Celeb Online

เซียนฟิตแอนด์เฟิร์ม “ปู-กมลชนก” ชี้สาววัย30+ เลิกทำตัวห่วย ตัวการทำหน้าแก่!

By Lady Manager

เริ่มนับถอยหลังให้กับเวลาแห่งความร่วงโรย ผิวหนังเริ่มเหี่ยว กล้ามเนื้อไม่มีความเฟิร์ม ห้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกคืบคลานมาอย่างเงียบๆ สำหรับสาววัย30+

จะมามัวปล่อยให้ความเหี่ยว เซลลูไลท์เต็มต้นขา ต้นแขน พุงกะทิโผล่ ได้อย่างไรกัน เลิกซะนิสัยขี้เกียจไม่ออกกำลังกายให้เป็นนิสัย

กูรูตัวแม่ เซียนออกกำลังกายร่างกายจนฟิตแอนด์เฟิร์ม จะมาเล่าสู่กันฟังบอกเคล็ดลับถึง วิธีออกกำลังที่สาวเลขสาม ต้องปฏิบัติ!

“สังเกตมั้ยว่า ถ้าคนที่เค้าเป็นสามี-ภรรยากันมานานหลายปีแล้ว พวกเขาจะรู้สึกว่าเป็นของตาย ทั้งคู่จะนอนอยู่ที่โซฟา นอนพุงพลุ้ยกัน

เพราะคิดว่าเธอเป็นของชั้น ชั้นเป็นของเธอ ความเร่าร้อนของกันและกันหายไป ผกผันกับห่วงยางรอบพุง ต่างคนก็ต่างหมดไฟในการเขย่ากัน เป็นความเศร้าขั้นเริ่มต้นของความสัมพันธ์ นี่ยังไม่พูดถึงโรคภัยรุมเร้า วิ่งเฝ้าหมอจนไม่ได้หาความสุขให้ตัวเอง”

ปู-กมลชนก ปานใจ จากนางแบบนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนขายดีฝีปากกล้า จากหนังสือ “ฟิตแอนด์เฟิร์มภายใน 21 วัน” และอีกหลายเล่ม กูรูเชี่ยวชาญในเรื่องความรัก เซ็กซ์ ความสัมพันธ์ จนกลายเป็น Life Stylist ที่มีงาน Event ไม่ขาด

และไม่ว่าจะผ่านมากี่ร้อนกี่หนาว นางก็ยังหุ่นเป๊ะ น่าเซี๊ยะ มิเสียชื่อฉายา “สาวน่องทอง” เมื่อครั้งเป็นนางแบบสุดเท่ หน้าเก๋

เหตุเพราะนางมีวินัยให้กับตัวเอง ไม่นอนดึกตื่นเที่ยง จัดเต็มกับการออกกำลังกายวันละ 3-4 ชั่วโมง และนางไม่ยอมนอนเป็นผักกะหล่ำปลีตายซากอยู่กับบ้านแน่นอน!

“เหมือนเวลาคนถามพี่ว่า ต้องออกกำลังกายถึงเมื่อไหร่ถึงจะหยุด พี่เลยบอกว่า น้องขา ออกกำลังกายหน่ะต้องออกตลอดชีวิตนะคะ เพราะกล้ามเนื้อหนูลดลงเรื่อยๆ หลังจากอายุ 30 และเซลล์ต่างๆ ก็เริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุ 25 ดังนั้นถ้าจะจะทานอะไรแบบไม่เลือก และไม่ยอมออกกำลังกาย ร่างกายคุณจะร่วงโรยอย่างรวดเร็ว”

ร่างกายต้องฟิตเปรี๊ยะพร้อมรับทุกสถานการณ์

“อย่างน้องคนหนึ่งหุ่นดีมาก แต่ไม่เคยออกกำลังกาย พี่ก็บอกว่าให้ออกกำลังกายบ้างเถอะ น้องสาวนางนั้นก็บอกว่า ทำไมต้องออกกำลังกายด้วย ดูหุ่นหนูสิยังดีอยู่เลย พี่เลยย้อนว่า จำไว้นะ วันนึงเวลาที่มีเรื่องเหมือนในหนังแอ๊คชั่นหน่ะ เธออาจต้องตกตึก ร่วงจากสะพาน อย่างน้อยเธอต้องโหนให้ได้ อย่างน้อย 15 นาที เพราะถ้ารอสไปเดอร์แมน ซูเปอร์แมน มาช่วย เราต้องโหนรอไว้ก่อน!

น้องคนนั้นยังไม่ get ยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งเมื่อปีก่อนที่น้ำท่วม เขาบอกพี่ว่า หนูคิดถึงพี่ปูทุกวันเลย ช่วงน้ำท่วมหนูปีนรถทหารไม่ได้ แขนมันยันตัวขึ้นไม่ได้ แล้วหนูต้องตะโกนให้ทหารช่วยยันหน่อย ยันหน่อย ก็ไม่มีใครได้ยิน หนูเนี้ยนึกถึงหน้าพี่ปูที่บอกให้ออกกลังกายทุกวันเลย

ดังนั้นต้องทำตัวเองให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร”


“วิธีการดีที่สุด ก่อนอื่นของการดูแลสุขภาพคือ การเปิดปาก ปากเราสำคัญที่สุด สำหรับบางคนที่รู้สึกว่าตัวเองตัวใหญ่มาก ช่วงเดือนสองเดือนแรก แนะนำให้ลดอาหารก่อน พอลดอาหารตัวจะเบา”


พอเบาลงเริ่มฝึกออกกำลังกายกันเลยจ้า


จัดเต็ม! ฝึกออกกำลังกาย 3 ประเภท

: ยกน้ำหนัก


อายุมากขึ้นกล้ามเนื้อที่เคยมีก็จะกลายสภาพเป็นไขมัน ดังนั้นเราต้องสร้างกล้ามเนื้อให้อยู่คู่กับเรา เพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์ม


“เราต้องรักษากล้ามเนื้อ ต้องพยายามยกน้ำหนักทุกอย่าง แม้กระทั่งการวิดพื้น ออกกำลังกายที่ใช้บอดี้ ใช้แรงของเรา ไม่จำเป็นต้องเข้ายิมก็ได้ ยกเวทอยู่กับบ้านก็ได้นะ”


: คาร์ดิโอ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio) คือ การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ, การเดิน หรือแม้แต่การเต้นแอโรบิก และต้องทำอย่างน้อย ครั้งละ 40 นาทีขึ้นไป

คาร์ดิโอมีอยู่หลายประเภท และอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก และเหมาะสำหรับการเผาผลาญไขมันโดยเฉพาะ นั้นคือ คาร์ดิโอแบบที่เรียกว่า เร่งความเร็วและลดความเร็ว ทำสลับกันไปมา

ตัวอย่างเช่น กระโดดตบต่อเนื่อง 1 นาที หลังจากนั้นให้ผ่อนความเร็วลงมาเป็น เดินช้าๆ 1 นาที ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ร่างกายของเราเผาผลาญไขมันได้มากกว่า การเดินด้วยเร็วที่คงที่ หรือแม้แต่การเต้นแอโรบิกในเสต็บความเร็วแบบคงที่

“แต่สังเกตมั้ยว่าป้าๆ ที่เดินอยู่แถวสวนลุม คาร์ดิโอทุกวัน เพราะมวลกล้ามเนื้อไม่มีเลย ไขมันก็จะแทนที่เพราะไขมันกับกล้ามเนื้อและน้ำทำตัวผกผันกันอยู่เสมอ

หมายความว่าถ้าดื่มน้ำน้อย เปอร์เซนต์ไขมันก็จะเยอะขึ้น ถ้ามีกล้ามเนื่อเยอะขึ้น เปอร์เซนต์ของไขมันก็จะน้อยลง

ดังนั้นคนแก่ไม่ยอมดื่มน้ำ เขาก็จะมีไขมันมาแทน และถ้าเขาไม่ออกกำลังกายเพื่อควบคุมมวลกล้ามเนื้อ เขาก็จะไม่มีกล้ามเนื้อ ไขมันก็มาแทนเหมือนกัน ดังนั้นเราต้องยกน้ำหนักควบคู่ไปด้วย

: โยคะ

โยคะเป็นการสร้างสมาธิให้กับตัวเอง สร้างความผ่อนคลายจากความเครียด และวิตกกังวล

“แม้กระทั่งเราทำงาน เราก็จะเป็นโรคเครียด โยคะทำให้เราผ่อนคลายมากที่สุด ประหนึ่งนั่งสมาธิ แต่ไม่ต้องเข้าวัด เราต้องฝึกจิตใจตัวเองในคลาสโยคะ มันจะผลักตัวเอง ทำให้ตัวเองรู้เช่นเห็นชาติใน 1 คลาสได้เลย

สมมติว่าวันนี้เราก้มได้ไม่ถึงเข่าแต่พรุ่งนี้เราก้มได้มากกว่าเดิม เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้กับตัวเองเลย”

ที่สำคัญ การออกกำลังกายแบบโยคะ หรือยืดกล้ามเนื้อทำให้เส้นไม่ตึง และหลังไม่งอ บุคคลิกดีขึ้น ทราบไหมคะที่เราหลังโกง เพราะหน้าท้องไม่แข็งแรง และหน้าท้องห้อย เพราะหลังไม่แข็งแรง แขนห้อยเพราะนอนดึกและทานแต่แป้ง

นอกจากออกกำลังกายแล้ว พี่ปูยังแนะด้วยว่า เราต้องฝึกสมอง ฝีกคิดอะไรเล็กๆ เพื่อรับมือกับปัญหาใหญ่ๆด้วย

ฝึกคิดเล็กรับปัญหาใหญ่ ออกกำลังกายสมอง ห่างอัลไซเมอร์

“เราควรฝึกคิด คือ ตอนเด็กๆ พี่จะคิดเสมอเลยว่า ถ้าเกิดไฟไหม้พี่จะทำอะไรบ้าง นี่คือเด็กยังไม่ถึง 15 แล้วพี่ก็ไล่คิดมาตลอด ตอนเรียนขับรถก็บอกคุณครูว่าช่วยสอนถอยหลังเผื่อว่ามีเรื่องในซอยตันเราจะได้ถอยหลังออกได้เร็ว มีวันนึงไปอ่านหนังสือเจอ เกี่ยวกับเรื่องสมอง

ในทางจิตวิทยา การฝึกคิดอะไรเล็กๆ เวลามีปัญหาใหญ่ มีอุบัติเหตุอย่างรุนแรง คุณจะแก้ปัญหาได้เสมอ ในขณะเดียวกันการออกกำลังกายสมอง การออกกำลังกายร่างกายก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเราฝึกให้ทำเล็กๆ พอเราเจอเรื่องใหญ่ๆ เราก็ทำได้

นั่นคือ การฝึกฝน พี่เชื่อว่า ถ้าเราอยากเก่ง เราต้องหมั่นเรียนรู้ ฝึกฝน มีวินัย แค่นั้นเอง การที่เราคิดเรื่องซับซ้อนได้ เราก็จะไม่เป็นอัลไซเมอร์ สมองของเราพอเราได้ฝึกอะไรทุกวันๆ กิ่งก้านสาขาก็จะเพิ่มขึ้น งอกไปเรื่อยๆ

พี่ปูตื่น 6 โมง 28 นาทีทุกวัน อาจเป็นเพราะว่าก่อนนอนบอกตัวเองทุกวันว่าไม่ชอบตื่นด้วยนาฬิกาปลุก เพราะนาฬิกาปลุกพี่ตั้งไว้ 6 โมง 30 คือ สมองเราฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะ ถ้าเราฟังมัน ถ้าเราให้ความสำคัญกับมัน เราจะได้อะไรอีกเยอะเลย

แต่ช้าก่อนคะ ทุกคนต้องคิดว่า พี่ปูต้องฟิตตั้งแต่สาวๆ แน่เลย เพราะพี่ออกกำลังกายวันละ 3-4 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่เลย พี่ปูมาจากลบ 500 สิ่งที่พี่ปูทำทุกวันนี้พี่เพิ่งกับมาได้ลบ 200 นะ ดังนั้นใครที่เห็นพี่ปูแล้วอาจบอกว่าไม่เห็นเฟิร์มเลย อย่าลืมว่าพี่เริ่มช้ามากเกือบสี่สิบคะ ดังนั้นยิ่งคุณปล่อยให้ตัวเองแย่เท่าไหร่ กว่าคุณจะวิ่งกลับมาที่ศูนย์ได้ก็ยากมากขึ้นเท่านั้น”

เลิกทำตัวห่วย นอนดึกหน้าแก่ คิดมากเห็นหมูตัวเท่าช้าง


“เมื่อก่อนตี 5 หรือ 6 โมงเช้าพี่ยังไม่นอนเลย ดีไม่ดีอีก 3 วันยังไม่นอนเลย เพราะคิดว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองแข็งแรง ไม่นอนก็ไม่เป็นไร แล้วช่วงนั้นพี่จะหน้าแก่มาก ถ้าเอารูปตอนนั้นกับตอนนี้มาดู จะตกใจเลย เพราะในขณะที่อายุน้อยแต่หน้าแก่กว่าปัจจุบันนี้อีก

พี่เลิกที่จะทำตัวแย่ๆ ตอนอายุ 37 ปี ทำตัวห่วยสุดๆ ยังดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน พิซซ่า เค้กเป็นปอนด์อยู่เลยนะคะ โชคดีที่ไม่สูบบุหรและดื่มเหล้า เพราะพี่ไม่อยากหน้าแก่ เหงือกดำ ตาเหลือง ไม่สวย ผิวแห้ง เลยไม่ทำ พี่ก็จะกินแต่น้ำเปล่าถ้าไปเที่ยว แต่เพื่อนนึกว่าพี่ดื่มจินโทนิก ทุกคนคิดว่าพี่เมา ต๊อง

เรื่องนอนนี่หักดิบเลยทุกวันนี้พี่ปูนอนไม่เกิน 4 ทุ่มนะ สามทุ่มก็เริ่มง่วงแล้วเพราะพี่อยากดูดีขึ้น สวยขึ้น ไม่อยากเป็นโรค ไม่มีโรครุมเร้านะตอนนั้น แต่โรคทางความคิดเยอะมาก แล้วเราก็พอเข้าใจเลยว่า ทันทีที่เราปรับพฤติกรรม ไอ้ที่คิดเยอะ คิดมากก็หายไป พอนอนเร็ว ออกกำลัง เลือกทานอาหารมีประโยชน์ร่างกายก็่ค่อยๆ ปรับสมดุลย์ให้เรา ฮอร์โมนมันบาลานซ์

บางครั้งการที่เราคิดเยอะ การที่เราไม่สบายใจ มันอาจไม่ได้มาจากชีวิตเราจริงๆ ก็ได้ เราอาจจะเห็นหมูตัวเท่าช้าง ในขณะที่หมูมันก็ตัวเท่าหมูนั่นแหล่ะ แต่เราเห็นทุกอย่างแย่หมดเลย เนื่องมาจากร่างกายเราไม่เป็นสุข”

ด้เคล็ดลับให้ความสวยคงอยู่กับเราเยอะเลยใช่มั้ยคะ เพียงแค่ปรับพฤติกรรม ฝึกวินัยในการออกกำลังกายให้กับตัวเอง แค่นี้ความฟิต ความสวย ก็อยู่กับเราไปตลอดแล้วล่ะค่ะ

*แอบฝาก

ใครชอบบทความฝากแวะไปคลิ๊ก like ให้ด้วยนะคะ ที่หน้าเพจ Facebook กมลชนก ปานใจ

หรือหาอ่านเทคนิคที่ทำให้คุณเริ่มสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้อย่างง่ายๆ จากพ๊อคเก็ตบุคชื่อ “ฟิตแอนด์เฟิร์มใน21 วัน” ของกมลชนก ปานใจ สั่งและถามตามร้านหนังสือทั่วไป

 
 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net