Celeb Online

ธัญ แนะหลักการเลือกใช้กลิ่นหอม เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีมีสไตล์


กลิ่นหอมถือเป็นเครื่องปรุงแต่งวิธีหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพ รวมถึงเป็นการแสดงออกถึงตัวตนของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี เพราะกลิ่นหอมเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและทำให้ไลฟ์สไตล์ของเราดูโดดเด่น รวมไปถึงสามารถสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อื่นได้ตั้งแต่แรกพบ “ธัญ” (THANN) ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและความงาม “วรรณพร โปษยานนท์” มาแนะนำ “หลักการเลือกใช้กลิ่นหอม เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีอย่างมีสไตล์” กับผลิตภัณฑ์แต่งแต้มความหอมที่คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่ “โซลิด เพอร์ฟูม” ทั้ง 4 กลิ่น พร้อมเซเลบริตี้สาวสวย 3 สไตล์ ร่วมเผยเทคนิคการเลือกใช้น้ำหอม


วรรณพร โปษยานนท์ แนะนำว่า “การมีบุคลิกภาพที่ดีย่อมมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการจัดแต่งทรงผม การแต่งหน้า การแต่งกาย แต่ยังรวมถึงกลิ่นหอมจากร่างกายของเราอีกด้วย ซึ่งเราสามารถแต่งเติมกลิ่นกายของเราได้ด้วยน้ำหอม เพราะในน้ำหอมจะมีฟิโรโมนธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ และมีคุณสมบัติดดึงดูดเพศตรงข้าม ทำให้เราดูดี มีเสน่ห์มากขึ้น

เมื่อร่างกายได้รับกลิ่นหอม กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น ซึ่งอยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์ และความรู้สึก อณูของกลิ่นจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารที่มีประโยชน์ และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก


โครงสร้างกลิ่นของน้ำหอม (Notes) สามารถแบ่งเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนจะแสดงกลิ่นออกมาในเวลาที่แตกต่างกัน โดยการรวมกันของกลิ่นอย่างลงตัวนำไปสู่ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

1.กลิ่นแรก (Top notes) เป็นกลิ่นหอมแนวสดชื่น ส่วนมากมักใช้กลิ่นหอมที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดความสนใจ อาทิ กลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส (มะกรูด, มะนาว, ผิวส้ม), ดอกไม้ (มะลิ, กุหลาบ, ดอกส้ม) และสมุนไพร (โหระพา, เสจ, ลาเวนเดอร์) กลิ่น Top note จางหายไปภายใน 15 – 20 นาที

2.กลิ่นกลาง (Middle notes) กลิ่นหลักของน้ำหอมทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง Top notes และ Base Notes ให้เข้าด้วยกันอย่างลงตัว กลิ่นจะเริ่มปรากฏขึ้นขณะที่ Top notes ค่อยๆ จางหายไป โดยทั่วไปแล้วจะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสบาย อาทิ ซินนามอน กุหลาบ กระดังงา ตะไคร้ และเนโรลี โดยกลิ่นจะอยู่ได้ประมาณ 2 – 6 ชั่วโมง

3.กลิ่นพื้นฐาน (Base notes) กลิ่นจางๆ ที่ช่วยสนับสนุนและสร้างความซับซ้อน เป็นกลิ่นที่ระเหยช้าจึงทำให้กลิ่นติดทนนาน อาทิ ไม้ซีดาร์, ไม้จันทน์, วนิลา, แพทชูลี่ หรือมัสค์ โดยกลิ่นจะอยู่ได้ประมาณ 4 – 24 ชั่วโมง แล้วจะจางหายไป


กลิ่นของน้ำหอมสามารถเชื่อมโยงกับบุคลิกภาพ การแต่งกาย รวมถึงอารมณ์ของเราได้โดยตรง เราสามารถเปลี่ยนกลิ่นของน้ำหอมได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกลิ่นใดกลิ่นหนึ่ง กลุ่มกลิ่นหอมแนวดอกไม้ (Floral) ช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้เราดูอ่อนโยน สดใส รวมถึงสามารถสร้างความรู้สึกโรแมนติก ในขณะที่กลุ่มกลิ่นหอมของพืชตระกูลส้ม (Citrus) ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ส่วนกลุ่มกลิ่นหอมของไม้หอม (Woody) จะให้ความรู้สึกสุขุม น่าค้นหา กลุ่มกลิ่นหอมแนวสมุนไพร (Herbs) ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น กลุ่มกลิ่นหอมแนวโอเรียนทอล (Oriental) ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเย้ายวน เป็นต้น

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์น้ำหอมให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ได้มีแต่แบบที่เป็นของเหลวเท่านั้น แต่ยังมีน้ำหอมแบบแห้ง หรือ Solid Perfume มาในรูปแบบของเนื้อบาล์มที่มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว อาทิ น้ำมันรำข้าว, เชียบัตเตอร์, โกโก้บัตเตอร์ และโจโจ้บาออยล์ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย โดยน้ำหอมแบบแห้งจะบรรจุในตลับ เพื่อให้ง่ายต่อการพกพาและใช้งาน สามารถแต่งแต้มความหอมให้ร่างกายของคุณได้ตลอดเวลา สำหรับข้อแนะนำในการทาน้ำหอมประเภทนี้ให้กลิ่นติดทนนาน ควรจะต้องทำให้ถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยมีวิธีดังนี้


1.ทาน้ำหอมบนข้อมือ และไม่ควรเอาข้อมือมาถูกัน เนื่องจากจะทำให้กลิ่นเพี้ยนได้

2.ทาตามจุดชีพจรต่างๆ เริ่มจากส่วนคอ (ใต้ติ่งหู ซ้าย-ขวา ), ข้อพับแขน (ซ้าย-ขวา), ข้อพับแขนด้านหลัง (ซ้าย-ขวา) รวมไปถึงบริเวณหน้าขา (ซ้าย-ขวา)

3.สำหรับผู้หญิงให้ทาบริเวณร่องอกเพิ่มเติมด้วย เพราะบริเวณร่องอกจะซึมซับกลิ่นได้ดีกว่าผู้ชาย”


“ธัญ” ขอแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกแห่งความหอมผ่อนคลายจากพืชพรรณธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ “โซลิด เพอร์ฟูม” (Solid Perfume) ขนาด 15 กรัม ราคา 550 บาท ด้วยเนื้อบาล์มบางบางเบาจากส่วนผสมของสารสกัดนานาชนิดที่มอบคุณค่าการบำรุงและรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิว อาทิ เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) และน้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) อุดมด้วยวิตามินเอและอีตามธรรมชาติบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น และโจโจบาออยล์ออแกนิค (Organic Jojoba Oil) เป็นต้น เพียงสัมผัส โซลิด เพอร์ฟูม และนวดเบาๆ บนผิวบริเวณขมับ, ต้นคอ, ข้อมือ หรือบริเวณหลังหูเพื่อเติมความหอมสดชื่น ผ่อนคลายได้ในระหว่างวัน สูตรปราศจากแอลกอฮอล์บรรจุในซองผ้าดีไซน์พิเศษ มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่


‘ซิกเนเจอร์ โซลิด เพอร์ฟูม’ (Signature Solid Perfume) ประสบการณ์ความหอมสดชื่นตามแบบฉบับของธัญ (THANN) เติมสีสันความสนุกสนานให้กับชีวิตประจำวัน ดั่งสายลมแรกแห่งฤดูใบไม้ผลิ ด้วยกลิ่นหอมเบาสบายจากส้ม (Orange) พร้อมกระตุ้นความมีชีวิตชีวาด้วยสเปียร์มิ้นท์ (Spearmint)


‘แพชชั่น โซลิด เพอร์ฟูม’ (Passion Solid Perfume) กลิ่นหอมฟรุตตี้ที่ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้ที่มีเสน่ห์ชวนให้หลงใหล น่าค้นหา เติมความสดใสร่าเริงระหว่างวัน เสมือนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่ได้จากส่วนผสมของ เบอร์กามอต (Bergamot) และดอกมะลิ (Jasmine) แฝงความอบอุ่นอ่อนหวานด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนของไวท์มัสค์ (White Musk)


‘ไวลด์ ฟลอรัล โซลิด เพอร์ฟูม’ (Wild Floral Solid Perfume) เติมความเบิกบานสดใสด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์แฝงความสดชื่นของน้ำมันสกัดจากผิวส้ม (Orange peel oil) และมะนาว (Lemon peel oil)


‘อีเดน บรีซ โซลิด เพอร์ฟูม’ (Eden Breeze Solid Perfume) ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความโรแมนติกด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบ Sweet Floral จากส่วนผสมของดอกมะลิ (Jasmine) และดอกกุหลาบ (Rose) มอบความสงบ สมดุลทางอารมณ์และจิตใจ


ด้านเซเลบริตี้สาว พลอยพยัพ ศรีกาญจนา กล่าวว่า “ส่วนตัวพลอยมองว่าการใช้น้ำหอมมีส่วนช่วยให้บุคลิกภาพของเราสมบูรณ์แบบในแต่ละวัน น้ำหอมเปรียบเสมือนเครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องมีและขาดไม่ได้ หากวันไหนไม่ฉีดหรือทาน้ำหอมเลยก็เหมือนขาดอะไรไป พลอยชอบให้ตัวมีกลิ่นหอม เพราะกลิ่นหอมทำให้เราดูดีและมีความมั่นใจมากขึ้น สำหรับการเลือกน้ำหอมส่วนใหญ่แล้วจะเลือกกลิ่นที่ติดทนนาน กลิ่นหอมชัดเจน และจะเลือกใช้ให้เข้ากับสภาวะอารมณ์ รวมถึงการแต่งกายในแต่ละวัน บางวันอาจจะแต่งตัวแนวเซ็กซี่ บางวันก็เท่ๆ หวานๆ หรือบางวันก็จะเปรี้ยวแซ่บหน่อย เราจึงจำเป็นต้องมีน้ำหอมหลากหลายกลิ่น เพื่อช่วยคอมพลีทลุคในแต่ละคาแรคเตอร์ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างกลิ่น แพชชั่น โซลิด เพอร์ฟูม ตัวนี้จะให้กลิ่นหอมแนวฟรุตตี้ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับกลิ่นของดอกไม้ เป็นกลิ่นหอมที่ช่วยสร้างเสน่ห์ชวนให้หลงใหล น่าค้นหา ทำให้เราดูสดใสร่าเริงตลอดวัน”


ถัดมาที่สาวแฟชั่นนิสต้า จุฬาลักษณ์ ปิยะสมบัติกุล เล่าว่า “สำหรับหมูแล้วกลิ่นเปรียบเสมือนเครื่องเตือนความทรงจำในเรื่องที่เราได้ประสบพบเจอมา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของสถานที่ที่เราได้เดินทางไปสัมผัส ไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ รวมถึงกลิ่นหอมจากน้ำหอมของแต่ละคนที่เราพบเจอ ซึ่งกลิ่นสามารถบ่งบอกถึงบุคลิกและความเป็นตัวตนของคนๆ นั้นได้อย่างชัดเจน อย่างกลิ่นที่เราชอบจะเป็นแนวดอกไม้อย่าง ไวลด์ ฟลอรัล โซลิด เพอร์ฟูม เป็นการผสมผสานกลิ่นหอมหวานของดอกไม้นานาพันธุ์กับกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันสกัดจากผิวส้ม ซึ่งจะเข้ากับคาแรกเตอร์ของเราที่เป็นคนร่าเริงสดใส ที่ชอบแต่งกายด้วยชุดเดรส กระโปรงบานแนววินเทจ หรือหากวันไหนอยากเพิ่มความโรแมนติกให้กับตัวเองก็จะเลือกใช้กลิ่น อีเดน บรีซ โซลิด เพอร์ฟูม ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกมะลิและดอกกุหลาบ ไม่ว่าใครได้กลิ่นนี้ก็ต้องนึกถึงและจดจำเราได้แน่นอน”


ปิดท้ายที่สาวหวาน พรรษมน พิริยะเมธา เผยว่า “สำหรับพรรษแล้วเรื่องกลิ่นกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากพอๆ กับการแต่งกาย ไม่เพียงแต่เรื่องของความสะอาด แต่ต้องเหมาะสมถูกกาลเทศะด้วยค่ะ การใช้กลิ่นหอมสามารถสะท้อนถึงบุคลิกของเราเป็นอย่างดี เพราะกลิ่นถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ นอกจากนี้กลิ่นหอมถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เราสามารถปรับประยุกต์ใช้ได้แบบไม่ต้องยึดติดอยู่กับกลิ่นใดกลิ่นหนึ่งเลย ซึ่งเราสามารถผสมผสานน้ำหอมกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ได้กลิ่นใหม่อยู่เสมอ ส่วนวิธีเลือกน้ำหอมเราจะคำนึงถึงอารมณ์และการแต่งกายในแต่ละวันเป็นหลัก อย่างวันไหนที่ต้องออกงานแต่งตัวเรียบร้อยหวานๆ เราก็จะเลือกกลิ่นที่ไม่ฉุนมากอย่างกลิ่น ซิกเนเจอร์ โซลิด เพอร์ฟูมหรือวันไหนที่ต้องไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนก็จะแต่งตัวแบบสนุกๆ ออกแนวแฟชั่นก็จะเลือกใช้กลิ่น ไวลด์ ฟลอรัล โซลิด เพอร์ฟูม เราชอบพกโซลิด เพอร์ฟูม ติดกระเป๋าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถหยิบมาทาเติมระหว่างวันได้ง่ายๆ พกพาสะดวก ไม่หกเลอะกระเป๋าด้วย”


แต่งเติมความหอมที่น่าค้นหากับผลิตภัณฑ์ “โซลิด เพอร์ฟูม” (Solid Perfume) ทั้ง 4 กลิ่น ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ