By Lady Manager
สาวเรามักเชื่อกันว่ากินผักแล้วผอม เอ๊ะ! ไหงหลายคนอุตส่าห์ยึดสลัดเป็นอาหารจานหลักทุกมื้อ แต่พุงไม่ยักกะยุบ! แถมทุ่มชีวิตออกกำลังกายหนักหน่วง ..น้ำหนักก็ยังเกินพิกัด!
“เรื่องการลดน้ำหนักกับไขมันเป็นหัวข้อที่เป็นไลฟ์สไตล์ (Lifestyle)”
หมอสมบูรณ์ รุ่งพรชัย American Board Anti-Aging Medicine แพทย์ประจำ Apex Profound Beauty พุ่งขุดลึกถึงสาเหตุหลักสำคัญของปัญหาความอ้วน ที่หนักอกหนักใจคุณผู้หญิงทุกยุคทุกวัย
“ปัญหานี้เมื่อ 20 ปีก่อนกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน เพราะไลฟ์สไตล์คนเราเปลี่ยนทุกปี ฉะนั้นก็จะพบปัญหาความอ้วนของคนแต่ละยุคไม่เหมือนกัน
บางอย่างที่เราเคยเชื่อหรือปฏิบัติกันมากลับไม่ได้ผล หรืออาจจะไม่ถูกต้อง หรือเสียสุขภาพไปเลย ประเด็นแรกคือ เรื่องของอาหาร เนื่องจากเชื่อกันว่าคนที่มีไขมันหรือน้ำหนักตัวเกิน เพราะมีแคลอรี่ (calories) เข้ามาในตัวเยอะ และก็ใช้น้อย เราเข้าใจตรงไปตรงมา ดังนั้นเมื่อกินผลไม้ซึ่งแคลอรี่ต่ำ ก็น่าจะผอม เป็นเหตุเป็นผลตรงไปตรงมา ไม่น่าซับซ้อนใช่มั้ย แต่ทำจริงๆ แล้วมันไม่ใช่
ขณะเดียวกันเราพบว่าผู้หญิงคนนี้กินเยอะกว่าเรา แต่ผอมกว่าเรา ทำไมเรากินน้อยกว่าคนอื่น เรายังอ้วนอยู่ และอะไรคือความจริง”
…เรามาไล่ดูกันเลยค่ะ อะไรคือความจริง เพื่อการลดความอ้วนหรือคุมน้ำหนักอย่างถูกต้อง
กินน้อย น้ำหนักเพิ่ม
หมอสมบูรณ์เผยว่าตัวแปรที่ทำให้อ้วนไม่ใช่ปริมาณอาหารที่กิน หากคือร่างกายของแต่ละคนตอบสนองกับอาหารนั้นๆ อย่างไร
“ตัวสำคัญคือ ฮอร์โมน (hormone) การกินแป้งกับน้ำตาลสำหรับคนบางคนดูเหมือนไม่กระทบกระเทือนกับน้ำหนักเขาเลย เพราะร่างกายเขาสามารถจัดการกับคาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน ขับออกไปได้ แต่บางคนแค่ขนมนิดเดียว เกิดอาการตั้งแต่ท้องอืด ป่องมาเลย และน้ำหนักก็ขึ้นตอนเย็น อ่อนไหวไปหมด จนเหมือนกับตัวเองเป็นอะไร
ร่างกายมีกลไกสำคัญคือ อินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวคุมแป้งกับน้ำตาล เป็นตัวทำให้เรารู้เกี่ยวกับเบาหวาน
เราพบว่าร่างกายของคนที่มีอินซูลินเกินจะมีการดูดคาร์โบไฮเดรตได้มากกว่าคนปกติ และสามารถเอาไปเก็บได้เยอะว่าคนปกติ กับคนอีกกลุ่มที่มีอินซูลินค่อนข้างน้อย พอร่างกายทานเข้าไป 100 สามารถดูดเก็บได้แค่ 50 และอีก 50 แทนที่จะไปเก็บในไขมัน กลับเอาไปเผาผลาญต่ออีก กลายเป็นคนมีระบบการเผาผลาญอาหารสูง ก็เลยกินเท่าไรก็ไม่อ้วน”
ยิ่งอด ยิ่งอ้วน
และสาวๆ หลายคนยอมอดมื้อเย็น งดแป้งและโปรตีน กินเพียงผักผลไม้ ทว่าน้ำหนักก็ไม่ลดสักที
“ครับ มันไม่ใช่จำนวนแคลอรี่เท่านั้น มันมีเรื่องจำนวนมื้ออาหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย บางคนไม่กินอาหารเช้า ร่างกายก็จะมีความรู้สึกว่าแคลอรี่ไม่พอตั้งแต่เช้า ซึ่งคนเหล่านี้คิดว่าลดไปแล้วตอนเช้าก็มาบวกตอนเย็นแทน หรือบางคนกินมื้อเช้าเยอะ แต่หลังเที่ยงไม่แตะ มันก็จะมีความเสี่ยง
คือ คนที่ทานมื้อเดียวต่อวัน ร่างกายก็จะมีแคลอรี่ดีช่วงหนึ่ง อีกครึ่งวันก็จะไม่ดี ในระยะยาวพบว่าร่างกายจะมีการปรับตัวให้จำศีลมากขึ้น กลายเป็นการลดกระบวนการเผาผลาญอาหารลง
ถ้าจะให้ร่างกายเผาผลาญดี ต้องค่อยหยอดเติม ไม่ใช่แบบตักเติม เพราะร่างกายไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้น รู้แต่ว่าอยู่ๆ แคลอรี่ไหลเข้ามา ก็เก็บไว้ ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ก็ต้องเอาตัวรอดให้มากที่สุด
เพราะงั้นวิธีการที่จะทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีที่สุด ต้องให้ร่างกายรู้สึกเป็นเพื่อนกัน ให้ไปเรื่อยๆ ให้พลังงานเข้าเรื่อยๆ เขาก็จะรู้ว่าเขาต้องเผาผลาญตลอด ไม่ใช่มากระตึ้กกระตั๊ก” หมอสมบูรณ์อธิบายการผูกมิตรกับระบบเผาผลาญอาหารในร่างกาย พร้อมแนะการแบ่งมื้ออาหารอย่างถูกต้อง
“โดยทั่วไป 3 มื้อ แต่ขอให้ตรงเวลา และง่ายๆ ก็คือ ถ้าระหว่างมื้อใดมื้อหนึ่งห่างกันมาก เช่น เกิน 6 ชั่วโมง ก็แนะนำให้หาผลไม้ หรือ healthy snack รองท้องสักนิด”
กินแต่ผัก กลับไม่ผอม
นอกจากสาวเราควรกินอาหารครบทุกมื้อแล้ว หมอสมบูรณ์กำชับอีกว่าควรกินให้หลากหลายด้วย ไม่ใช่กินเฉพาะผักผลไม้ โดยไม่แตะแป้ง โปรตีน หรือไขมันเลย
“ก็จะเชื่อกันว่า กินผักผลไม้แล้วจะผอม 1-2 ปีแรกพอไหว แต่หากกินแบบนี้ไปนานๆ ขาดโปรตีน ขาดวิตามิน คือ วิตามินที่มีอยู่ในผักไม่ขาด จะไปขาดวิตามินที่อยู่ในโปรตีน และเมื่อกินแต่ผักผลไม้ ก็จะขาดพวกโปรตีนไขมัน คนเราพอไม่กินไขมันโปรตีน ผิวจะไปก่อนเลย ผอมก็จริง แต่สุขภาพไม่ดี ใช้ชีวิตกินลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะมีปัญหาเรื่องโรคภูมิแพ้ แพ้โน่นแพ้นี่ง่ายขึ้นเรื่อยๆ”
แทนที่จะเลือกกินนี่ ไม่กินโน่น ควรไปเน้นการบริหารจัดการเรื่องความถี่และปริมาณอาหาร..นี่คือหลักการลดน้ำหนักที่ถูกต้องค่ะ
“เพราะสุดท้ายแล้ว ต้องกินทุกอย่างที่มีผลดีต่อสุขภาพ”
นอนน้อย ย้อยทั้งตัว
“คนไม่เข้าใจว่าการนอนมีความสำคัญ” หมอสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักแบบบูรณาการ เปิดประเด็น
“ในชีวิตประจำวันคนทุกวันนี้นอนไม่เป็นเวลา เนื่องจากว่าทีวีเข้ามา อินเทอร์เน็ตเข้ามา ฮอร์โมนที่เร่งการเผาผลาญส่วนใหญ่ทำงานช่วงกลางคืนครับ ดังนั้นในกรณีที่ร่างกายไม่นอนช่วงกลางคืน ฮอร์โมนที่เร่งการเผาผลาญจะ drop ไป ตอนเช้าตื่นมา การเผาผลาญก็แย่ตามมาด้วย
คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนจะมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักเกินเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นเบาหวานและนอนไม่ดีด้วยก็คุมยากเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า อธิบายตรงไปตรงมาก็คือ กลางคืนแทนที่จะได้เผาผลาญ ก็ไม่ได้ทำงาน
รู้มั้ยครับว่า ช่วงกลางคืนเผาผลาญทั้งคืน ร่างกายเผาฯตั้ง 800-900 แคลอรี่ ไปวิ่งเหงื่อออกโชก คุณเผาฯแค่ 400 แคลอรี่”
คนที่นอนตรงเวลาและหลับสนิท น้ำหนักจะค่อนข้างนิ่งกว่า
“การนอนหลับไม่สนิท ร่างกายก็ไม่เผาผลาญ เพราะร่างกายมึนงงว่าจะพักก็ไม่พัก จะบู๊ก็ไม่บู๊ หลับๆ ตื่นๆ ร่างกายมนุษย์ถูกตั้งโปรแกรมไว้แล้วว่าต้องเป็นสัตว์กลางวัน นอนกลางคืน คนรุ่นก่อนนอนกลางคืน ไม่มีทีวี ไม่มีเน็ต ร่างกายกลับแข็งแรง ไม่ป่วยง่ายๆ คุณภาพชีวิตดี ไม่อ้วนง่าย การเผาผลาญดี ตื่นมาแต่เช้าตักบาตร กินกันตั้งแต่เช้า
อย่างที่บอกข้างต้นครับว่าไลฟ์สไตล์คนเปลี่ยนไป ยิ่งชีวิตในเมืองเพี้ยนไป เราคิดว่ากลางคืนทำงานได้ดีกว่า ไม่มีโทรศัพท์มากวนประสาท กลางวันยุ่งจัง ไม่มีสมาธิทำงาน ซึ่งไลฟ์สไตล์แบบนี้ส่งผลกระทบกับสุขภาพเราโดยไม่รู้ตัว”
หมอฝากมายังท่านผู้อ่าน ณ ตรงนี้เลยว่า เวลานอน ก็นอนจริงจัง อย่าเปิดไฟเปิดทีวีค้างไว้
“ไม่ควรเอาทีวีไว้ห้องนอนด้วยซ้ำ แสงส่ง effect เยอะครับ และเมื่อถึงเวลาพักผ่อนสมอง ยิ่งเปิดไฟไว้ สมองมันไม่รู้สึกว่าได้พักผ่อน พอนาฬิกาชีวิตไม่ดีปุ๊บ มันก็ทำให้สมองไม่สมดุล
ฝรั่งบอกเลยว่า การนอนน้อยเป็นการ depress เครียดกว่าปกติ และซึมเศร้าง่าย จะเห็นว่าคนที่ทำงานเยอะๆ นอนน้อย จะเครียดซึมเศร้า”
ฉะนั้น สาวเราต้องหันกลับมาให้ความสำคัญกับการพักผ่อนนอนหลับตอนกลางคืนแล้วล่ะค่ะ เพื่อได้ประโยชน์จากช่วงการเผาผลาญที่ดีที่สุดอย่างเต็มที่
ออกกำลังกายเยอะ ร่างกายบวม
“เมื่อก่อนเราคิดว่าออกกำลังกายเยอะ ก็เผาผลาญเยอะ” หมอสมบูรณ์ต่อประเด็นการออกกำลังกาย
“แต่ตอนนี้พฤติกรรมคือ เล่นไม่ถูก และเล่นมากเกิน สิ่งที่เกิดคือ ทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ พอร่างกายอักเสบ ร่างกายก็จะบวม และชะลอการเผาผลาญ เพราะฉะนั้นกลายเป็นว่ายิ่งเล่น น้ำหนักยิ่งเพิ่มขึ้น มีคนเล่นหนักมากและแทบไม่ได้พัก บวกกลางคืนไม่ค่อยได้นอน ตอนเช้าก็กลับมาเล่นต่อ กล้ามเนื้อไม่ได้พักผ่อน ก่อให้เกิดการอักเสบ
การออกกำลังกายคือ การป้องกันรักษาน้ำหนักที่ดีที่สุด แต่ลืมมองไปว่าถ้าในวันที่ตัวเองเครียดหรือพักผ่อนน้อย ก็ควรปรับการออกกำลังกายให้เหมาะกับร่างกายที่พักผ่อนน้อยด้วย เบาลง แต่มักโฟกัสว่ามาเล่นแล้ว ต้องเล่นให้หนัก เหมือนม้าที่เดินมาเป็นพันๆ ไมล์ ไม่หยุดพัก ตอนจบมันก็ล้ม ล้มก็คือ การเผาผลาญล้มทั้งระบบ ตอนนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่กินก็น้ำหนักขึ้นได้”
ค่ะ เชื่อว่าสาวๆ หลายคนกำลังลดความอ้วนด้วยวิธีที่ผิด เข้มงวดอาหารการกินเกินไป กินแต่ผักผลไม้ ไม่แตะแป้ง-โปรตีน-ไขมัน เอาแต่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่ได้พักผ่อน ละเลยการนอน นอนไม่เป็นเป็นเวลาบ้าง นอนหลับไม่สนิทบ้าง ซึ่งการดำเนินชีวิตเยี่ยงนี้นอกจากไม่ช่วยให้คุณผอมลงแท้จริงแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
“การกิน การออกกำลังกาย และการนอน เป็นกุญแจสำคัญครับ” หมอสมบูรณ์ทิ้งท้าย
“ทุกอย่างต้องสมดุล”
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net