Celeb Online

เผยผิวท้าลมร้อน ด้วยเทคนิคการดูแลผิวอย่างมืออาชีพ


ยิ่งเข้าหน้าร้อน ผิวหน้ายิ่งประสบปัญหาหมองคล้ำได้ง่ายขึ้น นอกจากการปกป้องผิวของเราด้วยการใช้ครีมกันแดดแล้ว การดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราอวดผิวที่สดใสได้อย่างมั่นใจ วันนี้ เรามีคำแนะนำเรื่องการดูแลผิวจากผู้เชี่ยวชาญ นายแพทย์จิโรจ สินธวานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ในการบรรยายทางวิชาการ เรื่อง ‘Dermatological Solutions for Every Concerns’ ซึ่งจัดโดยเครื่องสำอางคลีนิกข์

สีผิวของเราอาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกันคือ ผิวขาว (White skin) ผิวเหลือง (Yellow Skin) และผิวสีน้ำตาล (Brown Skin) ซึ่งผิวที่จัดว่าสวยนั้น จะประกอบด้วยคุณสมบัติคือ เป็นผิวที่มีความผ่องใส ความชุ่มชื้นพอเหมาะ ไร้จุดด่างดำ นุ่มนวลกระชับ ผิวละเอียดและมีความเต่งตึง ซึ่งหากขาดคุณสมบัติข้อใดไป ก็จะสูญเสียคุณสมบัติของผิวสวยไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ว่าจะมีผิวสีใด ปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเกิดความหยาบกร้านและหมองคล้ำ อันได้แก่

1. การตกค้างของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ
2. การได้รับรังสียูวีติดต่อกันเป็นเวลานาน

3. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้อง เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด การขาดโภชนาการที่ดี การดูแลผิวด้วยพฤติกรรมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ฯลฯ

การดูแลผิวให้เหมาะกับสภาพผิว เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวทุกสีดูสวยสดใสไม่เกิดความหมองคล้ำหรือหยาบกร้าน ซึ่งอาจแบ่งวิธีการดูแลตามสภาพผิวชนิดต่างๆ อันได้แก่

1. ผิวธรรมดา
เป็นผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิวมากนัก ต้องการการดูแลแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพียงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายและสะดวกที่สุด ควรทำความสะอาดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่หรือสารทำความสะอาดรุนแรง วันละ 2 ครั้งต่อวัน เลือกโทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันในปริมาณน้อย ข้อควรระวังของผิวชนิดนี้คือ อาจมีผิวแห้งมากขึ้นได้หากอยู่กลางแสงแดดเป็นประจำและไม่ระวังเรื่องการรักษาความชุ่มชื้น จึงควรทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อต้องออกนอกอาคาร และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยการมาสก์หรือผลัดเซลล์ผิวสัปดาห์ละครั้ง

2. ผิวแห้ง
การขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูหยาบกร้านไม่สดใสเท่าที่ควร ปัญหาของผิวชนิดนี้คือหลังการทำความสะอาดแล้วมักจะเกิดอาการแห้งตึงหรือลอกเป็นขุย มีอาการคัน ซึ่งมักเป็นในฤดูหนาวหรือเมื่อล้างผิวด้วยน้ำอุณหภูมิสูงๆ นอกจากนี้ ก็มีปัจจัยที่ทำให้เกิดผิวแห้งได้หลายอย่างเช่น สภาพอากาศ สารเคมีบางชนิด การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในช่วงที่มีรอบเดือน ฯลฯ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และควรทามอยซ์เจอไรเซอร์ขณะที่ผิวยังมีความชื้นอยู่ การมาสก์ผิวสัปดาห์ละครั้งก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นและใช้ครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกไปนอกอาคาร เพื่อป้องกันผิวแห้งไม่ให้เกิดความหยาบกร้านหมองคล้ำ

3. ผิวมัน
แม้จะมีข้อดีคือมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ผิวชนิดนี้ก็มีข้อเสียที่มักจะดูเป็นมันวาว รูขุมขนกว้างและหมองคล้ำได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่นๆ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวชนิดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเอเอชเอ หรือกรดซาลิไซลิก ที่จะช่วยลดการผลิตน้ำมันของต่อมน้ำมันให้น้อยลง นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ก็เป็นส่วนผสมหนึ่งที่เหมาะกับผิวมัน และเลือกมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ชนิดที่ระบุว่า เป็น Water Base เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มน้ำมันบนผิว และสำหรับเมคอัพ ควรเลือกชนิดที่ระบุว่าปลอดจากน้ำมัน (Oil-free) เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ผิวมันก็ควรใช้ครีมกันแดดและมาสก์ผิวด้วยผลิตภัณฑ์มาสก์ชนิดโคลน (Mud Mask) สัปดาห์ละครั้งเพื่อช่วยดูดซับความมันของผิว

4. ผิวผสม
ส่วนใหญ่เรามักจะมีผิวประเภทนี้ บริเวณที่จะมีความมันมากได้แก่ หน้าผาก จมูกและคาง ในขณะที่ผิวบริเวณแก้มจะแห้ง การดูแลผิวชนิดนี้จะซับซ้อนกว่าผิวชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ไม่มีส่วนผสมของสารรุนแรง ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่หากยังมีปัญหากับส่วนที่มัน ก็อาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารกำจัดความมันจำพวกกรดซาลิไซลิกสูตรอ่อนโยนกับผิวบริเวณที่มีความมัน และมาสก์ผิวด้วยมาสก์ที่ออกแบบเพื่อผิวผสมโดยเฉพาะสัปดาห์ละครั้ง และควรทาครีมกันแดดเมื่อออกแดดทุกครั้งเช่นเดียวกับผิวชนิดอื่นๆ

5. ผิวแพ้ง่าย
เป็นผิวที่ต้องการความระวังพิเศษในการดูแล ควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารก่อความระคายเคือง เช่น สารทำความสะอาดรุนแรง แอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม สีสังเคราะห์ต่างๆให้มากที่สุด และใช้เมคอัพชนิดติดทนนาน (Long-Lasting) ให้น้อยลง เลือกเมคอัพ มอยซ์เจอไรเซอร์ ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาและไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือสารก่อการแพ้ที่จะอุดตันรูขุมขน และควรทำความสะอาดผิววันละ 2 ครั้ง

การคืนความสดใสให้ผิวสวยมีสุขภาพดีนั้น ที่จริงแล้วขึ้นกับการดูแลผิวในชั้นหนังแท้ (Dermis) เป็นส่วนใหญ่ การดูแลร่างกายให้ได้รับโภชนาการที่เหมาะสม เลี่ยงจากความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิวแม้จะอยู่ในที่ร่ม การทาครีมบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นผิวไว้เป็นประจำ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ หากปฏิบัติได้เช่นนี้เป็นประจำ ทุกคนก็สามารถจะเป็นเจ้าของผิวสวยสดใสได้ไม่ยาก :: Text by FLASH