Celeb Online

Beauty Update: นวัตกรรมยกหน้าอเมซิ่งสุดติ่ง! ไม่เจ็บ ไม่ร้อน แต่หน้ากระชับเรียวขึ้น

By Lady Manager

“ค่ะ (เบ้ปาก) พี่เคยทำเทอร์มาจยกกระชับหน้า ขอบอกว่า เจ็บปวดทรมานและร้อนมาก เหมือนเตารีดแนบหน้าเลยทีเดียว” คุณพี่วัยหลักสี่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้พร้อมอาการเข็ดขยาด

เพราะเมื่ออายุมากขึ้นความกระชับตึงก็หายไป ความหย่อนคล้อยเข้ามาสิงหน้าแทน ทั้งแก้มห้อย เหนียงยาน หนังตาตก สารพัดสิ่ง!

SygmaLift เป็นเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ใช้นวัตกรรม Fractionated Beam Technology ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวน์ความเข้มข้นสูงออกมา 1000 ครั้ง/วินาที สามารถยกกระชับหน้า อยู่ได้นานถึง 1 ปี”

นพ.วรพล สุขีวัฒนา ผู้ก่อตั้ง DOCTOR TONY Beauty Clinic กล่าวถึงนวัตกรรมบิวตี้ยกกระชับหน้าตัวล่าสุดที่เพิ่งถอยมาหมาดๆ

“พลังงานลงลึกถึงใต้ชั้นผิวหนัง บริเวณชั้นพังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนัง พลังงานจะลงไปทำให้เส้นใยพังผืดหดกลับ กระชับตึงขึ้น กระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์ ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น

ช่วยให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวให้มีการจัดเรียงตัวใหม่ทำให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่นมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก เพิ่มกระบวนการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวหนังดูใสและเปล่งปลั่งขึ้น

ที่สำคัญคือไม่เจ็บ เพราะเป็นการปล่อยพลังงานที่มีความเร็วที่ประสาทรับความรู้สึกเจ็บไม่สามารถรับความรู้สึกเจ็บนี้ได้ จึงส่งทำให้ผู้เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บเมื่อทำการรักษานั่นเอง

ทว่าการรักษาแบบ High Focusing Ultrasound ที่รู้สึกเจ็บนั้น โดยทั่วไปจะปล่อยพลังงานเป็น Dot จะปล่อยพลังงานแบบ Thermal effect ลงพลังงานครั้งเดียวทำให้ เกิดความร้อน และเจ็บมาก” คุณหมอ กล่าว

เสียงเล่าขานขออลังการความร้อนที่ทำให้หลายคนยำเกรง แต่….นี่คือ ไม่เจ็บ อั้ยยะ!พลังงานปล่อยเร็วเกินประสาทรับความรู้สึกเจ็บไม่สามารถรับความรู้สึกได้ จะจริงหรือไม่ ต้องลอง!!

ไม่ต้องทายาชาอะไรทั้งสิ้นก่อนทำ เพียงทาเจลให้หน้าลื่นๆ ปกติเท่านั้น

เครื่อง SygmaLift มี 3 applicator ได้แก่

เริ่มจากบริเวณใหญ่ๆ เช่น แก้ม คาง ก่อน โดยใช้ Linear Transducer Technology ทำให้คลื่น Focusing Ultrasound ที่ออกมามีรูปแบบเป็นเส้น ที่มีความยาว 10 mm.มีความถี่ 1.3 MHz ใช้สำหรับให้การรักษายกกระชับ บริเวณแก้ม, คาง 2 ชั้น (Mid-Face and Lower Face)

ช่วยกระตุ้นให้มีการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิว กระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น

จากนั้นจะทำในบริเวณ รอบดวงตา, หน้าผาก โดยใช้ Circular Flux Ultrasound Technology สำหรับยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยบริเวณ ช่วยเสริมสร้างให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวเดิมมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น แก้ปัญหาหนังตาตก และยกคิ้วให้เชิดขึ้นได้

ความร้อนที่เกิดขึ้นจากพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์จะช่วยเพิ่มกระบวนการไหลเวียนโลหิต เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ กระตุ้นไฟโบรบลาสต์เซลล์ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้น และช่วยในการกระตุ้นกระบวนการหายของแผล

ทั้งนี้ แสงยังช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนในระดับของเซลล์ ทำให้การผลิตเส้นใยคอลลาเจนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และยังเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว

ติ๊กต่อกๆๆ เวลาผ่านไป 40 นาที เป็นอันเสร็จสรรพ อเมซิ่งสุดติ่ง! เพราะไม่รู้สึกเจ็บอะไรสักนิสนุง

ดีงามมาก! ไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น! คือไม่เจ็บ ไม่ร้อน ไม่แสบ ไม่สะดุ้งเฮือก ไม่ต้องกัดฟันเจ็บ

และนี่คือรูปหลังทำทันที สังเกตได้จากสายตา ว่าแก้มด้านซ้ายที่ห้อยปูด ยุบ! เหมือนโดนทุบเข้าไปได้เบ้าหน้าใหม่ กรอบหน้าชัดขึ้น หน้ายกกระชับ และเรียวกว่าเดิม เหนียงใต้คางยุบเล็กน้อย และความขาวใสที่หายไปนานแรมปีก็กลับมาฟื้นคืนชีพมาใหม่

-> ข้อควรรรู้

หลังทำอาจรู้สึกว่าผิวแห้งลงเพียงเล็กน้อยให้ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นและควรประโคมครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป เพราะช่วงนี้ผิวบอบบางจ้า

อ้อ! หลังการรักษาสามารถเมคอัพจัดเต็ม ทำกิจกรรมได้ตามปกติทันที ไร้รอยแดง รอยไหม้

สามารถทำการรักษาเพิ่มเติม ได้ทุกๆ 6 สัปดาห์ และสามารถทำการรักษาได้ 3 ครั้งภายใน 1 ปี

*ผลการรักษาสามารถคงอยู่ได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ถึง 1 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพผิวและลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล

แนะนำให้ทำการรักษาด้วย SygmaLift ภายหลังจากที่ทำการฉีด Botox อย่างน้อย 6 เดือน หลังฉีด Filler อย่างน้อย 2-3 เดือน นะจ๊ะ

ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้จ้ะ เพราะเรายังเก็บดอกเก็บผลความกระชับของหน้าต่ออีก 3 สัปดาห์ เป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันเล้ย

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net