By Lady Manager
ไม่ว่าใครก็อยากมีร่างกายแข็งแรง สุขภาพดีกันทั้งนั้น หลายคนพยายามสรรหาอาหารดีมีประโยชน์ แถมออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่บางครั้งกลับลืมไปว่า บางสิ่งใกล้ตัวนี่แหละ ที่แค่ปรับนิดเปลี่ยนหน่อย ก็ช่วยให้คุณมีสุขภาพดีได้ง่ายๆ
มาดูกันค่ะ ว่าสิ่งใดใกล้ตัวคุณบ้าง ที่เมื่อปรับเปลี่ยนแล้ว จะช่วยให้คุณเป็นสาวสุขภาพดีได้ อ้อ! ที่สำคัญ เคล็ดลับเหล่านี้ไม่ทำคุณเสียเวลานานด้วยนะ แค่สละเวลาสัก 1 นาทีก็แฮปปี้ แถมสุขภาพดีแล้ว
เคล็ดลับ1 : นั่งทำงานในท่าที่เหมาะสม
สิ่งเล็กๆ สิ่งแรกที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือคือ เรื่องของการปรับเก้าอี้ขณะนั่งทำงานค่ะ สาวหลายคนนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหลังงอ ขาลอยจากพื้น ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลให้คุณเกิดภาวะปวดไหล่ ปวดต้นคอ ลามไปถึงสะโพก, หลัง, ขา ได้ง่าย
ฉะนั้นเทคนิคที่จะทำให้คุณสุขภาพดีไม่ปวดเมื่อย ก็แค่เอื้อมมือไปปรับเก้าอี้ของคุณ ให้มีความสูงที่พอเหมาะ นั่นคือ เมื่อนั่งหลังตรงแล้ว เท้าต้องติดพื้นพอดี โดยให้เข่าของคุณตั้งฉากอยู่ที่ 90 องศา เท่านี้การนั่งทำงานของคุณก็จะสบายขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
เคล็ดลับ2 : เพิ่มคุณค่าให้อาหารจานโปรด
เป็นที่ทราบกันดีว่า ธัญพืชเป็นอาหารที่มีเส้นใยสูง รวมถึงมีโอเมก้า 3 (Omega-3) ซึ่งเป็นกรดไขมันดีที่สามารถป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งบางชนิดได้ เมื่อธัญพืชมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ในแต่ละมื้อของคุณคงดีไม่น้อย ถ้าหมั่นเติมธัญพืชเข้าไปด้วย เช่น จากโจ๊กธรรมดาก็โรยหน้าด้วยงาดำสักนิด หรือจะทานโยเกิร์ตก็โรยหน้าด้วยข้าวโอ๊ตดูสักหน่อย
เช่นเดียวกับการปรุงรสอาหารที่ไม่ควรหวาน, เค็ม, หรือเผ็ดจนเกินไป เพราะมันไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพคุณนัก ถ้าคิดอยากจะแต่งเติมรสอาหารให้เด็ดแซ่บหอมหวลขึ้น ลองหันมาเลือกสมุนไพรใกล้ตัว ที่มีประโยชน์อย่าง สะระแหน่ ที่ช่วยดับร้อน-ถอนพิษไข้-ขับลม-ขับเหงื่อ หรือโหระพา ที่เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ชั้นดี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรค เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง หรือจะพริกไทย ที่ไม่ได้มีดีแค่เพิ่มรสเผ็ดร้อน แต่ยังช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณทำงานได้เลิศขึ้น เชื่อเถอะค่ะว่า แต่งเติมรสชาติด้วยสมุนไพรแบบนี้ เพิ่มประโยชน์ให้อาหารได้อีกเพียบ
เคล็ดลับ3 : ฆ่าเชื้อโรคในฟองน้ำล้างจาน
เชื่อว่าหลายบ้านคงชินตากับสภาพฟองน้ำที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำยาล้างจาน แถมบางคราก็มีเศษอาหารเกาะอยู่อีกประปราย กองอืดอยู่ข้างอ่างล้างจาน นั่นหล่ะ แหล่งสะสมเชื้อโรคนานาชนิดเลย โดยเฉพาะเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella) ซึ่งก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง
ฉะนั้นถ้าไม่อยากป่วยเพราะได้รับเชื้อโรค หลังล้างจานด้วยฟองน้ำอุดมแบคทีเรีย (Bacteria) จึงต้องหมั่นทำความสะอาดกันหน่อย ซึ่งวิธีหนึ่งที่ได้รับการยอมรับคือ การนำฟองน้ำเข้าไปฆ่าเชื้อในไมโครเวฟ (microwave) เพราะวารสารด้านสุขอนามัย และสภาพแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา ตีพิมพ์ผลการศึกษาว่า การนำฟองน้ำล้างจานที่ชื้นไปอบในไมโครเวฟนาน 2 นาที จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้มากถึง 99%
แต่ทีมวิจัยก็เตือนมาด้วยว่า ให้ระวังประกายไฟที่อาจเกิดขึ้นด้วย เพราะหลักการทำงานของไมโครเวฟต้องใช้โมเลกุลของน้ำในการทำปฏิกิริยา ฉะนั้นหากคิดจะทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ก็ต้องทำฟองน้ำให้ชุ่มน้ำเสียก่อน ที่สำคัญฟองน้ำที่นำเข้าไปฆ่าเชื้อ ต้องไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่เช่นนั้น อาจเกิดประกายไฟถึงขั้นไมโครเวฟพังได้
เคล็ดลับ4 : วางแผนท่องเที่ยว / สร้างเสียงหัวเราะ ให้ตัวเอง
มหาวิทยาลัย Wake Forest ใน North Carolina เปิดเผยผลการวิจัยว่า การพูดคุยวางแผนเรื่องการท่องเที่ยว หรือผจญภัย กับคนใกล้ตัวทำให้มนุษย์รู้สึกมีความสุขมากขึ้น ดังนั้นหากทำงานแล้วเครียด เบื่อหน่ายเกินไป ลองคิดทริปเด็ดที่อยากไป แล้ววางแผนกับเพื่อนฝูงหรือคนรู้ใจดูสิ จะได้ไปหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่อง แต่แค่คุณคิดถึงเรื่องสนุกๆ ก็สร้างสุขให้ตัวเองได้มากแล้ว
หรืออีกทางที่ช่วยคลายเครียดได้แบบไม่ยาก คือ ลองหาภาพยนตร์ตลกเบาสมองมาดูสักเรื่อง ให้ขำขันเฮฮากันไป ถึงแม้จะดูเหมือนไร้สาระ แต่ก็ไม่ไร้ประโยชน์แน่ … เพราะงานวิจัยจาก Loma Linda University ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยืนยันว่าการดูหนังตลก หรือสิ่งที่ตลกขบขัน ที่ทำให้คุณหัวเราะนั้น ทำให้เอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขในสมองของคุณหลั่งเพิ่มขึ้นถึง 27%
เคล็ดลับ5 : เลิกสะพายกระเป๋าหนัก
สาวๆ หลายคนที่มีอาการปวดบ่า ปวดไหล่ อาจคิดแค่เพียงว่า ตัวเองทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานเกินไป ครั้นหยุดพักแล้วก็ยังไม่หายปวด… ถ้างั้นลองหันกลับมาสังเกตที่กระเป๋าสะพายของคุณเสียหน่อยว่า หนักเกินไปหรือไม่
เพราะการสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ, บ่า, ไหล่ ต้องทำงานหนักตลอดเวลา ดังนั้นจับกระเป๋าของคุณมาชั่งน้ำหนักเสียหน่อย หากหนักเกินกว่าร้อยละ 5 ของน้ำหนักตัวเอง ก็จัดแจงคัดสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกเสียบ้าง และแนะนำว่าควรสะพายกระเป๋าให้สายคล้องชิดกับคอ
รวมถึงเลือกกระเป๋าที่มีสายคล้องที่นุ่ม และขนาดสายคล้องใหญ่ แต่ไม่ยาวเกินไป เพื่อให้กระเป๋ากระจายน้ำหนักได้ดีขึ้น และควรเปลี่ยนการสะพายกระเป๋าด้านซ้าย และขวาสลับกันไป และถ้าเริ่มเมื่อยล้าก็ให้เปลี่ยนมาคล้องที่แขนแทน
เรียบเรียงจากออลยูดอทคอม
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net