By Lady Manager @Bitchy
สุภาษิตฝรั่งที่ว่า “Disappointment is the nurse of wisdom” หรือแปลเป็นไทยให้ความหมายว่า “ความผิดหวังเป็นการบำรุงความฉลาด”
ย่อมเป็นข้อคิดที่เตือนสติสาวหญิงเราได้เป็นอย่างดี ว่าหากเราโง่เรื่องรักเมื่อไหร่ก็ตาม ความผิดหวังตรมใจจะบังเกิดทันที ดังนั้นเราต้องรู้เท่าทันเกมรักแบบผู้หญิงฉลาดเขาทำกัน!
ฉลาดแรก
->ต้องใช้ชีวิตคุ้มค่า
จำไว้ ยามใดก็ตามที่เรามีแฟนจ๋า ชีวิตเราอาจจะเปลี่ยน แต่การดำรงชีวิตไม่ควรจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยสิ้นเชิง!
จงปรับเปลี่ยนเฉพาะในส่วนที่ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น หากคุณเปลี่ยนแปลงไปซะทุกอย่างกลายเป็นจนผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คุ้นเคย เขาก็จะค่อยๆ หมดความสนใจในตัวคุณ เช่นว่า ก่อนจีบ คุณมีนิสัยมึงมาพาโวย พอได้เป็นแฟนกันปุ้บ ปรับเปลี่ยนนิสัยเป็นสาวเรียบร้อยเหมือนพับผ้าพับไว้แบบยับๆ ขึ้นมาซะงั้น หวังจะพิชิตใจให้ได้ แต่คุณคิดผิดถนัด ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะมองเห็นคุณค่าของคุณจริงไหม?
อีกทั้งควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่า อย่าไปจมปลักและมอบกายถวายหัวให้เขาเพียงผู้เดียว จนเวลาส่วนตัว เช่น ไปดูหนังกับเพื่อน เที่ยวต่างจังหวัดกับก๊วนแก๊ง แดนซ์ขาขวิดในผับ ชีวิตอันแสนสนุกสนานเหล่านี้ หายไปเมื่อคุณมีแฟน เพราะคุณอาจกลัวคนรักไม่ปลื้ม จนจึงพฤติกรรมเหล่านั้น นั่นเท่ากับว่า คุณสูญเสียเวลาส่วนตัวให้คุณแฟนหมด จนไม่เหลือให้เพื่อนฝูงน้องพี่เลยรึ!
เพราะยามใดที่คุณอกหัก พ่อ-แม่-เพื่อน-พี่น้องจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ และทุกเวลา ทุกโอกาส ไม่ว่าคุณจะสวย หรือคุณจะขี้เหราก็ตาม
ฉลาดสอง
->เซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย
คุณอย่าทำตัวเป็นทางผ่านเซ็กซ์เด็ดขาด! จำไว้ว่าพวกผู้ชายเขาไม่ได้หื่น แค่แตกตื่นกับเพศตรงข้าม!
ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์เขาแค่ไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดำเนินต่อไปอย่างไรก็อย่าลืมว่าคนแปลกหน้า ก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงประวัติส่วนตัวเขาจะดี แต่ที่แน่ๆ คุณไม่มีโอกาสรู้ว่าเขามีโรคติดต่อทางเพศหรือเปล่า ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีอะไรกับเขาถ้าคุณยังไม่พร้อมในทุกด้าน เรารู้จักรักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์ได้
ควรใช้เวลาศึกษา คบหาดูใจกันไปสักพัก แล้วค่อยขึ้นเตียงคงจะเป็นเรื่องไม่ยาก อาจมีเซ็กซ์กับคนรักไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ประหลาดแน่หากมีเซ็กซ์แบบโง่ๆ เพราะหลงคารมของชายที่จ้องจะฟันหญิง!
ฉลาดสาม
->ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
อย่ามัวแต่เทิดทูนคนหล่อ หลงใหลมัวเมาในหน้าตาและคารม พวกผู้ชายเหล่านี้มีแต่ในนิยายเท่านั้น เพราะร้อยทั้งร้อยไม่โดนคาบไปแล้ว งั้นพวกผู้ชายหน้าตาดีเหล่านี้คงต้องเป็นเก้งกวาง ไม่ได้อยากคบเราเป็นแฟนแต่ขอลดสถานะเป็นเพื่อนสาวซะงั้น!
เพียงแค่เขาคนนั้นทำให้คุณมีความสุข อบอุ่น หัวเราะเวลาอยู่ด้วยกัน แถมเขายังฉลาด แต่ไม่หล่อเลย คุณสาว ๆ ลองไปเดินสังเกตตามซูเปอร์มาเก็ต ผู้ชายที่มาซื้อของกับครอบครัวหรือเล่นอยู่กับลูกๆ ตามชายหาด ผู้ชายเหล่านี้หน้าตาอาจจะไม่เหมือนนายแบบในแมกกาซีนเลยสักนิด แต่เขานี่แหละที่เหมาะจะเป็นพ่อของลูกคุณ
ฉลาดสี่
->ปริมาณรัก 50-50
อย่ารักเขาให้มากจนเกินร้อย มอบใจถวายหัว เพราะชีวิตคนไม่แน่นอน ตอนกลางวันโทรหาเราบอกรักเราอย่างพร่ำเพ้อ แต่พอตกตอนเย็นนัดกิ๊กกินข้าวดูหนัง ในขณะที่เราก็หลงละเมอเพ้อพกว่าเขามีเราแค่คนเดียว แต่ผิดถนัด! เพราะผู้ชายสมัยนี้ ไม่มีกิ๊ก ก็เมาหัวราน้ำ เอ๊ะ! ผู้ชายดีๆ มีแต่ในนิยัยแล้วหรือ?
สิ่งที่คู่รักต้องการ คือ ความรักที่พบกันครึ่งทางมีการให้และรักอย่างสมดุล ต่างฝ่ายต่างเอาใจใส่ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน มอบความรักให้อีกฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป
ต้องรักษาสมดุลรักให้เป็น ไม่มากไม่น้อย ไม่หย่อนไม่ตึงเกินไป จะทำให้คุณถึงฝั่งฝันรักได้อย่างถึงที่หมาย แบบรักไม่โง่ไงล่ะ
ฉลาดห้า
->อย่าทำตัวดั่งพรมเช็ดเท้า!
ผู้หญิงที่ทำตัวแสนดี คอยช่วยเหลือผู้ชายตลอดเวลาเหมือนเธอเป็นพรมเช็ดเท้า จะไม่สามารถชนะใจผู้ชายได้เลย เพราะเขาจะคิดว่าคุณแค่เป็น “ไก่รองบ่อน” เท่านั้น!
เช่นเดียวกับผู้หญิงที่ทำตัวแสนดี ผู้เสียสละได้ทุกอย่างเพื่อคนรักตลอดเวลา จำไว้ว่า เขาต้องการเมีย ไม่ได้ต้องการแม่ ความเป็นคนดี๊คนดี ดีเกินกว่าที่ผู้ชายธรรมดาที่ไม่ได้บวชเป็นพระ เขายังมีกิเลส ตัณหา มันจะทำให้เขาคิดกับเราว่า เก็บชีไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย ตอนเราไม่เหลือใคร แล้วเราค่อยกลับมาหาหล่อน
อ้าว! งั้นผู้หญิงเราต้องผู้ชายชอบคนเลวหรือไง ก็ขอบอกว่าไม่ใช่เลยค่ะ การเป็น ‘เหยื่อผู้น่าสงสาร' ของพรมเช็ดเท้า กับ ‘แม่พระผู้ยอมทนได้ทุกอย่าง' ทำให้ผู้ชายไม่เห็นความสำคัญหรือจำเป็นต้องมาง้อคุณ เอาใจคุณ เพราะกลัวคุณหลุดลอยไป การอยู่กับคุณเป็นเรื่องโคตะระสบาย
เพราะคุณทำให้ทุกอย่าง แต่มันน่าเบื่อ เพราะเพศชายมีสันดานเป็นนักล่า ถ้าคุณเข้าใจจิตใต้สำนึกของความเป็นนักล่าที่ฝังอยู่ในดีเอ็นเอผู้ชาย คุณจะรู้เลยว่าการทำตัวเป็นพรมเช็ดเท้ามันไม่ต่างกับการที่คุณถูกย่ำยี เหยียบย่ำ ไร้ค่า อยู่ตลอดเวลาเลย
ฉลาดสุดท้าย
->เลิกนิสัยเพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสต์
“คุณอยากเป็นคนเจ๋ง คนเก่ง หรืออยากเป็นคนมีความสุขล่ะ?”
ดร.ริชาร์ดส คาร์ลสัน (Dr. Richard Carlson's) เจ้าพ่อหนังสือแนวพัฒนาตนเองที่ประสบความสำเร็จถล่มทลายชุด Don't Sweat The Small Stuff บอกไว้ว่า
“การพิสูจน์ว่าตนเองเป็นฝ่ายถูก และคนอื่นเป็นฝ่ายผิดย่อมทำให้คนอื่นหาทางโต้แย้งอยู่เสมอ” ดร.ริชาร์ดส์ แนะว่า นี่แหละที่มันทำให้เกิดการทะเลาะกันไง
คนที่ต้องทำถูกต้องเสมอ คือ ถูกต้องตามมารยาท ถูกต้องตามจารีต ถูกต้องตามกฏหมาย ถูกต้องตามศีลธรรม ฯลฯ มาจากนิสัย perfectionist นักนิยมความสมบูรณ์แบบ พวกเธอจึงเห็นความไม่สมบูรณ์แบบไม่ได้เพราะจะทำให้เธอปรี๊ดจนของขึ้น ต้องเป๊ะ ต้องเยอะ มิฉะนั้นฝ่ายชายอาจงานเข้าได้
ผู้หญิงที่ต้องทำตัวให้ถูกต้องเสมอ จึงเป็นคนที่อยู่ด้วยยาก ดังนี้ ดร.ริชาร์ดส แนะว่า
“ทุกครั้งที่คุณไม่พยายามพิสูจน์ว่าตัวเองถูก แต่เลือกที่จะเป็นคนเมตตา ท่านจะเกิดความสงบและสันติสุขในใจตนเอง”
การให้อภัย และพลัดกันยอมบ้างตามโอกาส อย่าพกอีโก้เก็บไว้กับตัวตลอด เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตรักไม่มีความสุข ควรลดทิฐิที่มีให้แก่กัน จะทำให้ความสุขเล็กๆ แต่มั่นคงจะมาเยือนชีวิตรักคุณอย่างไม่รู้ตัว!
เพราะการทำตัวฉลาดเว่อร์อาจทำให้เราถูกโดดเดี่ยว เพราะเขาจะตีตัวออกห่างเพื่อไปหาคนโง่กว่าเราเล็กน้อย!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net