นับเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความสำเร็จของ SIRIVANNAVARI แบรนด์แฟชั่นระดับหรูจากประเทศไทย ที่ได้รับการคัดเลือกจาก Camera Nazionale della Moda Italiana องค์กรหลักที่กำกับดูแลและส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศอิตาลี ให้เข้าสู่ตารางโชว์ของ Milan Fashion Week อย่างเป็นทางการ ณ เมืงมิลาน ประเทศอิตาลี ท่ามกลางการนำเสนองานออกแบบแฟชั่นจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกมากมาย โดยพร้อมจัดพรีเซนเทชั่นเปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้า Spring/Summer 2025 ในวันพุธที่ 18 กันยายน 2567 เวลา 16.30 น. – 20.30 น.ตามเวลาประเทศอิตาลี ภายใน Residenza Duomo อพาร์ทเมนท์สุดหรู ในย่านอันเป็นที่ตั้งของมหาวิหารดูโอโม่อันสวยงามของเมืองมิลาน (Duomo di Milano) และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญในด้านแฟชั่น
ในโอกาสอันสำคัญนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ (Creative Director) แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงแนะนำคอลเลคชั่น และพูดคุย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน, แฟชั่นสไตลิสต์ และเหล่าแฟชั่นอินฟลูเอ็นเซอร์จากทั่วทุกมุมโลก พร้อมด้วยแขกวีไอพีและกลุ่มผู้ค้าปลีก ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมชมผลงานออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าสำหรับสุภาพสตรี สุภาพบุรุษ และเครื่องประดับ Spring/Summer 2025 ที่เลือกสรรมาจัดแสดงในครั้งนี้ มากกว่า 200 คน
คอลเลคชั่น Spring/Summer 2025 ได้แรงบันดาลใจจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของอิตาลี (Italian Renaissance) อันถือเป็นจุดเริ่มต้นงานสร้างสรรค์ที่ยกย่องสรีระอ่อนช้อยของอิสตรี อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เหล่าศิลปินอิตาเลียนชื่อก้องอย่างมิเกลันเจโล (Michelangelo) ได้เนรมิตผลงานชิ้นสำคัญอย่างประติมากรรมหินอ่อนขนาดเท่าคนจริง ในขณะที่บ็อตติเชลลี (Botticelli) ใช้เฉดสีอันอ่อนโยนแต่งแต้มลงบนงานจิตรกรรมชิ้นเอกของโลกอย่าง (Birth of Venus)
องค์ประกอบในงานศิลปะที่กล่าว คือแรงบันดาลใจมาสู่งานออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่น Spring/Summer 2025 ที่ผสมผสานลงตัวระหว่างเส้นสายอันโค้งเว้าและเหลี่ยมมุมในงานกราฟิค รวมไปถึงความโปร่งของผ้าออแกนซ่า ตัดกับหนัง สื่อถึงความเข้มแข็งและความอ่อนโยนในคราเดียว นอกจากนี้ งานฝีมือและงานปักชั้นครูจาก SIRIVANNAVARI Atelier & Academy เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของแบรนด์ ยังคงร้อยเรียงไว้อย่างครบถ้วนผ่านงานร้อยลูกปัดและคริสตัล การจับเดรปและอัดพลีท บนผืนผ้าอย่างประณีต ดุจผลงานประติมากรรม รวมถึงการใช้เทคนิค เช่น การเคลือบเรซิ่นและงานถักโครเชต์ ที่สลักเสลาอยู่บนสรีระของสุภาพสตรี ในขณะที่เสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษล้อไปกับชุดผู้หญิง ในโทนสีโรแมนติคอย่างสีชมพูและสีฟ้า ส่วนเนื้อผ้า มีทั้งผ้าโปร่งที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน และผ้าเดนิมที่ดูแข็งแกร่ง
ในส่วนของแอคเซสซอรี เครื่องหนังคุณภาพ Made in Italy ทั้งกระเป๋าและรองเท้า ในซีซั่นนี้ มีดีไซน์ที่ต่อยอดมาจากฤดูกาลที่ผ่านมา และซิลูเอ็ตใหม่ที่เหมาะกับการใช้งานที่คล่องตัวในระหว่างวัน ส่วนรองเท้าโดดเด่นด้วยการใช้วัสดุโครงตาข่าย (Mesh Mules) ที่เผยสรีระเท้าและดูโปร่งเบา ส้นรองเท้ามีรูปแบบที่ไม่สูงมากนักจึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในช่วงซีซั่นรับลมร้อน ส่วนแว่นกันแดดนั้นผสมผสานสไตล์ร็อคเข้ากับความงามสง่าสไตล์คนเมืองในแบบยูนิเซ็กซ์
ปิดท้ายด้วยเครื่องประดับอย่างสร้อยคอ ต่างหู กำไลและแหวนที่เข้ามาเพิ่มความสนุกในการแต่งตัว มีการสลักคำกล่าว ‘Love Equals Dangerousness’ ดุจการสลักลงบนงานประติมากรรมหินอ่อนของประติมากร ในรูปแบบของฟรีฟอร์ม สะท้อนความไร้ขีดจำกัดของศิลปินในการสร้างสรรค์ชิ้นงานให้เป็นสุนทรียะดั่งงานศิลปะอันน่าสะสม