สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงออกแบบคอลเลกชัน “เดอะไรส์ออฟเอเชียน” (THE RISE OF ASIAN) ประจำฤดูกาลสปริง-ซัมเมอร์ 2022 ของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” และ S’Homme พร้อมทรงมีพระดำรัสว่า “คอลเลกชันล่าสุดนี้ ข้าพเจ้าได้นำเอางานศิลปะและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียมาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บแบบเซมิกูตูร์ (Semi Couture) และฟิวเจอริสติค (Futuristic) อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาผสมผสานกับรายละเอียดของศิลปะแบบเอเชีย เพื่อลุคโมเดิร์นที่โดดเด่นด้วยความสวยงามของผู้หญิง”
จากนั้นทรงมีพระดำรัสต่ออีกว่า “ศิลปะของเอเชียมีความสวยงามมาก ข้าพเจ้าจึงหยิบเอาสัญลักษณ์ที่โดดเด่นมาใช้ อาทิ เทคนิคการพับกระดาษออริกามิของญี่ปุ่นที่ข้าพเจ้าถ่ายทอดออกมาเป็นเสื้อเพ็บลัม (Peblum) ที่ตัดเย็บจากผ้า toile (โทวล์) ซึ่งทำให้รูปร่างของผู้สวมใส่ดูมีมิติขึ้นมาทันที หรือจะเป็นการนำเอาลายสัญลักษณ์นกกระเรียนของญี่ปุ่น มาปักลงบนเดรสผ้าบุหงาด้วยขนนก จึงทำให้ชุดเดรสนั้นดูโก้และเซ็กซี่มาก ไปจนถึงการนำเอาเทคนิคการสานลายดอกพิกุลแบบไทย มาดัดแปลงเป็นกระโปรงหนังสานลายดอกพิกุล ซึ่งเป็นการยกระดับศิลปะไทยให้ดูโมเดิร์นเข้ากับงานแฟชั่นช่วงซัมเมอร์เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังได้นำผ้าเดนิมมามัดย้อมเพื่อให้เกิดเป็นเอฟเฟกต์ลายท้องฟ้าอีกด้วย”
คอลเลกชันนี้ ประกอบด้วยเสื้อผ้า 53 ลุค เป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI 45 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ S’Homme 8 ลุค โดยเสื้อผ้าสุภาพสตรีมีตั้งแต่เสื้อแจ็กเกตผ้าโบรเคด (Brocade) สีธรรมชาติดูเซ็กซี่ด้วยเทคนิคการตัดเย็บแบบออริกามิที่เข้าคู่กับกางเกงขาบาน เสื้อแจ็กเกตผ้าไหมปักลายปลาคาร์ฟที่สวมทับกระโปรงหนังถักลายดอกพิกุล ชุดราตรีผ้าบุหงาที่ตกแต่งด้วยขนนก ลูกปัด และผ้ากำมะหยี่อบร้อน ชุดเสื้อแขนกุดและกางเกงไบเกอร์ ที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมทองและตกแต่งด้วยการปักลายนกกะเรียน ชุดราตรีออฟโชเดอร์ (off-shoulder) สีเขียวนีออนที่ตกแต่งด้วยลูกไม้ ไปจนถึงชุดเดรสที่ช่วงลำตัวประดับด้วยโบว์ผ้าไหม สีชมพูขนาดใหญ่ที่เข้าคู่กับกระโปรงสุ่มที่เน้นช่วงสะโพกในสไตล์ศตวรรษที่ 19 และชุดไฮไลต์ อย่าง ชุดแต่งงานที่ตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้และกระโปรงสุ่ม Crinoline (คริโนลิน) ผ้าบุหงาจับระบายหลากหลายชั้น
อีกหนึ่งสิ่งพิเศษคือ งานปักชั้นเยี่ยมจาก SIRIVANNAVARI Atelier and Academy อย่าง การปักลายปลาคาร์ฟลงบนเสื้อแจ็กเกตผ้าไหมสีช็อกกิงพิงค์ลายมัวร์ (Moiré) หรือจะเป็นการปักขนนกลายนกกระเรียนประดับบนเสื้อทักซิโด้แจ็กเกต ที่ตัดเย็บจากผ้าไหมสีทอง และการปักชุดเดรสผ้าบุหงาด้วยขนนกให้เป็นลายนกกระเรียน
เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นก็คือ ลายพิมพ์ภาพกราฟิก ฝีพระหัตถ์ลายต่างๆ อย่าง ดอกเบญจมาศ (สื่อถึงความมั่งคั่ง) นกกระเรียน (สื่อถึงอายุยืน) และภาพหญิงสาว (สื่อถึงการเพิ่มอำนาจ) มาประกอบเป็นภาพคอลลาจให้เป็นลายพิมพ์ประจำซีซันส์นี้ จะเห็นได้จาก ชุดเดรสผ้าซาตินลายคอลลาจที่โดดเด่นด้วยการจับเดรปสามมิติช่วงสะโพก นอกจากนี้ ยังทรงนำผ้าบาติกลาย ‘S’ Motif และลายผ้าบาติกแบบชวาทรงออกแบบมาตัดเย็บในคอลเลกชันอีกด้วย อาทิ กระโปรงแบบไม่สมมาตรและมินิสเกิร์ตลายเอสโมทีฟสามมิติสีสดใส ไปจนถึงเสื้อแจ็กเกตโบเรโล และกางเกงขาสั้นที่ตัดเย็บจากผ้าบาติกชวา อีกทั้ง ลายพิมพ์ชื่อ Horseshoe monogram ลายโมโนแกรมประจำฤดูกาล บนคอลเลกชันชุดว่ายน้ำแบบคัทเอาท์ ชุดคลุมบาธโรป ผ้าพันคอ กระเป๋า และรองเท้า
สำหรับคอลเลกชันสุภาพบุรุษของ S’Homme นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน ซึ่งนำเอาโครงเสื้อแบบคลาสสิกมาดัดแปลง ให้ดูโมเดิร์นและโก้หรูยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากเสื้อเดนิมแจ็กเกตมัดย้อมลายท้องฟ้า ที่เข้าคู่กับกางเกงขาสั้นสีฟ้าอาซูเร ชุดสูทและเสื้อเชิ้ตที่ตัดเย็บจากผ้าบาติกทรงออกแบบ เสื้อโค้ตผ้าบาติกตัดต่อลายสีเขียวมรกตมีลูกเล่น drawstring ช่วงลำตัวที่คลุมทับกางเกงผ้าบาติกลายเดียวกัน ไปจนถึงเสื้อเบลเซอร์ดับเบิลเบรสท์สีฟ้าแบบไม่สมมาตร ที่เข้าคู่กับกางเกงลายทางฟ้าขาว และเสื้อผ้าไหมลายบาติกที่สวมกับกางเกงจ็อกกิ้งลายบาติก
ชมคอลเลกชันทรงออกแบบ ‘THE RISE OF ASIAN’ ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
(ภาพบางส่วนจากเพจเฟสบุ๊ก : Sirivannavari Bangkok)