แม้สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้กำลังดีขึ้น และใกล้พร้อมให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตในรูปแบบปกติอีกครั้ง แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้ทิ้งเรื่องราวและความเปลี่ยนแปลงไว้มากมาย ที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนจนกลายเป็น “ความปกติใหม่”, “วิถีชีวิตใหม่” หรือ New Normal ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้คน Work from home การหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด การซื้อของหรือชอปผ่านทางออนไลน์มากขึ้น หรือแม้กระทั่งการคำนึงถึงการดูแลสุขภาพและความสะอาดเป็นอันดับแรก ทำให้ผู้คนต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกบ้านตลอดเวลา ซึ่งอาจทำให้หลายคนพบกับปัญหาผิวต่างๆ ทั้งสิว ผดผื่น หรือรอยแดง แม้แต่บริเวณรอบๆ ดวงตาก็พบปัญหาริ้วรอย ความไม่สดใส ยิ่งเด่นชัดเมื่อเผยให้เห็นเฉพาะรอบดวงตา ทำให้สาวๆ หมดความมั่นใจในตัวเอง
เมิร์ซ เอสเธติกส์ จึงได้ชวน หมอโอ๊ค-นายแพทย์ สมิทธิ์ อารยะสกุล จาก Smith Prive' Aesthetique Clinic มาร่วมให้คำแนะนำ 5 วิธีการดูแลผิวหน้าให้สวยทะลุมาสก์ จะใส่หน้ากากอนามัยนานแค่ไหนก็มั่นใจได้ ตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบใหม่แน่นอน
หมอโอ๊คกล่าวว่า “ท่ามกลางวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ทุกคนกำลังจะเคยชินกับสิ่งที่ทำใหม่ๆ จนกลายเป็น New Normal ขณะเดียวกัน เมื่อต้องออกนอกบ้านก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หลายคนอาจเริ่มพบกับปัญหาผิวทั้งเรื่องของสิว ผดผื่น รอยแดง และริ้วรอยที่เกิดขึ้น และยังไม่สามารถเข้าคลินิกให้คุณหมอช่วยดูแลผิวได้ ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจและสร้างความกังวลให้แก่ตัวเอง
หมอจึงอยากมาแชร์เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลตัวเอง และดูแลผิวแบบง่ายๆ ให้สาวๆ สวยทะลุมาสก์และเพิ่มความมั่นใจก่อนที่จะกลับมาทำงานกัน รวมทั้งเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ในช่วงที่คลินิกความงามกลับมาเปิดให้บริการดูแลผิวหน้าได้ หลายคนที่พบเจอกับปัญหาผิว มีริ้วรอย ก็คงจะเริ่มมองหาการใช้โบทูไลนุม ท็อกซิน แต่หากใจร้อน รับปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะดื้อโบได้ ดังนั้น ทุกการดูแลผิวเพื่อฟื้นฟูในช่วงแรกๆ นี้ จึงอยากให้ทุกคนใจเย็น ดูแลผิวหน้าอย่างอ่อนโยนอย่างถูกวิธี และปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความสวยที่ปลอดภัย และมีคุณภาพครับ”
สาวๆ ที่อยากจะสวยปังทะลุแมสก์ตามคำแนะนำหมอโอ๊ค ทำตามได้เลย
ล้างหน้าให้สะอาด
การสวมหน้ากากอนามัย จะก่อให้เกิดความอับชื้น และเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรก รวบทั้งการเสียดสีของตัวหน้ากากอนามัยกับผิวหน้าก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นรอยแดง จนถึงขึ้นเป็นสิวได้ เมื่อกลับถึงบ้านจึงควรล้างหน้าให้สะอาดทันทีที่ถอดหน้ากากอนามัย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคย เนื่องจากช่วงนี้ไม่เหมาะที่จะทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพราะหากเกิดอาการแพ้ขึ้นมาการไปพบแพทย์อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากท่านใดที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ ก็ต้องเลือกคลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่อ่อนโยนและเหมาะต่อผิวของเรา และยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน หลายคนอยู่ในพื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะส่งผลให้ผิวของเราแห้งมากเกินไป ทำให้ผิวไม่แข็งแรง อาจก่อให้เกิดผดผื่นและอาการแพ้ขึ้นมาได้ ดังนั้น อย่าลืมทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือครีมบำรุงผิว และครีมกันแดด เป็นประจำ
งานบำรุงผิวช่วงนี้ต้องสกินแคร์เนื้อบางเบา และลดการใช้เมกอัพเกินความจำเป็น
สำหรับใครที่แต่งหน้า จึงควรเลือกเครื่องสำอางที่มีการอุตตันน้อย หรือไม่มีสาร Comedogenic ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดการอุดตัน ยิ่งในช่วงที่เราใส่หน้ากากอนามัยซึ่งก่อให้เกิดความอับชื้น จะมีโอกาสการเกิดการอุดตันได้ง่ายยิ่งขึ้น และลดวิธีการแต่งหน้าที่ไม่จำเป็น เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สร้างแสงและเงาบนใบหน้า คอนทัวริ่ง บรอนเซอร์ ไฮไลต์ ที่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย เป็นต้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งฝุ่น และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีความเหนียวเหนอะหนะ อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมพวกขี้ผึ้งและน้ำมัน เป็นต้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบาอย่างเนื้อน้ำ เนื้อเจล และเซรัม เพื่อบำรุงผิวเล็กน้อยแค่ให้ผิวรู้สึกชุ่มชื่น จะช่วยลดการเกิดการอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาสิวได้
หน้ากากอนามัยต้องเปลี่ยนใหม่เป็นประจำ
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ เพื่อไม่ให้ผิวหน้าของเราอึดอัดหรือระคายเคืองมากเกินไป เราจึงควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อยๆ หน้ากากอนามัยที่ออกแบบมานั้น ออกแบบมาเพื่อให้ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ดังนั้น ควรเปลี่ยนใหม่ทุกวัน แต่หากเป็นกรณีหน้ากากผ้า ควรซักและตากให้แห้งทุกวัน และไม่ควรสัมผัสที่หน้ากากบ่อยๆ เพิ่มโอกาสการสะสมสิ่งสกปรก ควรสัมผัสเพียงแค่ยามถอดหรือสวมเท่านั้น และควรสัมผัสเพียงแค่ที่สายคล้องหู นอกจากจะช่วยลดปัญหาเรื่องการเสียดสีกับผิวหน้า อันเป็นสาเหตุให้เกิดผื่นแพ้ ผื่นคัน การอักเสบและการอุตตันของผิวหน้าแล้ว ยังเพื่อความปลอดภัยของสุขอนามัยและลดโอกาสการติดเชื้อโควิด-19 ได้อีกด้วย
วิธีลดเลือนริ้วรอยช่วงที่เข้าคลินิกไม่ได้ แต่โยคะใบหน้าช่วยได้
การออกกำลังกายใบหน้าหรือการโยคะใบหน้า ได้มีผลวิจัยจาก Jama Dermatology 2018 ที่ทำการทดสอบกับผู้หญิงวัยกลางคน อายุ 40-65 ปี พบว่าเมื่อโยคะใบหน้า 30 นาทีต่อวัน และทำติดต่อกันยาวนานกว่า 20 สัปดาห์ จะมีใบหน้าที่กระชับและดูเด็กลง เพราะการโยคะใบหน้าจะทำให้กล้ามเนื้อของใบหน้าแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะ บริเวณแก้มและแนวกราม แต่หากมีการแสดงอารมณ์ทางใบหน้าในบางท่าที่มากเกินไป ก็อาจจะก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น รอยขมวดคิ้ว รอยยิ้มบริเวณหางตา ที่ชัดเจนขึ้น ดังนั้น ควรเลือกท่าโยคะใบหน้าที่พอเหมาะพอดีและอยู่ในระยะเวลาที่กำหนด
เมื่อทำสวยที่คลินิกได้ อย่ารีบเร่ง หรือจัดเต็มมากเกินไป ระวังจะดื้อโบหากใช้โดสสูง
เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากจะรีบวิ่งเข้าคลินิกเสริมความงาม แต่ทั้งนี้หมอก็อยากจะเตือนให้ทุกคนควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการรับบริการในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัย เพราะบางคนอาจจะกังวล ไม่อยากไปคลินิกบ่อยๆ และตัดสินใจที่จะรับบริการมากเกินความจำเป็น โดยเฉพาะ สารประเภทโบทูไลนุม ท็อกซิน หรือที่เรารู้จักกันว่า “โบ” ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการดื้อยาในอนาคตได้