คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
มันเป็นความจริงเหมือนดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก ที่ว่า การแพร่เชื้อโรคทางเพศ สามารถโจมตีใครๆ ทุกคนได้ เชื้อโรคอันน่ากลัวเหล่านี้มันปนเปอยู่ในบรรดาโรคติดต่อทั้งหลายรอบตัวเรา แต่ก็ยังมีกลยุทธ์สำหรับหลีกหนีกามโรคเหล่านี้ โดยไม่ทำให้ชีวิตกามารมณ์ของคุณย่ำแย่ลงไป
จากสถิติ มันน่ากลัวพอที่จะทำให้คุณแทบสาบานว่าต่อไปนี้คุณจะไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครอีก ก่อนถึงวัย 20 ด้วยซ้ำที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่เคยติดเชื้อกามโรค อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิต และผู้หญิงวัยรุ่นมีโอกาสสูงสุดในการติดเชื้อ
แต่ก็ยังมีประเด็นที่ใหญ่กว่านั้นอีกสำหรับความเสี่ยงของผู้หญิง กล่าวคือเชื้อกามโรคที่ไม่ได้รับการรักษา เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงประมาณ 24,000 รายกลายเป็นหมันในแต่ละปี
ในทางกลับกัน แพทย์และนักวิจัยระดับแนวหน้าเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของกามโรคยืนยันว่าพฤติกรรมบางอย่างสามารถลดโอกาสในการติดเชื้อดังกล่าวได้ แน่ละยุทธวิธีเหล่านี้ไม่ใช่ยาวิเศษที่รักษาได้ทุกโรค ถุงยางไม่อาจป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และกามโรคยังแพร่ระบาดอย่างหนัก แต่การทำตามกฎของพวกเขาสามารถทำให้ผลการตรวจเลือดของคุณออกมาสะอาดปราศจากเชื้อบวกได้
โอษฐกามรอก่อน
“ผู้หญิงจำนวนมากยึดติดกับการทำรักด้วยปากแทนการมีเซ็กซ์เต็มรูปแบบ เพราะพวกเธอ เห็นว่ามันปลอดภัยกว่าการร่วมเพศโดยตรง ความจริงก็คือ มันยังเสี่ยงต่อการติดเชื้ออยู่ ซึ่งก็คือ เชื้อเริมอวัยวะเพศ(GENITAL HERPES)
จริงๆ แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ของกรณีเชื้อเริมอวัยวะเพศนี้ มีสาเหตุจากเชื้อเริมที่ปาก(ORAL HERPES) โดยปกติจะแพร่เชื้อจากปากบุคคลหนึ่งไปยังอวัยวะเพศของอีกบุคคลหนึ่ง” ดร.ปีเตอร์ ลีโอเน ผศ.ด้านยาแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนากล่าว
เพื่อหลีกเลี่ยงมัน ก็อย่าทำโอษฐกามให้ผู้ชายคนใด เว้นแต่คุณแน่ใจว่าเขาปลอดกามโรคอย่างแท้จริง เชื้อเริมที่ปากสามารถแพร่ก่อนที่จะเกิดตุ่มใสๆ อันปวดแสบปวดร้อนด้วยซ้ำ
ดังนั้นก่อนที่คุณจะให้ผู้ชายทำโอษฐกามให้คุณ โปรดตรวจช่องปากของเขาเพื่อหาตุ่มพุพองเล็กๆหรือสะเก็ดแผล ถ้าคุณเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติ ขอให้คุณรอก่อนจนกว่าอะไรก็ตามในปากของเขาจะเป็นที่ทราบอย่างชัดเจน
เชื้อปะทุของเริมที่ปาก
ถ้าเขามีเชื้อไวรัสนี้ ก็จะมีอะไรบางอย่างที่เป็นเชื้อปะทุสำหรับมันได้ นั่นก็คือ ความเครียด รังสียูวี และพฤติกรรมการกินอาหารขยะ
*เหตุที่กามโรคโจมตีผู้หญิงหนักกว่าผู้ชาย*
เชื้อกามโรคนี้มันเลือกปฏิบัติเสียด้วยสิ ต่อไปนี้คือสาเหตุที่ผู้หญิงมีความล่อแหลมต่อการติดเชื้อมากกว่าผู้ชาย
คุณมีผิวหนังข้างล่างนั่นมากกว่า เมื่อเปรียบกับสิ่งที่ผู้ชายมีอยู่ข้างล่าง ปรากฏว่า อวัยวะส่วนตัวของผู้หญิงมีพื้นที่มากกว่า (ลองนึกถึงแคมนอกและแคมใน รอยพับของปากช่องคลอด และตัวช่องคลอดของคุณเองดูสิ)
ซึ่งนั่นหมายถึงผิวหนังชื้นๆบางๆจำนวนมากสำหรับให้เชื้อกามโรคชอนไชเข้าไป
ปากมดลูกของคุณอนุญาตให้เชื้อโรคเข้าไป เส้นทางระหว่างช่องคลอดกับมดลูกของคุณนี้ปล่อยเลือดประจำเดือนออกมา แต่ก็ยังทำให้แบคทีเรียและไวรัสสามารถเข้าไปตั้งกิจการข้างในได้
น้ำอสุจิเป็นพาหะนำเชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายของคุณ ถ้าคุณมีเซ็กซ์ โดยไม่มีการป้องกันกับผู้ชายที่ติดเชื้อละก็ แบคทีเรียและไวรัสในน้ำอสุจิของเขาจะถูกส่งโดยตรงเข้าสู่ช่องคลอดของคุณซึ่งพวกมันจะสิงสถิตอยู่หลายชั่วโมง ถือว่าเป็นช่วงเวลาอันยาวนานในการทำให้คุณติดเชื้อ นอกจากนี้น้ำหล่อลื่นช่องคลอดยังสามารถส่งผ่านเชื้อกามโรคสู่ผู้ชายได้ด้วย แต่มีแนวโน้มน้อยกว่า
ยาคุมอาจทำให้คุณมีความอ่อนแอมากขึ้น การวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นแบบกิน ทาหรือฉีด อาจเปลี่ยนแปลงเซลล์พื้นผิวของปากมดลูก ซึ่งทำให้มันอ่อนแอต่อแบคทีเรียกามโรคมากขึ้น เช่น โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ
อาการมักจะคลุมเครือ ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอาการไม่ชัดเจนกว่าผู้ชายหรือไม่มีวี่แววด้วยซ้ำ และเมื่อเห็นว่าคุณมีอาการคันหรือเห็นอะไรผิดปกติ คุณก็มักจะสับสนกับอีกเรื่องหนึ่งของข้างล่างนั่น เช่น การติดเชื้อรา หรือ อักเสบขนคุด ดังนั้นคุณจึงไม่ค่อยรีบรักษาและปล่อยให้มันลุกลามเลวร้ายลงเรื่อยๆ
พวกมันสามารถป่วนการเจริญพันธุ์ของคุณอย่างเงียบๆ การติดเชื้อแบคทีเรียกามโรคโดยไม่มีการรักษา เช่น โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบและโกโนเรีย (หนองใน) สามารถกลายพันธุ์เป็น เชื้อโรคที่สร้างความอักเสบให้แก่อุ้งเชิงกรานของคุณได้ ในรายที่รุนแรงมันอาจส่งผลให้เนื้อเยื้อในท่อนำไข่ของคุณเป็นแผล ซึ่งทำให้ยากหรือเป็นไปไม่ได้สำหรับการตั้งครรภ์
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net