โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช
คนที่ทำงานหนักต้อง “อาบเหงื่อต่างน้ำ” เมื่อถึงเวลาได้พักดื่มน้ำเย็นในแก้วใสพรายไปด้วยเหงื่อน้ำจากความเย็นแล้วค่อยไปเริ่มงานต่อเพราะไม่เช่นนั้นก็จะ “เหงื่อกาฬแตก” เพราะถูกนายจ้างเล่นงาน
เขียนไปเขียนมาจนเหื่อแตก เอ๊ย…เหงื่อออก แล้ว
ผมทำงานที่เกี่ยวข้องกับภาษาไทยโดยตรงทั้งเขียน, พูด, และจัดรายการทำให้รู้สึกชอบภาษาของเราขึ้นทุกครั้ง เพราะความสละสลวยและช่วยให้เห็นภาพ ดังการเปรียบเทียบง่ายๆให้เห็นคนในสถานการณ์ต่างๆ ด้วย “เหงื่อ” ก็สามารถที่จะยังให้ผู้อ่าน, ผู้ชม หรือผู้ฟังนั่งหลับตาเห็นภาพไปกับเราด้วยได้
คนที่ต้องทำงานกลางแจ้งหรืออยู่ท่ามกลางอากาศร้อนนั้นน่าเห็นใจยิ่งครับ นอกจากเหงื่อจะผุดพรั่งออกมาดังอาบน้ำแล้วก็ยังทำให้เพลียแดดหรือหมดเรี่ยวหมดแรงเอาง่ายๆ เพราะในเหงื่อของเรามีของที่มีประโยชน์หลุดออกมาด้วย
มีอยู่ 2 อย่างหลักๆ คือ “น้ำ(Fluid)” และ “แร่ธาตุ(Electrolytes)”
เริ่มจาก “น้ำ” ที่เป็นส่วนประกอบหลักที่หายออกมากับเหงื่อมาก จึงทำให้ร่างกายเพลียจนถึงขั้นวูบได้ถ้าเสียเหงื่อเยอะเกินไป
ส่วนถัดมาที่พลอยฟ้าพลอยฝน “รั่ว” ออกมากับเม็ดเหงื่อทุกหยาดหยดด้วยก็คือ แร่ธาตุ โดยเฉพาะที่สำคัญคือ “เกลือ” หรือโซเดียมที่ไม่ได้ทำให้แค่เหงื่อเราเค็มปะแล่มเวลาไหลเข้าปาก หากแต่โซเดียมเป็นตัวช่วยคุมการส่งประสาท, คุมความดัน, ช่วยการทำงานของหัวใจ และทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้เป็นปกติ
ยิ่งเสียเหงื่อมาก ก็ยิ่งเสียของจำเป็นต่อร่างกายออกไป
ในบางกลุ่มคนมีความผิดปกติของการออกเหงื่อ ซึ่งสามารถบอกโรคได้ เช่น คนที่เหงื่อออกน้อยผิดปกติอาจพบได้ในมะเร็งปอดชนิดสมอลเซลล์, โรคพาร์กินสัน, ความผิดปกติแต่กำเนิด, ผิวถูกไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือคนไข้มะเร็งที่ต้องฉายแสงจนต่อมเหงื่อเสียไป
ส่วนอีกกลุ่มที่เหงื่อออกมากผิดปกติก็เกิดได้จากไทรอยด์เป็นพิษ, ประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติไปจนถึงกินยาในหลายกลุ่ม
เหงื่อเป็นคำตอบของสุขภาพได้หลายอย่างครับ
>>ประโยชน์เกินคาด ทุกหยาดเหงื่อ
1) ช่วยลดร้อน
เป็นคำตอบสุขภาพดี
ข้อแรกจากเหงื่อเพราะมันทำหน้าที่ระบายความร้อน หรือพูดตามประสาผมก็คือ เป็นแอร์ธรรมชาติที่ติดอยู่ทุกรูขุมขนของทุกคน ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายร้อนเกิน (Overheating) ซึ่งจะมีผลให้เครื่องรวนทำอันตรายอวัยวะสำคัญๆ ได้ อย่างสมองและหัวใจ คล้ายกับเครื่องยนต์รถที่โอเวอร์ฮีทแล้วดับนั่นละครับ
2) ขับของเสีย
ใครจะหวังดีกับเราเท่า “พ่อแม่” และ “ต่อมเหงื่อ” เป็นไม่มีอีกแล้ว เพราะมันทำงานอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยามเราร้อน ช่วยขับความร้อนอบอ้าว และขยะที่หมักหมมสะสมอยู่ตามร่างกายออก โดยผ่านทางเหงื่อ
ใครที่ได้ออกกำลังจนเหงื่อออกแล้วสบายตัวหรือได้เข้าซาวน่าจนเหงื่อออกจนสดชื่นนั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เหงื่อช่วยขับของเสีย และสารพิษจำพวกโลหะหนักออกมานั่นเอง
3) คืนผิวสวย
คนที่ได้เสียเหงื่ออย่างเหมาะสมถูกจังหวะ และเวลาเช่นเหงื่อออกขณะออกกำลังแบบคาร์ดิโอเป็นระยะ หรือได้ออกไปสัมผัสกับสายลมและแสงแดดบ้าง
พอเหงื่อซึมแผ่นหลังก็จะได้ของแถมที่สำคัญเป็นสุขภาพผิวที่สดชื่นสดใส เพราะอย่าลืมว่าผิวหนังเราทำหน้าที่รับบทหนักมามาก การได้ขับเหงื่อออกไปทำให้ของเสียที่ทำให้ร่างกายเสื่อมไม่สะสม ซึ่งอย่างหนึ่งคือสาร “บีพีเอ” ที่ขับออกทางเหงื่อได้
4) ไล่เชื้อโรค
ถ้าจะมีเชื้อโรคเล็กที่มองไม่เห็นเกาะผิวหนังเราอยู่ หยาดเหงื่อที่หลั่งออกมาจะช่วยท่านได้ครับเพราะในเม็ดเหงื่อนั้นมีสารกำจัดเชื้อชื่อ “เดิร์มซิดิน(Dermcidin)” ที่มีฤทธิ์สังหารเชื้อได้กว้างขวางอยู่ ช่วยขจัดเชื้ออันตรายให้อยู่ยากบนผิวของเรา
นอกจากนั้นสารฆ่าเชื้อในเหงื่อเรายังไม่รุนแรงเท่าน้ำยาเคมีฆ่าเชื้ออื่นๆ หรือจะเรียกเหงื่อว่าเป็นสบู่ขจัดเชื้อจากธรรมชาติก็ว่าได้
5) ช่วยเตือนโรค
ดังที่เล่าไปว่า “เหงื่อบอกโรค” ได้โดยไม่จำเป็นต้องเกิดจาก “อากาศร้อน” อย่างเดียว ซึ่งมีโรคง่ายๆ ที่ควรทราบไว้ได้แก่ ไทรอยด์เป็นพิษที่ทำให้มีเหงื่อชุ่มฝ่ามือได้, โรคสมองและระบบประสาท, ความเครียดวิตกกังวลมาก, เบาหวาน, ขาดน้ำรุนแรง
นอกจากนั้นยังมีโรคที่เหงื่อออกจนฝ่ามือแฉะชื้นรบกวนชีวิตได้ (Focal hyperhidrosis) หรือยาบางอย่าง ก็ทำให้เหงื่อออกน้อย เช่น ยารักษาโรคซึมเศร้า และยาต้านสารสื่อประสาทอื่นๆ (Anticholinergics)
ร่างกายคนเรามีกลไกที่น่าอัศจรรย์ซับซ้อนอยู่ภายในดังเรื่องของ “เหงื่อ” ก็เป็นเรื่องน่าทึ่งประการหนึ่งซึ่งช่วยให้เราดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์มานับแต่อรุณรุ่งแห่งอารยธรรม
ถึงปานนั้นเลยทีเดียว
เรื่องนี้ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะการขับเหงื่อเป็นกลไกที่วิวัฒนาการมาอย่างซับซ้อนจนเหมาะกับร่างกายมนุษยชาติที่สุด ในยามที่อุณหภูมิสูงมากมนุษย์เราก็ยังเอาตัวรอดอยู่ได้ ไม่เหมือนกับชีวิตอื่นๆ ที่มีต่อมเหงื่ออยู่แค่เพียงหย่อมเล็กๆ จึงไม่อาจทานทนความร้อนได้เท่าคนเรา
ในทุกครั้งที่เหงื่อไหล เป็นการเสียเหงื่อที่สร้างโลกได้
* ช่วยคลิก Like ด้วยนะคะ เพื่อเป็นแฟนเพจ Lady Manager รับข่าวสารแซ่บๆ ของผู้หญิงในแวดวงสุขภาพความงาม แฟชั่น และความสัมพันธ์ (**)
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net