By Lady Manager
เอะอะคิดอะไรไม่ออก ผู้หญิงอย่างเราเปิดตู้เสื้อผ้าคว้าหมับเอา “ชุด Dress” ใส่ตลอด!
เหตุเพราะชุดเดรส (Dress) ดูเป็นผู้หญิ้งผู้หญิง แถมสวยใสไฮโซอีกต่างหาก งั้นเรามาล้วงลึกชุดเดรสกันดีกว่า ว่าทำไมชุดเดรสไม่มีวันเอาท์ และฮิตไม่สร่างซากับกูรูตัวแม่ชุดเดรส คุณปุ๊ก-ภารุณี มุติวัฒนาสวัสดิ์ Brand Manager แห่ง AIIZ Career และ All Dress
“ระหว่างที่ทำงานมา 7-8 ปี ปรากฏว่าเราเจอสินค้าที่ขายดีมาก คือ เดรส หรือคนไทยเรียกว่าชุดแซ็ก (Zag) แต่จริงๆ แล้ว ที่คนไทยชอบเรียกชุดแซ็ก เพราะว่า แซ็ก แปลว่า ถุง คนไทยจึงชอบเรียกว่าแซ็ก
ส่วน Dress ภาษาอังกฤษ แปลว่า ชุดติดกัน และผู้หญิงทำงานซื้อชุดเดรสเยอะมาก เหตุผลที่ซื้อชุดเดรสเพราะ…..
ประหยัดตังค์
“เดรสทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเสื้อผ้า เช่น เสื้อปกติขาย 1,490 บาท กางเกงหรือกระโปรง 1,790 บาท เวลาเราจะออกจากบ้านต้องใช้เงิน 3,200 บาทต่อชุด แต่ชุดเดรสเริ่มต้นแค่ 1,400-2,000 บาท เราออกจากบ้านทั้งชุดแค่ 2,000 กว่าบาท หรือ 1,000 กว่าบาทด้วยซ้ำ ทว่าหากเรา Mix & Math จะกลายเป็น 2-3 พันบาททันที นี่คือเหตุผลที่ทำให้เดรสขายดี”
ขี้เกียจคิด
“ผู้หญิงเราตื่นเช้ามาขี้เกียจคิด ทีนี้เดรสทำให้ตัดปัญหาเรื่องนี้ไป ผู้หญิงตื่นเช้ามาไม่ต้องเสียเวลา Mix & Match ท่อนบนท่อนล่าง แต่สาวที่ยังชอบการ Mix & Match แต่มีเดรสไว้ในกรณีที่ไม่มีอารมณ์ในการแต่งตัว อย่างเวลาเราตื่นมาบางครั้งมันเป็นอารมณ์หงุดหงิด ขี้เกียจคิด หรือทะเลาะกับแฟนบ้างล่ะ”
พี่ปุ๊กจึงเปรียบเดรสเหมือนพาราเซตามอล ยาสามัญประจำบ้าน ปวดหัวก็กินพาราฯ คิดอะไรไม่ออกไม่สบายก็กินพาราฯ แล้วสังเกตดูแม้เเต่เสาร์-อาทิตย์เอง เวลาเราขี้เกียจแต่งตัว เราก็ใส่เดรสง่าย และข้อดีขอ เดรสอีกอัน มันทำให้ชิ้นส่วนของผู้ใส่ดูใส่แล้วให้ดูเป็นทางการได้ หรือดูเป็นลำลองก็ได้
“ลองนึกดูเวลาเรามีประชุมสำคัญ หรือเรามีธุระที่ต้องไปงานสำคัญ เราจะเลือกใส่แต่เดรส แม้แต่งานศพ สังเกตคนไปงานศพส่วนใหญ่ก็จะใส่เดรส หรือแม้แต่ไปงานแต่งงาน ก็ต้องเดรส พี่ไม่เคยเห็นงานแต่งงานที่ไหนผู้หญิงไม่ใส่เดรส แสดงว่าเดรสเป็นอะไรที่สำคัญมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้เดรส เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากของผู้หญิง
มีหนังสือชื่อว่า Fifty Dresses That Changed The World ในนี้เขาจะมีเหตุการณ์สำคัญของโลก 50 เหตุการณ์ และเหตุการณ์พวกนี้ Changed The World ในแต่ละเหตุการณ์สำคัญ ผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์ใส่เดรสทั้งหมด อย่างยกตัวอย่าง Wallis Simpson แต่งงานกับกษัตริย์อังกฤษ แล้วกษัตริย์ยอมสละราชบัลลังก์เพื่อผู้หญิงคนนี้
ทุกครั้งที่ Wallis Simpson ออกสู่สาธารณะ เธอจะใส่เดรส และชุดนี้คือ เดรสที่เธอใส่ในงานแต่งงาน พูดง่ายๆ งานแต่งงานที่ไหนไม่มีใครไม่ใส่เดรส
หรือเดรสแบบ The New Look ก็คือ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พอหมดสงครามโลกข้าวยากหมากแพง ผู้หญิงจะแต่งตัวกันแบบง่ายๆ แต่ Christian Dior เขาทำชุดเดรส ที่เป็น New Look ในช่วงหลังสงครามโลกให้ผู้หญิง ตอบโจทย์ผู้หญิง คือ ต้องบอกว่า ก่อนหน้ายุค New Look ผู้หญิงจะแต่งตัวกันหรูหรา ฟู่ฟ่า
ในวงการแฟชั่น ถ้าดีไซเนอร์จะนำเสนออะไรใหม่ๆ ให้กับสื่อหรือลูกค้า จะนำเสนอด้วยเดรสเหมือนกัน คือ Christian Dior นำเสนอชุดเดรสที่เป็น New Look ชุดนี้เป็นชุดที่เหมือนเป็นการปฏิวัติการแต่งตัวครั้งใหม่ของผู้หญิง
หรือแม้แต่ Audrey Hepburn ภาพนี้คือ Breakfast At Tiffany ภาพลักษณ์ที่นำเสนอออกสู่มวลชน ต้องใส่เดรส คนพูดถึง Little Black Dress จะนึกถึงเขา หรือแม้แต่ Marilyn Monroe ภาพนี้เป็นภาพที่ทำให้คนรู้จักเธอ เขาก็ใส่เดรสเช่นกัน
หรือเดรสยุคใหม่ LED Dress ซึ่ง LED แปลว่า Let There Be Light เป็นชุดเดรสล่าสุด ที่พอกดปุ่มแล้วจะมีไฟวิ่งรอบตัว เหมือนวิวัฒนาการใหม่ของการแต่งตัวของเสื้อผ้า
รวมถึง Little Black Dress ซึ่ง Little Black Dress จะมีความสำคัญมากเลย ยิ่งถ้าเป็นต่างประเทศเวลาไปงานแต่งงานทุกคนจะไม่ถือเรื่องการใส่สีดำ ทุกคนส่วนใหญ่จะใส่ Little Black Dress และ Audrey Hepburn เป็นคนเริ่มต้นของคำว่า Little Black Dress”
ทว่าชุดเดรสนั้น นอกจากจะมีวิวัฒนาการแฟชั่นมานมนานแล้ว เพื่อความเข้าใจง่าย คุณปุ๊กขอซอยย่อย ชุดเดรสออกเป็น 9 ประเภท
“ไม่ได้หมายความว่า ชุดเดรสชุดนี้ชุดเดียวใส่ได้ตั้งแต่ไปจตุจักรจนถึงไปทำงาน”
กูรูคุณพี่ปุ๊กจึงขอแยกอีก 9 ประเภท
1. Shirt Dress
“เป็นเดรสที่แปลงมาจากเสื้อเชิ้ต Shirt Dress แน่นอนดูรู้ว่าเหมาะกับไปทำงาน ง่ายเหมือนเหมือนกับคนใส่เสื้อเชิ้ตไปทำงาน เพราะลึกๆ ผู้หญิงทำงานชอบใส่เสื้อเชิ้ตไปทำงานกัน”
2. Classic Dress
“จะเป็นพวกเดรสสไตล์ Little Black Dress สังเกตเสื้อผ้าเขาจะดู Classic ใส่ไปทำงานได้ ไปงานศพได้ด้วย หรือแม้แต่จะใส่ไปประชุมสำคัญ หรือประชุมผู้ปกครอง”
3. Knit Dress
“เดรสที่เป็นผ้ายืด จะใส่ง่ายหน่อย ใส่ไปเสาร์-อาทิตย์ได้ หรือวันไหนที่เป็นวันศุกร์ Casual Wear Look”
4. Wrap Dress
“Wrap Dress เป็นปรากฏการณ์ใหม่เริ่มเมื่อปี 1973 เป็นการแต่งตัวใส่เสื้อผ้าที่ไม่ต้องติดกระดุม หรือมีซิป แค่ผูกเอาเอง ที่ผ่านมาโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แล้วเดรสก็มีส่วนในการที่ทำให้วิวัฒนาการของเสื้อผ้าของโลกมีการเปลี่ยนแปลง
Wrap แปลว่า พันหรือห่อ Wrap Dress เป็นวิวัฒนาการใหม่ๆ ที่ผู้หญิงค่อนข้างชอบ ที่ชอบอย่างแรกคือ ไม่มีกระดุม และไม่ต้องมีซิป มีอิสระในการใส่ ไม่ว่าผอมหรืออ้วน ใส่ได้หมด เช่น Victoria Beckham เธอจะใส่ช่วงท้องตลอดเวลา เพราะ Wrap Dress จะคลุมท้องได้”
5. Toofa Dress
“ชุดเดรสที่มีลักษณะเป็นกระโปรงและเสื้อติดกัน เหมือนเราใส่เสื้อทับกระโปรงเป็นสองชิ้น อันที่จริงเป็นชุดเดรสติดกันชุดเดียวนั่นเอง เมื่อปีที่แล้วคนนิยมมาก”
6. Color Communication Dress
“เป็นเดรสที่ตัดต่อด้วยแพทเทิร์น ในชิ้นแพทเทิร์นแทนที่เราจะทำเป็นดำหมด เราก็เอาสีขาวมาสลับดำ ลูกไม้สลับคอตตอน จะเห็นมิติของเสื้อผ้า อันนี้มีรากฐานมาจากเสื้อชุดดำน้ำ จะมีการตัดต่อและสลับสี”
7. Functional Dress
“เราจะจับให้คอเสื้อจะเบี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ เราจะผลักซ้ายหรือขวา ทำให้อกเปิดหรือปิดเราก็ทำได้เช่นกัน”
8. Sun Dress
“ช่วงนี้กำลังเป็นที่นิยมอยู่เลย เพราะอยู่ในช่วง Summer นั่นเอง จะเป็น Dress ที่สีสันสดใส ส่วนใหญ่ใช้ผ้าคอตตอนหรือผ้าชีฟอง หรือผ้าลายดอกเป็นหลัก แบบพวกสาวฮิปปี้ ยุคบุฟผาชน”
9. Emotional Dress
“Emotional แปลว่า ความรู้สึก ไม่อยากจะใช้คำว่า ปาร์ตี้ เพราะบางทีเราไม่ได้ใส่ไปปาร์ตี้ แต่บางทีเรามีอารมณ์อินเลิฟ อยากใส่ชุดสวยๆ ไม่ได้อยากใส่แค่ Shirt Dress หรือ Classic Dress มันน่าเบื่อ อยากแต่งตัวเป็นพิเศษ แต่จริงๆแล้วคนทั่วไปจะเรียกว่า Party Dress นั่นเอง”
->คนอ้วนโปรดเดรส ใส่ไง?
“คนผอมแต่งอะไรก็สวย แต่ในทางกลับกันสำหรับคนอ้วนมักชอบใส่เดรส เพราะข้อแรกมันไม่อึดอัด และไม่มีเส้นเน้นพุง ต้องใส่พวก Wrap Dress หรือแม้แต่ Knit Dress
ทว่าคนอ้วนส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบ Classic Dress เพราะจะมีเส้นที่ทำให้เน้นเชฟ แต่ในทางกลับกัน หากเขาใส่เดรสแบบมีเส้นสายตรง จะทำให้หุ่นเขาดูเพรียวขึ้นได้”
->จับคู่ Accessories
“99% ของผู้หญิงไปงานแต่งงานต้องใส่ชุดเดรส จึงจำเป็นต้องมี Accessories ที่เข้ากับชุดเดรส เช่น กระเป๋าครัทช์ (Clutches) ปักเลื่อม หรืองานถัก ที่ไม่ใช่หนัง
หรือวันธรรมดาเราไปทำงานต้องใช้กระเป๋าที่ดูเป็นหนัง เพื่อดูเป็นทางการ ส่วนรองเท้าทำงานต้องใส่กับคัทชู เรียบเป็นหนัง ถ้าใส่ไปงานกลางคืนต้องเป็นพวกเปิดส้น”
อ๊ะ! รู้กันแล้วว่า ชุดเดรสต้องแต่งอย่างไรให้งามเด้ง งั้นอย่ามัวโอ้เอ้ พรุ่งนี้วันทำงานแล้ว หยิบเดรสมาสักตัวจากตู้ใส่ซะเล้ย!!
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net