เป็นว่าที่คุณแม่ยุคนี้ อย่าปล่อยตัวจนตกเทรนด์ โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณและหุ่นให้สวยกระชับควบคู่ไปกับการบำรุงเจ้าตัวน้อยในครรภ์ แต่ด้วยความเชื่อและห่วงเจ้าตัวเล็กมากเกินไป ทำให้คุณแม่บางคนหยุดดูแลตัวเองปล่อยให้น้ำหนักเกิน หรือผิวหน้าท้องแตกลาย จนรู้ตัวอีกทีก็สายเกินแก้
นายแพทย์วรชัย ชื่นชมพูนุท สูตินารีแพทย์ ประจำนิรันดาคลินิก กล่าวว่า คุณแม่ยุคนี้หันมาสนใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณและคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคุณแม่ทุกคนที่ต้องประสบ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวหน้ามันจนเกิดสิว เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ผิวหนังคล้ำขึ้นไม่ว่าจะเป็นผิวบริเวณใต้วงแขน หน้าอก หรือหน้าท้อง ปัญหาหน้าท้องลาย และน้ำหนักเกิน ซึ่งแต่ละปัญหาที่พบจะแปรเปลี่ยนไปตามไตรมาสของการตั้งครรภ์ ทางนิรันดาจึงได้มีโปรแกรม Mommy Make Over ขึ้น เพื่อดูแลว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เตรียมตัวตั้งครรภ์จนถึงคลอด
ฟิตร่างกายก่อนตั้งครรภ์
ว่าที่คุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์นอกจากต้องมาตรวจเลือด เตรียมความพร้อมก่อนมีบุตรแล้ว ควรออกกำลังกายให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มด้วย “หลายคนมีปัญหาหลังจากคลอดแล้วหน้าท้องไม่กระชับ หรือบางคนอยากกลับมาฟิตเหมือนนางแบบ หมอจึงแนะนำให้ปูพื้นฐานความฟิตของหน้าท้องตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพื่อหลังจากเวลาคลอดบุตรแล้ว ผิวหนังจะกลับมากระชับได้เร็ว เหมือนเช่นเหล่านางแบบที่มีหุ่นฟิตอยู่เสมอ อย่างน้อยควรเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ ว่ายน้ำ และหมั่นขมิบเพื่อบริหารอุ้งเชิงกรานให้แข็งแรง จะช่วยให้คลอดง่ายขึ้น แต่ยกเว้นช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก เพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย”
ดูแลผิวคู่กับการปรับอาหารในไตรมาสแรก
ใน 3 เดือนแรก คุณแม่มักมีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน พร้อมๆ กับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะผิวพรรณที่มันขึ้น หลายคนจึงมีปัญหาสิวที่แก้ไม่ได้ ตามความเชื่อเดิม คุณแม่เข้าใจว่า หลังจากคลอดลูกแล้ว เมื่อฮอร์โมนกลับสู่ภาวะปกติปัญหาเหล่านี้ก็หมดไป แต่ลืมไปว่าจุดด่างดำหรือร่องรอยที่เกิดจากสิวนั้นยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
“คุณแม่ตั้งครรภ์ 1-3 เดือน ส่วนใหญ่มีปัญหาสิว ซึ่งหมอขอเตือนไว้ก่อนว่า อย่าบีบเค้น หรือแกะ เพราะจะเกิดจุดด่างดำ หรือหลุมสิวในภายหลัง วิธีที่ดีที่สุดคือเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ตรงกับสภาพผิวภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นด้วยตัวเอง โดยเฉพาะยาทานแก้สิวที่มีขายทั่วไป เพราะอาจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกน้อย การทำทรีตเม้นต์ก็ช่วยได้ โดยเฉพาะการรักษากระ ฝ้า ที่จะเกิดขึ้นง่ายในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากตัวฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ทำให้เม็ดสีถูกกระตุ้นได้ง่าย การทางครีมกันแดดทุกๆ 4 ชั่วโมงจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด เพราะผิวจะไวต่อแสงแดดกว่าผู้หญิงทั่วไป” คุณหมอแนะนำ
ไตรมาสที่ 2 คุมอาหารและออกกำลังกายป้องกันไขมันสะสม
ในช่วง 3 เดือนแรก คุณหมออนุญาตให้บรรดาแม่ๆ ได้อิ่มหนำกับอาหารหลากเมนู โดยเฉพาะคุณแม่ที่แพ้ท้องมักจะเลือกทานไม่ค่อยได้ แต่พอเข้าสู่เดือนที่ 4 คุณแม่ต้องหันมาจัดการเรื่องโภชนาการอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากจนกลายเป็นไขมันสะสม และลดไม่ได้หลังจากคลอดบุตร
“คุณแม่ควรปรับพฤติกรรมเรื่องการรับประทานอาหาร ควรทานอาหารประเภทน้ำตาล แป้ง ไขมันให้น้อยลง และกระจายมื้ออาหารเป็น 5 มื้อต่อวัน ทานน้อยๆ แต่บ่อยขึ้น และรับประทานมื้อเย็นให้เร็วกว่าเดิม แต่เพิ่มมื้อก่อนนอนด้วยผักหรือผลไม้ เมนูอาหารควรให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อปลา ที่สำคัญไม่ควรดื่มนมวัวมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ลูกน้อยแพ้โปรตีนจากนมวัวได้ ควรดื่มเพียง 2 แก้วต่อวัน และหันมาเน้นการดื่มนมถั่วเหลืองแทน”
นอกจากเรื่องโภชนาการแล้ว คุณแม่ควรออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเดินเล่น หรือว่ายน้ำ โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องนั่งทำงานทั้งวัน ควรลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสายทุกชั่วโมง เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะส่งผลต่อร่างกายแล้ว ยังช่วยให้สมองสดชื่น ส่งผลให้จิตใจแจ่มใสเป็นผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย
ป้องกันหน้าท้องลายในไตรมาสที่ 3 และนวัตกรรมใหม่รักษารอยแตกลายหลังคลอด
ช่วงนี้คุณแม่มือใหม่อาจจะตื่นเต้นกับการเตรียมตัวต้อนรับเจ้าตัวน้อย เพราะเจ้าตัวเล็กจะโตขึ้น พร้อมๆ กับท้องคุณแม่ที่ขยายใหญ่ขึ้น “วิธีป้องกันหน้าท้องแตกลายได้ดีที่สุดคือการทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ให้ผิวชุ่มชื้นมากๆ เข้าไว้ ที่สำคัญต้องไม่เกาเวลาที่รู้สึกคัน เพราะผิวจะยิ่งแตกมากยิ่งขึ้น แต่หากใครที่มีป้องกันไม่ได้แล้ว สามารถมาทำเลเซอร์เพื่อลบริ้วรอยเหล่านั้นได้หลังจากคลอด อย่าง Lux Miracle เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1540 นาโนเมตรจากสหรัฐอเมริกา เป็นเลเซอร์ที่ใช้ในการกระตุ้นคอลลาเจนแก้ปัญหาความไม่เรียบเนียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องรอยแตกลายแล้ว ยังให้ผลการรักษารอยแผลเป็น รอยหลุมสิว ได้อีกด้วย
นอกจากรอยแตกลายที่ปรากฏให้เห็นหลังคลอดแล้ว ยังมีนวัตกรรม Deep IR ซึ่งแก้ปัญหาหย่อนคล้อยของหน้าท้องด้วย โดยเป็นกลไกการทำงานของ Infrared ที่ลงลึกสู่ผิวหนังชั้นในโดยระบบ Cooling เทคโนโลยีล่าสุดที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการบาดเจ็บกับผิวหนังชั้นบนบริเวณที่ทำการรักษา เช่น หน้า คาง คอ บริเวณท้อง และต้นแขน ผลการรักษาจะทำให้รู้สึกตึงของคอลลาเจนบริเวณที่ทำ หลังจากนั้นร่างกายจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ โดยจะเห็นผลต่อเนื่องประมาณ 6 เดือนหลังการรักษา
“แม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมต่างๆ มาตอบโจทย์ให้คุณแม่ได้กลับมาสวย หุ่นดี แต่คุณแม่ก็อย่าลืมปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในทุกๆ ไตรมาสด้วย โดยเฉพาะเรื่องโภชนการและการออกกำลังกาย ซึ่งจะส่งผลไปยังช่วงหลังคลอด” คุณหมอแนะนำส่งท้าย
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-658-0544-5 หรือ www.nirundaclinic.com
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net