เมื่อเมคอัพอาร์ติสต์สาวเปรี้ยวที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง “แพร-อมตา จิตตะเสนีย์” หรือ “แพรี่พาย” วางแปรงแต่งหน้าลงชั่วคราว หันมาเน้นความเป็นไทย โดยเธอมองว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นที่นอกจะสร้างกำไร และความคิดสร้างสรรค์แล้ว ต้องให้คุณค่าแก่มนุษย์ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กันด้วย ปีนี้เธอจึงขอเลือกเล่าถึง Pearypiewears Thaifabric ซึ่งหยิบยกความเป็นไทย เพื่อสานต่อวัฒนธรรมผ่านเรื่องราวของผ้าไหม โดยไม่ลืมเอกลักษณ์ของความเป็นตัวเรา สนับสนุนชุมชน สร้างรายได้และอาชีพ
พร้อมเชิญชวนทุกคนมาร่วมใส่ผ้าไทย โดยบอกว่า “การใส่ผ้าไทยนั้น แพรใส่ด้วยความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ให้เกียรติต่อผ้าและผลงานทุกผืน เพราะเรารู้ว่ากลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร เรื่องราวของผ้าแต่ละผืนตั้งแต่เหนือ อีสาน ใต้ ไม่ว่าจะเป็นขบวนการทอ การออกแบบลวดลาย การใช้สีธรรมชาติ มัน amazing มากจริงๆ ยิ่งได้ลงชุมชม อยู่กับแม่ๆ และอาจารย์หลายๆ ท่าน ทุกคนน่ารัก ใจดี ยิ่งทำให้ความ amazing มันเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าเลย แพรอยากให้ผ้าไทยนั้นเป็น trend ในปีนี้ เป็นมากกว่าแค่ trend ในปีหน้า และเป็นความยั่งยืนของประเทศชาติในปีต่อๆ ไป จนกลายเป็นอะไรที่ว่าเราทุกคนโคตรภูมิใจกับสิ่งที่พวกเรานั้นมีและเป็นอยู่
การเกิดโรคระบาดในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อทุกอาชีพและเศรษฐกิจไทย เมื่อก่อนการท่องเที่ยวไทยนำรายได้เข้าประเทศ แต่ตอนนี้ให้ป่าไม้ ทะเลและอากาศ ได้พักฟื้นฟูไปยาวๆ เลย เราทุกคนสามารถทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ เราคนไทย มีน้ำใจต่อกัน ออกมาช่วยเหลือกันและกัน ไทยช่วยไทย Local Supports Local สนับสนุนความเป็นไทย สนับสนุนอาหารไทย ใช้ของในไทย จากฝีมือคนไทย มันคงดีไม่น้อย ถ้าเราหันกลับมาหาตัวเอง และนำรากเหง้าที่เราเป็นอยู่มาต่อยอดให้กลายเป็นสิ่งที่เจ๋งขึ้น”
นับได้ว่า เป็นคนรุ่นใหม่ที่ควรค่ากับรางวัลผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียยอดเยี่ยม สาขาสิ่งแวดล้อม ที่เธอได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้น คนไทยควรเห็นความสำคัญของฝีมือคนไทยด้วยกัน แถมชุดที่เธอใส่นั้น ลบคำที่ว่า ใครใส่ผ้าไทยแล้วแก่ไปได้เลย ทีนี้แหละ จะมีแต่คำว่า ใครใส่ผ้าไทยแล้วอินเทรนด์ มาคร่า หันมาอุดหนุนผ้าไทย อุดหนุนภูมิปัญญาที่เป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมการทอผ้าของคนไทยในทุกภูมิภาคกันเถอะ
#ผ้าไทย #แพรี่พาย #CelebOnline #อมตาจิตตะเสนีย์
Cr.pearypie