Celeb Online

เรื่องของ “น้องชาย” ที่คุณควรรู้(1)/Dr.DEN Sexociety

คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN

แม้คุณจะเกิดมาพร้อมกับอวัยวะเพศชายที่เรียกว่า “องคชาต” (ตัวทำเกิด) และคุณจับต้องมันอย่างสนิทสนมทุกวันตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะ ยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับมันที่คุณยังไม่รู้ ทั้งๆ ที่คุณคิดว่ารู้จักมันดีที่สุดแล้วนี่แหละ ซึ่งก็มีดังต่อไปนี้

1. ไม่มีความแตกต่างอะไรจริงๆ ระหว่างองคชาตที่ขลิบหนังหุ้มปลายกับไอ้ที่ไม่ได้ขลิบ

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่พอจะวินิจฉัยได้ระหว่างองคชาตทั้งสองแบบนี้ก็คือ แนวโน้มของการเป็นมะเร็งองคชาต (โดยทั่วไปแล้วหายาก แต่ผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศมีความเสี่ยงต่อโรคนี้สูงกว่า)

นอกจากนี้ ผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศยังมีแนวโน้มว่าจะแพร่เชื้อ HPV และ HIV สู่คู่รักได้มากกว่าเล็กน้อยอีกด้วยถ้าพวกขาไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็เพราะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อโรคดังกล่าวได้มากขึ้นนั่นอง

ส่วนข้อสมมุติฐานที่เราชอบพูดกันว่าการขลิบมีผลต่อขนาด และความสามารถทางเพศของผู้ชายนั้น เป็นแค่นิทานหลอกเด็กเท่านั้น “จริงๆแล้ว การไม่ได้ขลิบจะไม่มีผลต่อขนาดขององคชาตแต่ประการใด มันก็แค่รูปลักษณ์ที่ปรากฏเท่านั้น”

ดร.เบนจามิน บรัคเกอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งศูนย์การแพทย์แลงโกน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค กล่าว เขาหมายถึงองคชาตที่ขลิบแล้วจะดูใหญ่ขึ้น

“มันไม่น่าจะเป็นอะไรที่ผิดสังเกตจริงๆ หนังหุ้มปลายของคนที่ไม่ได้ขลิบน่าจะถอยร่นเล็กน้อยในระหว่างการสอดใส่เข้าไปในช่องคลอด และผมไม่รู้ว่ามีอะไรที่พวกเขาจำเป็นต้องสังเกตจริงๆหรือเปล่า” คือ มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันน้อยมากสำหรับฝ่ายหญิง ว่าไปแล้วมันก็คือ ความชอบส่วนบุคคลเท่านั้นเอง คุณชอบรถเปิดประทุนแบบที่เปิดหรือปิดหลังคาล่ะ?

2. องคชาตหักได้

“มันถูกเรียกว่าการแตกร้าวขององคชาต คุณจะนึกถึงการแตกร้าวของกระดูกว่า เพราะมันเป็นของแข็งจึงแตกร้าวได้ แต่การแตกร้าวขององคชาต เกิดจากเนื้อเนื้อเยื่อขององคชาตมีการฉีกขาดอยู่ภายใน” ดร. บรัคเกอร์กล่าว เพราะเราทุกคนรู้ว่าองคชาตไม่ใช่กระดูกหรือกล้ามเนื้อ แต่เป็นอวัยวะอย่างหนึ่ง ใช่มั่ย? ใช่สิ!

“บางครั้งในตำราการแพทย์จะเรียกองคชาตที่แตกหักว่า ‘มะเขือม่วงผิดรูป’ หรือ ‘มะเขือม่วง’ เฉยๆเพราะมันจะกลายเป็นสีม่วง ถลอก และบวมเป่งเหมือนมะเขือม่วงนั่นเอง” ผู้ชายหลายคนที่กำลังอ่าน เรื่องนี้อาจสาบานว่าจะไม่กินมะเขือม่วงไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

3. แต่มันฟื้นคืนสภาพได้เร็ว

อาจเป็นการง่ายในการทำความเสียหายให้กับองคชาตด้วยฟันที่ไม่ระมัดระวังหรือกำมือที่แน่นเกิน แต่ไม่ต้องกังวลว่ามันจะเป็นความเสียหายถาวร การอ่อนตัวปวกเปียกเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติขององคชาต ถ้ามันได้รับความเจ็บปวดใดๆ (เพื่อหลีกเลี่ยงการกลายเป็นมะเขือม่วง)

“ข่าวดีเกี่ยวกับองคชาตก็คือ มันมีเลือดไหลเวียนเข้ามามากในผู้ชายส่วนใหญ่ ดังนั้นมันจึงเยียวยาตัวเองได้ดีและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงาน” ดร.บรัคเกอร์บอก

4. ผู้ชายสามารถติดเชื้อราและเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน

โดยปกติ คุณจะไม่แพร่เชื้อราหรือโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบไปสู่คู่รักของคุณหรอก แม้ว่ามันเกิดขึ้นได้ก็ตาม

“ตามปกติท่อปัสสาวะของผู้หญิงยาวประมาณ 4 เซนติเมตร แต่ท่อปัสสาวะของผู้ชายยาวกว่า ผู้ชายบางคนสามารถติดเชื้อราเฉพาะแห่งได้ โดยปกติมันก็แค่ผิวหนังระคายเคือง เมื่อผู้ชายติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ก็มักจะมีปัญหาหนึ่งเกิดขึ้นเหมือนต่อมลูกหมากโต” ดร.บรัคเกอร์อธิบาย

5. ความบกพร่องในการแข็งตัว มักจะเป็นสิ่งบอกเหตุประเด็นสุขภาพอื่นๆ

“มีการเรียกรวมๆ ว่า ‘ความบกพร่องในการแข็งตัวอันเกิดจากจิตใจ’ อย่างเช่น ผู้ชายคนหนึ่งแอบไปมีกิ๊กและกลับมามีเซ็กซ์กับภรรยาของเขา ความรู้สึกต่างๆ จะไม่เหมือนเดิม และเขาจะประสบความยากลำบากในการแข็งตัว”

ดร.บรัดเกอร์กล่าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ชายทุกคนที่มีความบกพร่องในการแข็งตัวเป็นคนนอกใจเมียนะครับ ความเครียด การใช้ยา (ตามใบสั่งหรือ หมอไม่ได้สั่งก็ตาม) แอลกอฮอล์ วัย และอ้วนเกินขนาด ล้วนเป็นสาเหตุของความบกพร่องในการแข็งตัวทั้งสิ้น

นอกจากนี้ภาวะมะเขือเผาดังกล่าวยังเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจอีกด้วย

“ทันทีที่คุณพบความบกพร่องในการแข็งตัว สิ่งแรกที่คุณควรประเมินก็คือ สุขภาพโดยรวมของคุณ”
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)

 

>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net