Celeb Online

เคลียร์เรื่องปวดใจ… สลัด(กลิ่น)เต่าอย่างไร ให้หลุดจากวงแขน


>>เฮ้อออ…โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน เพราะต่อให้คุณผมเป๊ะ หน้าเป๊ะ หุ่นเป๊ะ ผิวขาวเนียนสักแค่ไหน แต่ถ้าเกิดมาอาภัพ วงแขนดำ รักแร้เปียก เต่าเหม็นกระทั่งตัวเองยังแทบจะลมจับ ยิ่งพยายามหยุดเต่า ประโคมโรลออนจนแทบจะแช่น้ำสารส้มอาบ ก็ยังหยุดเต่าเจ้ากรรมไม่ไหว มิหนำซ้ำช่วงบ่ายๆ กลิ่นตุๆ ของเต่าผสมกับโรลออน โอ้.. ไม่ไหวจะเคลียร์

เพราะปัญหากลิ่นตัว สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตและการเข้าสังคมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสาวๆที่ถือได้ว่าเป็นอริกับกลิ่นใต้วงแขนอันไม่พึงประสงค์ ใครล่ะอยากจะใกล้ชิดกับคนที่มีกลิ่นตัวแรง ประเด็นสำคัญสาวไทยยังไม่พร้อมที่จะรับเทรนด์ไว้ขนรักแร้ยาวเฟื้อยตามอย่างสาวยุโรป แหนบและมีดโกนจึงเป็นเหมือนอาวุธประจำกายไว้กำจัดเจ้าขนร้าย แต่กลับฝากวงแขนที่ผิวขรุขระเหมือนตูดไก่ คล้ำดำ เหี่ยว ย้วย ยับยู่ยี่ โทษฐาน สวยไม่ปรึกษากูรูผู้รู้จริง

ไม่เพียงแค่สาวๆ หรอกนะ หนุ่มๆ ทั้งหลายก็ต้องถูกยี้เป็นแน่ อย่าว่าแต่เหงื่อและกลิ่นตัวที่โชยมาตอนเล่นกีฬาเลย บางคนยังไม่ทันจะคล้อยบ่าย รักแร้ก็เปียกเยิ้มออกมาที่เสื้อผ้า ส่งกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ เกิดเป็นคราบเขรอะเปรอะบนเสื้อผ้า

วิธีที่มักนิยมใช้ในการรักษาปัญหากลิ่นตัวและเหงื่อที่ออกเยอะผิดปกตินั่นก็คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า “โบท็อกซ์” ทั้งนี้โบท็อกซ์จะทำงานโดยยับยั้งการทำงานของต่อมกลิ่น ต่อมเหงื่อ ซึ่งวิธีดังกล่าวนี้สามารถใช้ได้ผลค่อนข้างดีเพราะเห็นผลทันที ไม่ต้องเจ็บตัวมากนักเพราะไม่ต้องผ่าตัด หากแต่วิธีนี้ก็ช่วยสะกดไม่ไห้เต่าคุณกำเริบและแผลงฤทธิ์ในระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น คือจะเห็นผลต่อเนื่องเพียงแค่ 6-12 เดือน จึงต้องมาทำการรักษากันเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งก็สูงใช่เล่น กล่าวคือ หายไม่ขาด จ่ายไม่จบ กลบกลิ่นไม่สนิท

แล้วเราจะแก้ไขเรื่องปวดใจนี้แบบถาวรได้หรือไม่ ทั้งนี้ แพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดผิวหนัง มะเร็งผิวหนังและเลเซอร์ผิวหนัง อาจารย์พิเศษ โรงพยาบาลรามาธิบดี และผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์เมดิไซน์ คุณหมอได้อธิบายถึงปัญหาหลักของการเกิดเหงื่อและกลิ่นตัวที่รุนแรงกว่าปกติว่า

“แม้ต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อจะเป็นปัจจัยหลักของปัญหาการมีเหงื่อไต้วงแขนและมีกลิ่นตัวแรง แต่กว่า 70% ของการเกิดกลิ่นตัว ไม่ได้มาจากต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อเพียงเท่านั้น แต่ยังเกิดจากความอับชื้นที่เกิดรอบๆ เส้นขนด้วย ดังนั้นหากต้องการผลการรักษาที่เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องใช้การกำจัดขนร่วมด้วย เพราะแบคทีเรียที่เกาะตามรูขุมขนนั้นจะทำปฏิกิริยากับเหงื่อและเกิดกลิ่นตัวได้ การรักษาร่วมกันจึงช่วยให้เห็นผลการรักษาสูงสุดเกินกว่า 90% เลยทีเดียว”

คุณหมอยังเผยถึงเทคโนโลยีที่เรียกว่า TOTAL AXILLA TECHNIQUE เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่ช่วยกำจัดต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อที่อยู่ใต้ชั้นผิว ซึ่งเป็นต้นตอหลักของการเกิดเหงื่อและกลิ่นตัวแรง โดยกลไกการทำงานของเทคโนโลยีดังกล่าว เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF) เข้าไปทำลายต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อให้หยุดการทำงานอย่างถาวร เรียกได้ว่า ปิดกรุต้นตอกลิ่นตัวแรงกันเลยทีเดียว

“TOTAL AXILLA TECHNIQUE มีหลักการทำงานที่แบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนแรก จะเป็นการเข้าไปทำลายและยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและต่อมไขมันใต้ชั้นผิวหนังของวงแขน โดยช่วยลดเหงื่อและการเกิดกลิ่น ขณะเดียวกันก็ยังยับยั้งการทำงานของรากขน ผลที่ได้คือ รากขนถูกทำลาย ไม่มีการสร้างต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเกิดกลิ่นอับชื้นหรือกลิ่นตัว

ส่วนที่สอง การปล่อยคลื่น RF เข้าไปรักษานี้ ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวตึงกระชับ มีความยืดหยุ่น จึงช่วยแก้รักแร้เหี่ยว หย่อนยาน ผิวตูดไก่ ทำให้ผิวบริเวณดังกล่าวเรียบเนียนเสมอกัน การรักษาด้วยวิธีนี้จึงมีผลดีต่อผู้เข้ารับการรักษาอย่างมาก เนื่องจากผู้รับการรักษาสามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจน โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที เคลียร์ปัญหารักแร้แบบเบ็ดเสร็จ เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งรัง”

คุณหมออัจจิมายังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “ไม่มีปัญหาไหนแก้ไม่ตก ขอเพียงรู้ต้นตอแล้วแก้ให้ตรงจุด” เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสลัดเต่าออกจากรักแร้คุณได้ถาวรแล้วล่ะค่ะ

สอบถามเพิ่มเติม http://www.mediscicenter.com 0-2954-9440, 08-9900-6100

>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/