>>หลายปีก่อนเราอาจคุ้นเคยหน้าของ “มิ้นท์-อาทิตยา ดิถีเพ็ญ” ในฐานะคนที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง แต่วันนี้เธอยื่นใบลาออกและผันตัวเองมาเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนเต็มตัวจนอาจเรียกได้ว่าเธอเป็นผู้กุมบังเหียนธุรกิจนำเข้าเครื่องสำอางจากประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่น และจากบทบาทของสาวนักบริหารนั่นเองทำให้เธอมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นคำจำกัดความสั้นๆ ว่า “Minimal”
อาทิตยา ดิถีเพ็ญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แฟชั่นควีน จากประสบการณ์เคยร่วมงานกับบริษัทที่นำเข้ากระเป๋าแบรนด์เนมจากต่างประเทศชื่อดังแห่งหนึ่งมาก่อน ทำให้เธอมีความสนใจในการทำธุรกิจโดยหลังจากที่เธอแต่งงานกับ “แนท-ณัฐกิจ รุ่งจรูญ” หนุ่มนักธุรกิจทายาทบริษัทที่เป็นผู้นำตลาดในการผลิต นำเข้า รวมถึงจัดจำหน่ายสินค้าด้านอุปกรณ์ความงาม อุปกรณ์ร้านเสริมสวยที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศแถบอินโดจีนและยุโรป ทำให้เธออยากหาช่องทางในการทำธุรกิจใหม่และมาลงเอยที่ธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าเครื่องสำอางจากต่างประเทศจนได้รับความไว้วางใจให้นำเข้าสินค้ามาจำหน่าย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้
“ตอนนี้ไม่ทำงานวงการบันเทิงแล้ว เน้นเรื่องงานบริหารมากกว่าเพราะว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะในการเริ่มต้น ช่วงแรกนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ Kiss me จากประเทศญี่ปุ่นมาทำก่อนเป็นแบรนด์แรก เพราะพอดีว่ามีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นและได้เขาช่วยติดต่อให้ และปีต่อมาก็นำแบรนด์ Kiss เข้ามาอีกและมีโอกาสไปเดินงานแฟร์ที่อิตาลี เจอแบรนด์ Essence จากเยอรมนี ก็ติดต่อนำเข้ามาอย่างเป็นทางการจนตอนนี้มีทั้งหมด 3 แบรนด์ด้วยกันอยู่ในเครือของแฟชั่นควีน ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของราคาและคุณภาพ”
ด้วยความชอบส่วนตัวและบทบาทของสาวนักบริหารงานด้านความสวยความงาม ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีลุคที่เรียบง่าย เน้นเรื่องของความคล่องแคล่วในการทำงาน จนกลายเป็นสไตล์ประจำตัวของเธอ
“มิ้นท์บริหารงานเอง ส่วนใหญ่เน้นเรื่องการตัดสินใจและเรื่องการเงินบัญชี ซึ่งทุกอย่างก็ได้ประสบการณ์มาตั้งแต่ตอนที่ทำแบรนด์แฟชั่น เราต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งพนักงานและการตัดสินใจ ยากในส่วนที่เราไม่รู้ว่าตัดสินใจไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องลองผิดลองถูกกันไป
ช่วงแรกๆ ยุ่งมากไม่มีเวลาไปชอปปิ้ง ประกอบกับเราต้องทำงานมีลูกน้องเยอะ ก็จะแต่งตัวเรียบร้อยชอบสีขาวดำ เอิร์ทโทน เรียบๆ ประมาณว่า ‘เรียบ หรู ดูดี มินิมัล’ เสื้อผ้าง่ายๆ ไม่เน้นแพงเพราะเปลี่ยนบ่อย แต่จะเน้นรองเท้าและกระเป๋ามากกว่า”
สำหรับในเรื่องแฟชั่นของสาวมินิมัลคนนี้นั้น เธอยังให้ความสนใจกับการใช้จ่ายของที่มีคุณภาพ แม้จะราคาสูงหน่อยแต่ถ้าสามารถเพิ่มมูลค่าได้เธอก็ยินดีจ่าย…
“โดยส่วนตัวชอบสะสมกระเป๋า รองเท้า นาฬิกา อาจเป็นเพราะผู้หญิงด้วยชอบอยู่ไม่กี่แบรนด์ที่ถูกใจในเรื่องการดีไซน์และวัสดุที่ใช้แบบทนทาน อย่างกระเป๋าชอบสีดำเป็นพิเศษจะใช้ชาแนล รุ่น Classic Black Caviar ส่วนปราด้า ชอบรุ่น Saffiano Lux Tote เรียบ คลาสสิก ใช้ได้นาน ส่วนรองเท้าเป็นคนไม่ใส่รองเท้าส้นสู้งเพราะด้วยความสูงกว่า 175 ซม. ฉะนั้น ขอเป็นส้นแบนดีกว่า ชอบบัลเลต์แฟลตของชาแนล เพราะว่านิ่มและหนังดีมาก เวลาไปต่างประเทศก็จะซื้อมาทุกสีเพราะมิ้นท์เป็นคนเท้ายาวบางทีเมืองไทยไม่มีไซส์
นอกจากนั้นก็มีนาฬิกาบ้าง โดยเลือกซื้อแบรนด์ที่มูลค่าสามารถเพิ่มได้เช่น Rolex, Patek Phillip, Panerai หรือบางทีก็เก็บนาฬิกาวินเทจอย่างคาร์เทียร์บ้าง มิ้นท์ชอบเลือกซื้อแบบที่ใส่แล้วเป็นตัวเราและสวมสบาย ที่สำคัญต้องสามารถใส่ได้ทุกโอกาส”
ก่อนหน้านี้เราอาจจินตนาการว่าเธอเป็นสาวแฟชั่นนิสต้า เพราะอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน แต่เมื่อพูดคุยกับเธอแล้วเธอบอกว่านี่คือชีวิตการทำงานจริงๆ ฉะนั้น เรื่องของสไตล์การแต่งตัวและการทำงานก็คือของจริง ขอแค่น้อยๆ แต่ดูแล้วเหมาะสมกับกาลเทศะก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่อยากจะเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนมืออาชีพ :: Text by FLASH
Credit
แต่งหน้า : พิสิษฐ์ นันทิราภาภรณ์ Make-up Artist จากเครื่องสำอาง PUPA
สถานที่ : ร้าน Thanglong หลังสวน โทรศัพท์ 0-2251-3504, 0-2255-4491
ช่างภาพ : กมลภัทร พงศ์สุวรรณ