By Lady Manager
จากกรณีของ ใบเตย อาร์สยาม-สุธีวัน ทวีสิน เกิดอาการเลือดไหลบริเวณอวัยวะเพศจนต้องหามส่งโรงพยาบาล เจ้าตัว เล่าว่า สาเหตุน่าจะเป็นโรคอั้นประจำเดือน
“ใบเตยมีเลือดไหลทางอวัยวะเพศตลอดที่ไม่ใช่วันที่ประจำเดือนมา ไหลตลอดไหลทุกวันจนเราตกใจว่าเราเป็นอะไรมากหรือเปล่าก็เลยได้ไปตรวจ ก็เหมือนกับว่าเราเป็นโรคอั้นประจำเดือน
มีอาการปวดเยอะจนวันที่ไปโรงพยาบาลเลือดไหลออกตามขา ปวดจนเดินไม่ได้เลย”
ต่อประเด็นนี้เราจึงมาถามข้อมูลสูตินรีแพทย์ ถึงอาการเลือดออกทางช่องคลอดว่าส่งสัญญาณถึงโรคร้ายอะไรได้บ้าง
“ลักษณะของประจำเดือนที่ปกติ จะมาไม่เกิน 7 วัน ถ้าเกิน 7 วัน เราจะไม่เรียกว่าประจำเดือน”
นพ.นพดล ชูเกียรติ สูตินรีแพทย์แห่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น อธิบายถึงอาการเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
“เลือดออกในช่องคลอดเป็นอาการที่สำคัญ และพบมากในผู้หญิงทุกช่วงของอายุ พบตั้งแต่รายที่มีประจำเดือนก่อนวัยรุ่นจนถึงกระทั่งวัยหมดประจำเดือน สาเหตุใหญ่ๆ ต้องมาดูว่าอาการเลือดออกทางช่องคลอด มีลักษณะผิดปกติอย่างไรบ้าง
ส่วนมากคนไข้ที่มีอาการเลือดออกทางช่องคลอดแบบนี้ จะมีลักษณะที่แตกต่างจากประจำเดือน บางคนอาจจะมากที่ผิดปกติ หรือบางคนอาจจะมาลักษณะกะปริดกะปรอย
เราจะเรียกว่าเป็นภาวะเลือดออกทางช่องคลอดที่ผิดปกติ ที่ต้องหาสาเหตุ”
หลากสาเหตุ ทั้งทางสูติฯ และไม่สูติฯ
หมอนพดล อธิบายถึงสาเหตุต่อว่า
“อาจจะแบ่งเป็นกว้างๆ ว่า อาจจะไม่เกี่ยวข้องทางสูตินรีเวชก็ได้ เช่น อาจจะมีความผิดปกติทางปัสสาวะ ทวารหนัก หรือริมปากช่องคลอด มีลักษณะเป็นแผลก็ได้
ทว่าหากเกี่ยวกับภาวะทางสูตินรีเวช ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับมดลูก หรือปีกมดลูกไหม หรือถ้าไม่เกี่ยวข้องกับตัวมดลูก ปีกมดลูก ก็อาจะเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนก็ได้
อาจจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือริดสีดวง หากมีประวัติของการเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจเป็นภาวะอักเสบของปากมดลูกหลังมีเพศสัมพันธ์ ในส่วนของปริมาณจะบอกไม่ได้ชัดเจนขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพ
หากเกิดจากมดลูก สาเหตุที่พบได้บ่อยคือเรื่องของเนื้องอกมดลูก หรือติ่งเนื้อในโพรงมดลูก ถ้าเป็นความผิดปกติทางด้านรังไข่ส่วนใหญ่ที่พบอาจะเป็นเรื่องของช็อกโกแลตซีส (Chocolate Cyst)”
หมอนพดล บอกว่า ต้องตรวจเพื่อหาสาเหตุ เริ่มต้นจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมถึงการตรวจภายในด้วย
และอีกสาเหตุที่หมอนพดลขอเตือนคือ การกินยาเลื่อนประจำเดือน หรือที่เรียกกันว่า 'ยาคุม' เป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ มีส่วนให้รอบเดือนป่วน พอหยุดกินยา เลือดอาจมาไม่หยุด แถมเสี่ยงเป็นมะเร็ง
อีกเหตุ กินยาอั้นเมนส์ ทำรอบเดือนปั่นป่วน เสี่ยงมะเร็งโพรงมดลูก
“การอั้นประจำเดือน คือ การกินยาปรับประจำเดือนไม่ให้ประจำเดือนมา สาเหตุเหมือนกับผู้หญิงที่ต้องการปรับระยะประจำเดือน เพราะบางคนอาจจะมีปัญหาของการมีประจำเดือนเยอะ เช่น อาการปวดท้องรุนแรง มีไข้ หรือต้องทำกิจกรรม อาจะไม่สะดวกในช่วงของการมีประจำเดือน
ดังนั้นเมื่อทานยาปรับประจำเดือน ประจำเดือนจึงไม่มา การที่ประจำเดือนไม่มาจะส่งผลให้รังไข่ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเสียสมดุลไปรวมทั้งเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น เมื่อเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้นมากๆ สุดท้ายตอนที่ประจำเดือนมาจริง ก็จะทำให้มีประจำเดือนออกมามาก อาจจะทำให้รอบประจำเดือนผิดปกติไป ทำให้เหมือนตอนที่ประจำเดือนมามาก หรือมาแบบไม่ค่อยหยุด มาทุกวัน จากนี้ก็เป็นได้”
ทั้งนี้หมอนพดลแนะนำว่า ควรทานยาเลื่อนประจำเดือนตามความจำเป็น เพราะจะทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ หรือเสี่ยงเป็นมะเร็งโพรงมดลูก
“เช่น คนไข้ต้องไปแข่งกีฬา ว่ายน้ำ แนะนำให้ช่วงที่จำเป็นจริงๆ ไม่แนะนำให้ทานเป็นประจำเพราะจะส่งผลให้รอบประจำเดือนมาผิดปกติรุนแรง
การที่ประจำเดือนไม่มาหลายๆ เดือน อาจทำให้รอบประจำเดือนมาผิดปกติ การรักษาต่อไปก็จะทำได้ยาก เพราะการรักษาด้วยยาฮอร์โมน บางทีอาจะต้องรักษาด้วยเวลาหลายครั้งกว่าจะทำให้รอบประจำเดือนเข้าสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งโพรงมดลูก เพราะเยื่อบุโพรงมดลูกไม่มีการหลุดลอกจากที่การกินยาเลื่อนประจำเดือนเป็นเวลานาน พอหนาตัวเพิ่มขึ้นทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาที่ผิดปกติไป
การที่เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอก ตัวมันเองแทนที่จะหลุดลอกยังคงค้างอยู่ เพราะพวกนี้จะมีช่วงอายุของมัน ฉะนั้นเองการที่ไม่หลุดลอกก็เหมือนมันเปลี่ยนแปลงตัวเองจนหน้าตาผิดปกติ สุดท้ายกลายเป็นมะเร็งโพรงมดลูก
ส่วนใหญ่แล้วเยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัวสุดท้ายกลายเป็นมะเร็ง มักจะพบในคนที่มีลักษณะรูปร่างอ้วน ทว่าคนที่กินยาปรับประจำเดือนบ่อยๆ สุดท้ายประจำเดือนไม่มาหลายๆ เดือน ก็มีปัจจัยเสี่ยงแบบนี้เช่นกัน
การกินยาปรับประจำเดือนเหมือนเราไปทำให้เสียสมดุล การมีประจำเดือนต้องมีการตกไข่ มีฮอร์โมนตามธรรมชาติเมื่อเราไปยับยั้งการตกไข่ ด้านอารมณ์อาจจะเปลี่ยนไป” หมอเตือน
เลือดออกเพียงหยดเดียว อาจส่อมะเร็งปากมดลูก
เลือดออกน้อยๆ บางคนอาจคิดว่าช่างมันชั้นไม่แคร์ หมอย้ำว่าหากมีเลือดออกทางช่องคลอดดูแล้วที่ไม่ใช่ประจำเดือน แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
“เพราะบางทีภาวะเลือดออกทางช่องคลอดอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างของตัวมดลูก ตัวรังไข่ หรือฮอร์โมนผู้หญิงเปลี่ยนไป
อย่างมีคนไข้ของหมอ หลังจากมีเพศสัมพันธ์มีเลือดออกจากช่องคลอดเล็กน้อย แต่คนไข้ไม่สบายใจจึงมาตรวจ ก็พบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก
เกิดขึ้นระหว่างมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตอนที่ไปโดนส่วนของก้อนบริเวณปากมดลูก พวกนี้จะมีปริมาณเลือดออกทางช่องคลอดไม่มาก จะมีเลือดออกเพียงหยดสองหยดเท่านั้น
สุดท้ายวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นการออกของเลือดไม่ว่าน้อยหรือมาก แนะนำให้มาตรวจหาสาเหตุ
ผู้ชายก็เช่นเดียวกัน ลักษณะของผู้ชายถ้ามีเรื่องเลือดออกบริเวณอวัยวะเพศอาจจะต้องหาสาเหตุเช่นกัน แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะปัสสาวะอักเสบก็ได้ อีกสาเหตุคือ อาจมีอาการบาดเจ็บของการหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือทำกิจกรรมเช่น กีฬา เป็นต้น” หมอนพดล กล่าว
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net