานเราต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องบริการทุกอย่าง มีแต่เจ๊งกับเจ๊า บางทีอาจมีบ้างที่รู้สึกว่าไม่เคยได้ดีเลย เพราะงานของเราต้องทำให้คนพอใจตลอดเวลา ทำอย่างไรไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อองค์กร ฉะนั้นเราจึงต้องทำอะไรมากมาย
อีกอย่าง งานพวกนี้มันเป็นเรื่องที่แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลด้วย บางกิจกรรมตัวพี่เองอาจจะเห็นสวย คนอื่นอาจจะเห็นไม่สวย ลูกค้าอาจจะเห็นสวยบ้างไม่สวยบ้าง ฉะนั้นสายตาเราต้องกลั่นกรองแล้วว่า 'ใช่' ถึงจะปล่อยงานออกมาได้ ไม่ใช่จัดแล้วคนไม่ชอบมันก็ไม่ดี แต่ถ้าจัดแล้วคนชอบเราก็ดีใจ ฉะนั้นทุกคนที่เห็นหน้าฉากก็อยากทำ แต่ทำจริงๆ มันเครียด และเหนื่อยนะ พี่ต้องออกงานแทบทุกคืน เพื่อไปสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับพันธมิตร กับลูกค้า บางงานไม่ไปไม่ได้นะ เขาจะน้อยใจ เพราะเวลาเราจัดงานอะไรแล้วเชิญเขา เขาก็มาร่วมงาน แล้วพอลูกค้าเขาเชิญเรากลับเราจะไม่ไปเหรอ ดังนั้นพี่ก็ต้องไปแทบทุกงาน
ตรงนี้สามีกับลูกก็จะเข้าใจตรงกันเลย ว่าถ้าอยากทานข้าวกับพี่ ก็ต้องเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ที่เราได้หยุด ฉะนั้นเห็นหน้ายิ้มตลอด แต่จริงๆ มันเหนื่อยนะ” ผู้บริหารคนเก่งแห่งไทยพาณิชย์อธิบายถึงฉากหลังที่นักสื่อสารการตลาดต้องทุ่มเท เพื่อให้ได้งานที่เปี่ยมคุณภาพต่อองค์กร
มืออาชีพแนะ! สิ่งที่นักสื่อสารการตลาดต้องมี นักสื่อสารการตลาดมืออาชีพผู้นี้ฝากคำแนะนำสำหรับสาวคนไหนที่อยากก้าวเข้าสู่งานด้านนี้ว่า
“ต้องเป็นคนที่มีหัวใจบริการ หรือ service mind สูง และเป็นคนมีไหวพริบดี แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้คือ ต้องเป็นคนที่ถ้าเกิดปัญหาต้องแก้ให้ได้ รวมถึงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ‘อย่าสร้างปัญหา จงสร้างสรรค์’ และสนุกกับมัน เป็นคนกระตือรือร้นหาความรู้ใหม่ๆ เสมอ ต้องรู้ว่า ขณะนี้สังคมมีอะไรใหม่ กระแสเป็นอย่างไร และถ้าเป็นไปได้คอนเนคชั่น (connection) สำคัญมาก ต้องรู้จักคนเยอะ การพูดจา บุคลิกลักษณะก็สำคัญ ต้องเป็นคนที่พบปะได้กับคนทุกรุ่น ทุกเพศ ทุกวัยยิ่งดี”
พริตตี้: พัทธ์ธีรา ศรลัมพ์
น้องใหม่มาแรง แต่ประสบการณ์โชกโชน
แค่เห็นก็คุ้นแล้วใช่มั้ยล่ะ สำหรับ พัทธ์ธีรา ศรลัมพ์ หรือ น้องยีนส์ พริตตี้ (Pretty) สาวสุดเซ็กซี่ ที่เรียกได้ว่าโดดเด่นและมาแรงที่สุดอีกคนในเวลานี้ แม้เธอจะก้าวมาสู่วงการพริตตี้รถยนต์ได้เพียง 2 ปีกว่า ทว่าด้วยรูปร่างหน้าตาที่ชวนมอง บุคลิกสุดมั่น จึงทำให้สาวหน้าใสวัย 24 ปีผู้นี้ มีทั้งงานพริตตี้รถยนต์ เดินแบบ ถ่ายภาพยนตร์ ไปจนถึงถ่ายโฆษณา
สาวสวยหุ่นกระชากใจหนุ่มคนนี้ เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสดใสว่า เธอเรียนจบด้านมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เข้าสู่วงการพริตตี้ และถ่ายแบบ โดยได้รับการทาบทามจากโมเดลลิ่ง (modeling) ซึ่งเธอตอบรับทันที ด้วยเพราะมีใจรักในวงการบันเทิงอยู่เป็นทุนเดิม และแม้ชั่วโมงการทำงานในอาชีพพริตตี้อาจไม่ยาวนานนัก แต่งานที่มีจนล้นมือ ก็ทำให้เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาบอกเล่าได้เยอะเชียวค่ะ
เคล็ดลับความสำเร็จ “ยีนส์ว่า งานพริตตี้ต้องมีความอดทน เพราะเวลาทำงาน เราต้องเจอคนหลายรูปแบบ อาจมีพูดดีบ้าง หรือไม่ดีกับเราบ้าง เราก็ต้องอดทนและยิ้มรับได้เสมอ เมื่อมีลูกค้ามาดูรถ เราต้องยิ้มให้กับทุกคน ต้อนรับทุกคน ไม่ใช่ว่าเขาแต่งตัวไม่ดี แล้วคิดว่าเขาไม่มีเงินซื้อเลยไม่คุยกับเขา
รวมถึงต้องมีความรู้รอบตัว ต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรถด้วย เพราะแม้บางครั้ง ก่อนขึ้นยืนเป็นพริตตี้ ส่วนใหญ่ค่ายรถจะมีการอบรมก่อน ให้เราทราบในรายละเอียดของรถ แต่เราก็ต้องหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงหาความรู้รถรุ่นอื่นๆ หรือความรู้พื้นฐานของรถค่ายอื่นเอาไว้บ้าง เพื่อเวลาที่ลูกค้าเข้ามาถามก็จะได้ตอบได้ ดูฉะฉาน แสดงให้เห็นว่าเรามีความรู้ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ยืนสวยได้อย่างเดียว”
หลังฉากที่ไม่ได้สวยหรู “บางครั้งเวลาทำงาน เราอาจเจออุปสรรคเรื่องของคนบ้าง เพราะคนที่เข้ามาในมีหลายรูปแบบ เราต้องมีไหวพริบ ว่าจะคุยกับเขาอย่างไร หรือวางตัวอย่างไร เแม้ปกติทางบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลไม่ให้คนเข้ามาใกล้พริตตี้อยู่แล้ว แต่หากเราเจอ คนที่มาช้อนถ่ายเยอะๆ เราก็ต้องรู้จักหลบเลี่ยง รู้จักดูแลตัวเองด้วย”
พริตตี้คนสวยยอมรับว่า แม้ในปัจจุบัน สิ่งที่ตัวเธอและผู้คนทั่วไปเห็นอยู่เบื้องหน้าคือ ภาพความสวยงาม สร้างรายได้ให้มากมาย ทว่าฉากชีวิตในอนาคต กลับไม่แน่นอนเอาเสียเลย เพราะแม้ตอนนี้จะหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่วันหนึ่งก็ต้องมีคลื่นลูกใหม่มาแทนที่ ฉะนั้นการวางแผนเพื่ออนาคตจึงเป็นสิ่งสำคัญ
“ถึงแม้อาชีพพริตตี้จะทำได้นาน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำได้จนแก่ สักวันก็ต้องมีเด็กรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทนที่เรา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องวางแผนอนาคตไว้เผื่อวันข้างหน้าด้วย พอเราแก่ เราก็ต้องมีความรู้ หรือมีเงินสำรองไว้ เพื่อที่จะไปทำอาชีพอื่นได้ อย่างตัวยีนส์เอง ก็คิดว่าอยากตั้งใจทำงานเก็บเงินเอาไว้ หากเลิกเป็นพริตตี้แล้ว ยีนส์ก็อยากมีเงิน เอาไว้ทำธุรกิจส่วนตัวกับครอบครัว เรื่องนี้เราต้องคิดเผื่อไว้ด้วย”
มืออาชีพแนะ! สิ่งที่พริตตี้ต้องมี “ยีนส์คิดว่า ไม่ว่าจะเป็นพริตตี้ หรืออาชีพไหนก็ตาม เราต้องมีความกล้า อย่าไปกลัว ถ้ากลัวเราก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ให้คิดว่าทุกคนสามารถยืนเป็นพริตตี้ได้หมด อย่าปิดกั้นตัวเอง ทุกคนมีโอกาสหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะคว้าโอกาสนั้นเอาไว้หรือเปล่า ถ้าอยากได้ อยากคว้าก็ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไร
ยีนส์ไม่เคยกลัวเลย ไม่เคยกลัวไปก่อนว่า อุ้ย! ที่นี่เขาจะเอานางแบบสูงๆ เอาพริตตี้แบ๊วๆ ขาวๆ ยีนส์ไม่เคยกลัว ยีนส์คิดว่า ตัวเองมีดีและเราก็ต้องแสดงออกไปให้เต็มที่ด้วย อย่างตัวส่วนใหญ่ที่ยีนส์ได้งานมา ที่ลูกค้า(บริษัทรถยนต์)เลือกเพราะยีนส์มีความเชื่อมั่น เขาไม่ได้ชอบยีนส์แค่ภายนอก แต่เขาดูจากว่า เรามีความเชื่อมั่น มีบุคลิกที่แตกต่างจากคนอื่น เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องเลียนแบบใคร
ดังนั้นหากใครอยากมาทำอาชีพนี้ สิ่งแรกเลยคือ ต้องมั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าทำตัวแรงๆ ไม่สนใครนะคะ คือ เราควรแสดงความสามารถ แสดงความเป็นตัวของตัวเองได้ แต่ก็ต้องอยู่ในพื้นฐานของการเป็นคนที่รู้จักกาลเทศะ และปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ เพื่อที่เราจะได้ดูเป็นมิตร และพูดคุยกับทุกคนได้” พริตตี้สาวให้ข้อแนะนำทิ้งท้าย
กับ 4 อาชีพในฝันนี้ หากใครยังมีเรี่ยวแรง และโอกาสดีๆ ก็สู้ต่อเพื่อคว้าฝันมาให้ได้ (เราเอาใจช่วย) แต่หากไม่ วันนี้กับอาชีพปัจจุบันของคุณ เพียงทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ก็มีความสุขได้ จริงมั้ยคะ (^_^)
คลิกอ่าน เคล็ดลับคว้างานในฝันของผู้หญิง กับสี่สาวมืออาชีพ ภาคแรก
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net