พออายุเพิ่มมากขึ้น ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยก็เริ่มถามหา หมอปุ่น – พญ.เดือนเต็ม จ่างพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ความงามและ เลเซอร์ ประจำเดซี่ ดิว่า และ อิมเมจินี่ คลินิก รับอาสามาไขทุกความลับของนวัตกรรมที่ช่วยให้ผิวตึงกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว
“ผิวหนังหย่อนคล้อย สังเกตได้ง่ายจาก รูปหน้าที่เปลี่ยนแปลง แนวคางและลำคอเห็นแยกไม่ชัด แก้มและคางที่เริ่มห้อย หนังตาและหางตาเริ่มตก ร่องแก้มและร่องใต้ตาเริ่มลึก เกิดเป็นปัญหาอันเนื่องจากความหย่อนคล้อยของผิวหนัง”
ความหย่อนคล้อยลักษณะนี้เกิดจากเมื่ออายุที่เริ่มมากขึ้นโครงสร้างผิวหนังโดยเฉพาะชั้นหนังแท้เริ่มสูญเสียเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแรง ความกระชับ และความยืดหยุ่นของผิวหนัง เมื่อโครงสร้างค้ำยันผิวไม่แข็งแรง ผิวจึงเกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อย
สำหรับบริเวณชั้นรอยต่อระหว่างผิวชั้นบนกับผิวชั้นหนังแท้จะยุบตัวแบนลง เป็นผลให้ผิวได้รับสารอาหารน้อยลง ทำให้ผิวอ่อนแอลงและเสื่อมได้ง่าย และยังทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวประสิทธิภาพแย่ลงด้วย
ส่วนผิวชั้นใต้ผิวหนัง บริเวณชั้นไขมันจะบางลง ทำให้ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากทั้งภายนอกและภายในที่รุมเร้าให้ผิวเสื่อมหย่อนคล้อยเร็วกว่าวัยอันควรอีกด้วย
“สาเหตุของปัญหาริ้วรอยและการหย่อนคล้อย ก็เกิดทั้งปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด แรงโน้มถ่วงของโลก การขาดการดูแลผิวและขาดวินัยในการทาครีมบำรุงผิว น้ำหนักเกิน และการลดน้ำหลักลงอย่างรวดเร็ว ส่วนปัญหาภายในก็จะเกิดจากความเครียด สารอนุมูลอิสระ ขาดการพักผ่อนและการออกกำลังกาย และขาดสารอาหาร ดังนั้นหากเราเลี่ยงสาเหตุของปัญหาผิวเหล่านี้ได้ ทาครีมกันแดด และทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด ก็จะช่วยยืดอายุผิวได้”
อย่างไรก็ดีอายุที่มากขึ้น เชื้อชาติและกรรมพันธุ์เป็นปัจจัยและสาเหตุหลักของผิวหน้าหย่อนคล้อยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า นวัตกรรมต่างๆทางการแพทย์ที่ถูกคิดค้นพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นทางเลือกที่ช่วยชะลอแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่ให้เกิดก่อนวัยอันควร หรือแม้แต่เกิดแล้วก็ยังช่วยแก้ไขขจัดและลดปัญหาเหล่านี้ให้ผิวหน้าและลำคอกลับมาดูดียกกระชับแลดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น จนทำให้สาวๆยุคสมัยนี้ไม่ต้องกลัวกับคำว่าแก่กันอีกต่อไปเลยทีเดียว
“ปัจจุบัน มีวิธียอดนิยมในการกระชับผิวหน้าและลำคอโดยไม่ต้องผ่าตัดหลากหลายวิธี ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม เพราะคนไข้ไม่ต้องเจ็บตัวและเสียเวลาพักฟื้น มาดูกันว่า มีวิธีไหนกันบ้าง”
การยกกระชับด้วยเลเซอร์ยกกระชับ ( tightening laser)
ปัจจุบันมีเลเซอร์หลายชนิดที่นอกจากจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นลดเลือนริ้วรอยตื้นๆ รูขุมขนกระชับขึ้น แล้วยังส่งผลในการยกกระชับผิวหน้าและลดการหย่อนคล้อยของใบหน้าได้อีกด้วย
ข้อดีของเลเซอร์ เป็นการรักษาด้วยเลเซอร์ยกกระชับโดยทั่วไปไม่เจ็บผู้รับบริการสามารถรักษาโดยเลเซอร์ยกกระชับได้เลยไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนการรักษา ราคาในการรักษาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
ข้อเสียได้แก่ ผลลัพธ์คงอยู่ไม่นานเพียงหลักสัปดาห์ถึงเดือนทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับสภาพผิว จำเป็นต้องทำต่อเนื่องหลายครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น หลังทำไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงใดๆ ไม่ต้องพักฟื้น
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย หนุ่มสาวที่อายุยังไม่เยอะและต้องการการดูแลผิวและปกป้องภาวะหย่อนคล้อยของผิวจากอายุที่มากขึ้น
การยกกระชับด้วยคลื่นวิทยุเทคโนโลยีเทอร์มาจ (Thermage:monopolar radio frequency )
เป็นการรักษาโดยส่งผ่านคลื่นวิทยุและความร้อนลงไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นลึก ทำให้ผิวหนังแข็งแรงและยืดหยุ่นดีขึ้น ความหย่อนคล้อย และริ้วรอยลดลง
ข้อดี หลังทำการรักษาเพียง 1 ครั้งสามารถเห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นทันทีและมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปที่ 1-2 เดือน และผลลัพธ์คงอยู่นาน 1-2 ปีจากการรักษาเพียงครั้งเดียว
ข้อเสีย เนื่องจากการรักษาลงลึกในชั้นผิว ผู้รับบริการอาจจะรู้สึกเจ็บได้บ้างแต่อยู่ในระดับที่ทนได้ แพทย์จะพิจรณาทายาชาก่อนการรักษา ราคาของการยกกระชับด้วยวิธีนี้จะแพงกว่าเลเซอร์ยกกระชับเนื่องจากหัวคลื่นวิทยุจะใช้ต่อผู้รับบริการแต่ละคนเท่านั้น
วิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวชัดเจน และผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามารับการรักษาได้บ่อย หลังทำอาจพบผลข้างเคียงคืออาการบวมแดงเพียงเล็กน้อย โดยไม่ต้องพักฟื้น
การยกกระชับด้วยเทคโนโลยีเครื่องโฟกัสอัลตราซาวน์อัลเทอรา (Ultherapy system)
เป็นการักษาโดยส่งผ่านพลังงานอัลตราซาวน์ที่มีคลื่นความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจงลงลึกถึงชั้นพังผืดกล้ามเนื้อ SMAS ซึ่งลึกกว่าชั้นคอลลาเจน เป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ดึงเวลาผ่าตัดยกกระชับใบหน้า
ข้อดี หลังทำเพียง 1 ครั้งสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นทันทีและมากขึ้นชัดเจนที่ 3 เดือนหลังการรักษาและผลลัพธ์คงอยู่นาน 1-2 ปีเช่นเดียวกับเครื่อง thermage
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูงเช่นเดียวกับการรักษาด้วย thermage เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหาหย่อนคล้อยผิวหน้าชัดเจน และผลลัพธ์ดีมากสำหรับการยกคิ้ว สามารถแบ่งทำตามบริเวณของใบหน้าที่ต้องการรักษาได้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายลง
ข้อแตกต่างจากการรักษาด้วยเครื่อง thermage คือระดับความลึกที่มากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นสามารถเลือกใช้ทั้งสองเทคโนโลยีร่วมกันได้กรณีผู้รับบริการไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายและต้องการผลลัพธ์ในการยกกระชับสูงสุด เนื่องจากเป็นการรักษาในระดับความลึกของผิวที่แตกต่างกัน
แต่กรณีที่คิดว่าเป็นการสิ้นเปลืองและเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาในการเลือกใช้เทคโนโลยีให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน
การยกกระชับใบหน้าและลำคอด้วยการฉีดโบท็อกซ์ (Nefertiti lifting)
โบท็อกซ์จะไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าให้หย่อนคล้อยผลจึงออกฤทธิ์ในทางตรงกันข้ามทำให้ใบหน้าดูยกกระชับอ่อนเยาว์ขึ้น ทำให้รูปหน้าขอบหน้าชัดเจนสวยงามแลดูเรียวลง
ข้อดี เห็นผลที่ 1 สัปดาห์ภายหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ผลการรักษาจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือนหลังการฉีด 1 ครั้ง ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ
ข้อเสีย ไม่สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ เหมือนการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่กล่าวข้างต้น
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยของผิวที่สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อ สามารถใช้ร่วมกับการยกกระชับผิวหน้าด้วยการใช้เครื่องมือที่กล่าวข้างต้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเร็วยิ่งขึ้น
การยกกระชับใบหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ (Dermal filler)
หากสังเกตพบบริเวณร่องแก้มและร่องใต้ตาลึก อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าแลดูหย่อนคล้อย การเลือกเติมฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูโรนิคเอสิดซึ่งนับว่ามีความปลอดภัยสูงสามารถช่วยเพิ่มปริมาตรของผิวให้เติมเต็ม ลดปัญหาร่องลึกและคงความอ่อนเยาว์
ข้อดี การฉีดฟิลเลอร์ด้วยสารไฮยาลูโรนิคเอสิดเพียง 1 ครั้งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีและคงอยู่นาน 8-12 เดือน ไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสีย อาจพบรอยเข็มจากการฉีดได้แต่เพียงเล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึกอันเป็นสาเหตุของใบหน้าหย่อนคล้อย และต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจนทันที สามารถทำการรักษาร่วมกับวิธีอื่นๆที่กล่าวข้างต้นได้ทั้งหมด
การยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย PDO ( thread lifting)
ไหมละลาย PDO ( Polydioxanone) ชนิดนี้เป็นที่รู้จักและใช้กันมานานในวงการแพทย์อยู่แล้ว แพทย์ทางศัลยกรรมมักเลือกใช้ไหมประเภทนี้เพื่อเย็บเส้นเลือดที่หัวใจ การนำไหมชนิดนี้มารักษาความเหี่ยวย่นและหย่อนคล้อยใต้ผิวหนังจึงไม่เป็นอันตรายหรือก่อการระคายเคืองต่อผิวหนัง เชื่อว่าหลังการสอดไหมภายใต้ผิวหนังไหมจะกระตุ้นการหดรัดตัวของเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดผลยกกระชับของผิวหนังทันทีและหลังจากนั้นไหมจะค่อยๆกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เกิดรอบๆไหม ทำให้เมื่อเวลาผ่านไปที่ 1 เดือนผลของการยกกระชับและการลดเลือนริ้วรอยยิ่งชัดเจนมากขึ้น
ข้อดี เนื่องจากไหมจะละลายสลายตัวหมดได้เองภายในระยะเวลา6- 8เดือน จึงไม่มีสารตกค้างอยู่ในผิวหนัง และผลการยกกระชับคงอยู่นาน 1-2 ปี
ข้อเสีย อาจพบการบวมและช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ทำการร้อยไหมได้
“อย่างไรก็ดี วิธีที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดเป็นวิธีที่ไม่รุนแรง ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี ไม่ต้องการการพักฟื้นเฉกเช่นการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติ ส่วนการเลือกวิธีการรักษาผิวหน้าหย่อนคล้อยให้ยกกระชับแลดูอ่อนเยาว์ในแต่ละวิธีจะเหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวที่แตกต่างกันตามแต่ละกรณี
การพิจารณาเลือกการรักษาควรอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และในบางกรณีอาจต้องเลือกใช้หลายวิธีเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองความต้องการและคาดหวังของผู้มารับบริการอย่างดีที่สุด” คุณหมอแนะนำส่งท้าย
Text by เอเอสทีวี ผู้จัดการรายวัน: สังคม-สตรี
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net