By Lady Manager
เบื่อกรุงเทพฯ เบื่อรถติด ยิ่งช่วงฝนตกชีวิตสาวเมืองกรุงอย่างเราๆ จะสาหัสเป็นพิเศษเพราะต้องใช้ชะตากรรมบนท้องถนนอยู่ร่วมหลายชั่วโมง!
หยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงต้องขอสูดอากาศดีๆ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าหนีตามธรรมชาติไปเยือนถิ่นล้านนาดีกว่า บ้ายบายพารากอน สยาม เซ็นทรัลเวิลด์
ทริปนี้มีเพื่อนร่วมก๊วนอย่างบิ๊กใหญ่ใจดี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือ จับมือ ดับเบิ้ลเอ พอยท์ คอลเลคชั่น, สายการบินนกแอร์, ธนาคารกสิกรไทย, และนิตยสาร Voyage Travel& Lifestyle Magazine พาเราเดินทางย้อนวิถีเมืองล้านนาในทริป “พิศเมืองแพร่ แลอุตรดิตถ์” ย้อนอดีตหวนรำลึกความรุ่งเรืองในอดีตของล้านนาไทย
ไม่รอช้ารีบจ้ำอ้าวออกจากบ้านโบกแท็กซี่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 40 นาที ดิฉันก็ปรากฏกายอยู่สนามบินสุโขทัย ประหนึ่งมาเที่ยวสวนสัตว์ เพราะรายล้อมไปด้วยยีราฟ ควาย และหงส์ดำ หงส์ขาว อลังการอิ่มตา ตั้งแต่ยังไม่เหยียบถิ่นล้านนา
->ทริปวันแรก
โอมเพี้ยง! หลงมนต์เสน่ห์เมืองลับแล
ลุยกันต่อกับทริปแรก มุ่งหน้าสู่อำเภอศรีสัชนาลัยเพื่อชมวิถีชีวิตของชาวบ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาอาชีพและกระจายรายได้สู่หมู่บ้านอุตสาหกรรมในชนบท
พร้อมชมสาธิตการทำผ้าหมักโคลน และหม่ำอาหารพื้นบ้าน “ข้าวเปิบ” เรียกว่าเป็นตัวชูโรงกันทีเดียว ถึงกับต้องขอเบิ้ล! หร่อยเว่อร์
อิ่มท้องแทบแตกเพราะจัดข้าวเปิบไป 2 บอกแล้วโปรแกรมเที่ยวแน่นเอี๊ยด จากนั้นขึ้นรถบัสบึ่งไปสักการะ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าศึกษาค้นคว้าที่สำคัญคือ มีเจดีย์พระบรมธาตุ ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “พระบรมธาตุทุ่งยั้ง”
เป็นเจดีย์เก่าแก่แบบลังกาทรงกลมฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม 3 ชั้น ฐานล่างมีเจดีย์องค์เล็กๆ เป็นบริวารอยู่ 4 มุม ฐานชั้นที่ 3 มีซุ้มคูหา 4 ด้าน สันนิษฐานว่าได้บูรณะขึ้นภายหลัง
ปิดท้ายทริปวันนี้ด้วยการไปชมพิพิธภัณฑ์ “ม่อนลับแล” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ของอำเภอลับแล และยังเป็นแหล่งสะสมผ้าโบราณหาดูยากอีกด้วย
ม่อนลับแลสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างสวยงามภายใต้ธรรมชาติอันร่มรื่นและสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่และถือเป็นแหล่งเรียนรู้ของคนรุ่นใหม่ที่จะได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของ อ.ลับแลได้อย่างดี
ส่วนภายในยังมีพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดความรู้ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสะสมผ้าโบราณ
เรียกได้ว่า เดินชมความสวยงามของพิพิธภัณฑ์ และต้นไม้ใหญ่อันเขียวขจีกันลืมเมื่อยเลยค่ะ ภายในม่อนลับแลยังมีคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย มาเล่นดนตรีขับกล่อมให้ฟังอีกด้วย
->ทริปวันที่สอง
เที่ยวจัดหนัก! แอ่วแพร่ แลเมืองเก่า
หลังจากตื่นมาสูดอากาศแสนจะสดชื่นในวันเช้าตรู่ท้องฟ้าสดใส ก่อนจะรุดไป จ.แพร่ ขอไปสักการะ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก เสียก่อน
ประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติประวัติของท่านในความองอาจ กล้าหาญ รักชาติและเสียสละ
เมื่อครั้งพระยาพิชัยซึ่งครองเมืองพิชัยในสมัยธนบุรี ท่านได้สร้าง เกียรติประวัติไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อปี พ.ศ. 2316 พม่ายกทัพมาตีเมืองพิชัย พระยาพิชัยได้ยกทัพไปสกัดทัพพม่าจนแตกพ่ายกลับไป
เสร็จสิ้นกับทริปอุตรดิตถ์ ซิ่งกันต่อกับเมืองแป้
มุ่งหน้าสู่ จ. แพร่ ดิ่งสู่วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นเมื่อสมัยพระมหาธรรมราชาธิราช (ลิไท) โดยขุนลัวะอ้ายก๊อม พระธาตุช่อแฮเป็นเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุพระศอกซ้ายของพระพุทธเจ้า เป็นพระธาตุประจำปีขาลนั่นเอง
และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงกับมรดกไทยชิ้นสำคัญ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น โกมลผ้าโบราณ ริเริ่มโดยนายโกมล พานิชพันธ์ นักสะสมผ้าโบราณชาวอำเภอลอง
โดยนายโกมลได้สะสมผ้าโบราณชนิดต่างๆของ “เมืองลอง” และผ้าโบราณของชุมชนต่างๆ ใกล้เคียง และเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในวันที่ 12 สิงหาคม 2535 เรามีโอกาสได้ชื่นชมผ้าซิ่นตีนจกอายุนับสองร้อยปี และผ้าเก่าอายุกว่าร้อยปีอีกมากมาย นับเป็นบุญตาอย่างยิ่ง!
เดินหน้าต่อกับการเที่ยวแบบนอนสต็อป กับการชมสถาปัตยกรรม บ้านวงศ์บุรี (จงกลกิ่งเทียน) ที่ถ่ายละคร ช่อง 3
บ้านวงศ์บุรีแห่งนี้ ได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่น ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี 2536ความงดงามอ่อนช้อยที่ดูไม่เหมือนใคร อยู่ที่ลวดลายไม้สักแกะสลักบริเวณหน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู
ความละเอียดอ่อนและงดงามสอดรับกับสีชมพูกุหลาบ สิ่งที่ประทับใจนักท่องเที่ยวและผู้พบเห็นคือ เครื่องใช้ทุกชิ้นในบ้านเป็นเครื่องมือเครื่องใช้จริงในอดีต และยังคงเก็บรักษาไว้ในสภาพดีมาก จนสามารถจำลองภาพในอดีตได้อย่างดี
เที่ยวอย่างจัดหนักจัดเต็มมาทั้งวัน ขอเอนกายพักสักครู่แล้วมาต่อเนื่องกับกิจกรรมช่วงค่ำกับ “ขันโตก” อาหารพื้นเมืองของชาวเหนือ นั่งพื้นอย่างสบายจกน้ำพริกอ่องพร้อมแกล้มผักสดอิ่มอร่อย
จากนั้นสนุกเว่อร์กับคาราโอเกะ และการลุ้นรับของรางวัล ทุกคนลุ้นสุดตัว พร้อมรับชมการแสดงของน้องตัวเล็ก มาร่ายรำให้เราได้ชมความน่ารักสุดแรง
และแล้ว คืนนี้ก็จบลงด้วยความม่วนขนาด! หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
->ทริปวันสุดท้าย
ตามหาม่อฮ้อมเมืองแป้
ยังอยู่กับเมืองแป้ และเพลินกับสถานที่เที่ยวสุดท้ายกับ “บ้านทุ่งโฮ้ง” แหล่งผลิตเสื้อผ้าม่อฮ่อมอันเลื่องลือของชาวแพร่ ใครผ่านไปแวะเวียนอุดหนุนกันได้นะจ๊ะ
บ้านทุ่งโฮ้งเป็นหมู่บ้านในเขตอำเภอเมือง ที่มีผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ขึ้นชื่อมาก ได้แก่ ผ้าม่อฮ่อม ซึ่งถือกันว่ามีเนื้อดี ทนทาน และสวยงาม นักท่องเที่ยว นิยมซื้อหาไว้ เป็นของที่ระลึก
ผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้านทุ่งโฮ้งที่มีความโดดเด่น เนื่องจากเป็นเอกลักษณ์ของชาวทุ่งโฮ้ง และชาวแพร่มาช้านาน ตลอดจนเป็นชุดแต่งกายประจำถิ่นของชาวแพร่ และชาวบ้านทุ่งโฮ้งที่สวมใส่ ในชีวิตประจำวัน และงานประเพณีต่างๆ จึงถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่
พร้อมกันนี้ ชาวบ้านยังสาธิตวิธีการทำผ้าม่อฮ่อม พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้แสดงฝีมือทำเองและออกแบบลวดลายด้วยตนเองอย่างสนุกสนาน
แถมได้ผ้าเช็ดหน้าลายเดียวในโลกกลับบ้านเพราะทำจากฝีมือเราเอง ปลื้มสุดๆ
และแล้วก็ที่ถึงเวลาล่ำลาเมืองแป้ ปิ๊กบ้านเฮา บ้านบายถิ่นล้านนา กลับสู่แสงสีเสียง ณ บางกอก
ขอบคุณภาพบางส่วนจากเมืองไทย ดอท คอม
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net