>>หลังจากได้แนะนำ สิ่งที่ควรจะเลิกทำซะตั้งแต่ตอนนี้ไปแล้ว 10 ข้อ ยังมีเหลืออีก 10 ข้อ ให้สาวๆ ได้เสพข้อมูลกันอย่างเต็มที่ ว่ากันด้วยเรื่องผิดๆ ที่หลายคนยังมองข้ามเกี่ยวกับความงาม ที่อาจจะแค่คิดว่า “ไม่เป็นไรหรอกแค่ครั้งเดียวน่ะ” แต่หารู้ไม่ว่าแม้จะแค่ครั้งเดียวแต่อาจจะสร้างผลกระทบที่ตามมาได้อย่างมากมาย เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงมีอีก 10 สิ่งสุดท้ายที่อยากจะแนะนำให้สาวเซเลบทุกคนลด ละ เลิกซะตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อผลลัพธ์ของความงามที่ยาวนานยั่งยืน จะมีสิ่งไหนกันบ้าง ตามมาเช็กลิสต์กันด่วนจ้า!
1.ปาดกลิตเตอร์อายแชโดว์โดยไม่ลงไพรเมอร์
สาวๆ คนไหนไม่ชอบใช้กลิตเตอร์อายแชโดว์ เพราะไม่ชอบเวลามันตกลงมาบนหน้าก็ไม่ผิดนะ แต่แค่จะบอกว่าได้พลาดการฟาดความสวยงามลงบนเปลือกตาไปแล้วน่ะสิ! เพราะกลิตเตอร์อายแชโดว์สามารถเพิ่มมิติ ประกาย ให้แก่ดวงตาดูมีลูกเล่นชวนมองมากขึ้น แต่หากยังเฟลเกี่ยวกับเกล็ดกลิตเตอร์ที่ร่วงหล่นลงมาบนหน้าล่ะก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่สาวๆ เลือกใช้อายไพรเมอร์ ลงให้ทั่วเปลือกตาก่อนการลงอายแชโดว์ เพียงเท่านี้เอง เศษผงต่างๆ ก็จะไม่ร่วงลงมาให้กวนใจแล้วล่ะ
2.ไม่เซตลงคอนซีลเลอร์ให้อยู่ตัว
หากพวกเธอคิดว่าแค่ลงคอนซีลเลอร์บริเวณใต้ตา และจุดที่ต้องการปกปิดเสร็จแล้วก็แล้วกัน ข้ามไปขั้นตอนต่อไปของการแต่งหน้าเลยนั้น ขอบอกว่าคิดผิดนะคะคุณ… เพราะการลงคอนซีลเลอร์โดยไม่เซตด้วยแป้งฝุ่นตามนั้น จะทำให้คอนซีลเลอร์ไหลลงมากองกันเป็นก้อนๆ แถมยังไม่สามารถปกปิดอะไรได้เลยอีกต่างหาก ทางที่ดีอย่าลืมเซตแป้งฝุ่นตามทุกครั้งการคอนซีลนะจ๊ะ
3.ดัดขนตาหลังปัดมาสคาร่า
ตายแล้ว นี่เป็นสิ่งที่ผิดมากๆ หากสาวๆ คนไหนเคยทำข้อนี้อยากจะแนะนำให้แก้ไขกันด่วนๆ จ้า เพราะการดัดขนตาหลังจากการปัดมาสคาร่านั้น จะทำให้ขนตาแพสวยของพวกเธอนั้นหัก หลุดร่อน ได้แน่นอน แถมเนื้อมาสคาร่าที่ปัดไปแล้วยังจะมาติดอยู่กับที่ดัดขนตาด้วยนะ ทางที่ดีควรดัดขนตาให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยปัดมาสคาร่านะจ๊ะ
4.ปัดบลัชออนผิดที่
อันนี้จริง ข้อนี้อาจเป็นปัญหาสำหรับแค่บางคน โดยอาจจะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย แต่หากอยากจะฟังคำแนะนำจากเราก็เชิญทางนี้จ้า คำแนะนำสำหรับการปัดบลัชออนของเราคือ ปัดให้สีไล่จากบริเวณกระดูกแก้มไล่สีจากเข้มมาอ่อน โดยให้สีอ่อนอยู่บริเวณกลางแก้ม เพียงเท่านี้ไม่ว่างานไหนๆ ก็ไม่มีพลาดแน่นอน
5.ทาเล็บซ้ำๆ โดยไม่ล้างยาทาเล็บเก่าออก
ว้ายแย่เลย หากสาวๆ คนไหนทำแบบนี้อยู่เลิกซะดีกว่านะ เพราะการทำแบบนี้เสมือนเป็นการโบกสารเคมีซ้ำซ้อนเข้าไปเพิ่มให้หน้าเล็บยิ่งอ่อนแอลงกว่าเก่า เพราะฉะนั้นควรจะลด ละ เลิกดีกว่านะจ๊ะ
6.ใช้สีไฮไลต์เฉดดิ้งผิดตำแหน่ง
นอกจากการเลือกสีรองพื้นให้ถูกแล้วนั้น การลงสีไฮไลต์เฉดดิ้งก็สำคัญเช่นเดียวกันนะจ๊ะพวกเธอ เพราะการเลือกสีบรอนเซอร์และสีไฮไลต์ให้เหมาะกับเฉดสีผิวของเรานั้น จะสามารถเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้าได้ แต่หากเลือกผิดสีขึ้นมาเมื่อไหร่จากหน้าใสบริ้งอาจจะพังยับเยินก็เป็นได้
7.เก็บเครื่องสำอางไว้นานเกินไป
ฮั่นแน่ สาวๆ หลายคนคงจะเกิดอาการเสียดายเครื่องสำอางที่อุตส่าห์ซื้อสะสมกันมานานแรมปีใช่ม้า… แต่การเก็บเครื่องสำอางที่มีอายุนานมากๆ หลายๆ ปี หรือหมดอายุแล้วมาใช้ต่อนั้น แน่นอนว่าไม่เป็นผลดีต่อผิวพรรณที่แสนจะบอบบางบนใบหน้าของเราแน่ๆ เพราะนอกจากจะเป็นบ่อเกิดของริ้วรอยแล้วนั้น ยังจะทำให้สาวๆ มีอายุหน้าที่ดูแก่กว่าวัยอีกด้วยนะจ๊ะ
8.เลือกใช้สีคอลซีลเลอร์ผิดเฉด
แน่นอนว่าเมื่อต้องการปกปิดร่องรอยดำต่างๆ บนใบหน้าแล้ว หากสาวๆ เลือกใช้คอนซีลเลอร์ผิดเบอร์นั้น ถือว่าผิดมหันต์เลยนะจ๊ะ เพราะแทนที่ปกปิดร่องรอยดำต่างๆ อาจจะกลับกลายเป็นการเสริมดันจุดด้อยนั้นๆ ให้ดูเด่นขึ้นมาแทนก็ได้นะ
9.ปั๊มแท่งมาสคาร่าเข้าออก
เนื่องจากการปั๊มหัวมาสคาร่าเข้าออกกับแท่งนอกจากจะทำให้อากาศเข้าไปในแท่งมาสคาร่าแล้วนั้น ยังเป็นการทำให้เนื้อมาสคาร่าแข็งตัวเป็นก้อน ซึ่งเวลานำมาปัดแล้วรับรองว่าแย่แน่นอน ดังนั้นเวลาจะปัดมาสคาร่าเพียงแค่เราหมุนๆ หัวแท่งเข้ากับตัวแท่งแล้วนำมาซับกระดาษทิชชูก่อนจะปัดขนตา ด้วยทริกเพียงเล็กน้อยแค่นี้ก็จะทำให้ยืดอายุมาสคาร่าได้อีกนานจ้า
10.เลือกใช้ไพรเมอร์คู่กับรองพื้นแบบผิดๆ
มาถึงข้อสุดท้ายแล้ว และดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การแต่งหน้าสาวๆ นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น นั่นคือการจับคู่รองพื้นกับไพรเมอร์แบบไม่เข้าคู่กัน นี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่จะทำให้ผิวหน้าเป็นคราบและดูไม่เรียบเนียน เราขอแนะนำว่าให้ใช้รองพื้นชนิดน้ำกับไพรเมอร์ชนิดน้ำ และไพรเมอร์เนื้อซิลิโคนกับรองพื้นทั่วไป เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบค่ะ
หากรู้วิธีการที่ถูกที่ควรแล้วเรามาปรับทัศนคติกันใหม่นะจ๊ะสาวเซเลบ เพื่อให้ได้ความงดงามอย่างเต็มที่ พร้อมความสวยสมบูรณ์แบบแน่นอนจ้า :: Text by FLASH