>>ถ้าพูดถึงคำว่า วิดัล แซสซูน (Vidal Sassoon) คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักว่าเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นผมชื่อดัง แต่ก็อาจจะไม่รู้ว่าชื่อนี้มีที่มาจากบุคคลซึ่งพลิกวงการแฟชั่นผมให้ทันสมัยและก้าวหน้าจนเป็นอย่างทุกวันนี้
วิดัล แซสซูน คือชื่อของแฮร์สไตลิสต์คนเก่งในยุคปี 60s ที่สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงแฟชั่นเส้นผม โดยเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว การเข้าร้านทำผมของสาวๆ คือเข้าไปดูแลจัดทรงเส้นผมให้สวยงามออกมาเป็นทรงยอดนิยม ซึ่งจะเป็นพิมพ์เดียวกัน บล็อกเดียวกัน ไม่ต่างอะไรจากสินค้าที่ไหลออกมาจากสายพานการผลิตของโรงงาน จนเมื่อวิดัลลุกขึ้นมาสร้างความแตกต่างด้วยการสร้างสรรค์รูปแบบทรงผมแสนเก๋ไม่ซ้ำใคร โดยครีเอตให้เหมาะกับผู้หญิงแต่ละคนอย่างมีเอกลักษณ์
วิดัล แซสซูน เริ่มเป็นที่สนใจในวงการแฟชั่นในปี 1963 เมื่อเขาได้เปลี่ยนลุคใหม่กับดาราฮอลลีวูดชื่อดัง แนนซี่ กวาน (Nanny Kwan) จากผมตรงยาวเป็นผมบ๊อบหน้าสั้นหลังยาวเป็นชั้นๆ เพื่อรับบทนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง The Wild Affair จนถูกตีพิมพ์ลงในนิตยสารโว้ก (Vogue) โดยช่างภาพชื่อดัง Terence Donovan และกลายเป็นทรงผมสุดฮิตในช่วงนั้น ซึ่งในปีถัดมา วิดัล แซสซูน ได้แสดงฝีมือแห่งอัจฉริยะให้โลกประจักษ์อีกครั้ง ด้วยการรังสรรค์ทรงผมแบบ Five Point Cut ผมซอยสั้นเผยต้นคอ ตัดปลายแหลมที่ข้างหู และรูปตัวดับเบิลยูที่ท้ายทอย จากการผสมผสานความคลาสสิกและดีไซน์รูปทรงเรขาคณิต ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะในยุคโมเดิร์น โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมแบบเบาเฮาส์ ทำให้ทรงผม Five Point Cut นี้สร้างกระแสใหม่ไปทั่วทั้งลอนดอน
จากผลงานอันโดดเด่นดังที่กล่าวมา เขาจึงกลายเป็นผู้บุกเบิกที่นำเอาแฟชั่นมาผสมผสานและเปลี่ยนแปลงวงการผมใหม่ กล้าที่จะเดินนอกกรอบเพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกจนกลายเป็นที่ยอมรับ ที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการรังสรรค์ทรงผมสไตล์ใหม่นี้ คือการคิดค้นเทคนิคการตัดผมแบบสมมาตรทรงเรขาคณิต ที่ยึดตามแนวคิดหลักว่า “สระแล้วต้องอยู่ทรง” ให้ผมกลับมาอยู่ทรงสวยเหมือนเดิมทุกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลความงามครั้งยิ่งใหญ่ของผู้หญิงในยุคนั้น ทำให้สาวๆ ไม่ต้องเข้าซาลอนกันทุกสัปดาห์เหมือนแต่เก่าก่อน เหมือนเป็นการปลดปล่อยให้ผู้หญิงเป็นอิสระ ซึ่งนั่นนับเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการแฟชั่นผมระดับโลก และพัฒนามาเป็นไลฟ์สไตล์ของการดูแลผมของสาวๆ อย่างทุกวันนี้
ผลงานของ วิดัล แซสซูน ยังสร้างความฮือฮาให้กับวงการแฟชั่นอย่างต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน จากการรังสรรค์แฟชั่นทรงผมร่วมกับหลากหลายแบรนด์ไฮเอนด์บนรันเวย์ อาทิ Paco Rabanne, Sonya Rykiel, John Galliano, Oscar De La Renta รวมถึง Alexander Wang และการสนับสนุนโชว์ในงานแฟชั่นโชว์ระดับโลก ลอนดอน แฟชั่น วีก
แม้ปัจจุบัน วิดัล แซสซูน ได้จากไปแล้ว แต่ปณิธานของเขายังคงส่งต่อสู่คนในทุกยุคทุกสมัย ผ่านสถาบันสอนการออกแบบทรงผม แซสซูน อคาเดมี่ ซาลอนกว่า 33 สาขาทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม วิดัล แซสซูน ที่พร้อมจะมอบความงามที่เพอร์เฟกต์ที่สุดสำหรับผู้หญิงแต่ละคน ปลดปล่อยอิสรภาพและมอบความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสู่ความนำสมัยให้กับผู้หญิงทุกคน ด้วยทรงผมที่บ่งบอกความเป็นตัวเองที่สามารถทำได้เอง เพียงแค่สระแล้วเป่าให้แห้ง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดทรงยากอีกต่อไป
เทรนด์ผมล่าสุดที่ แซสซูน อคาเดมี่ ครีเอตออกมาคือ คอลเลกชัน “อีลาสติก้า – Elastica” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวของการเล่นโยคะ ซึ่งทรงผมในแต่ละทรงผ่านการคิดค้นอย่างประณีตเพื่อให้คงความงามและสามารถจัดทรงได้เองอย่างอิสระ เพียงใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม วิดัล แซสซูน เท่านั้น โดยไม่ต้องเดินทางไปเซตสวยถึงซาลอนให้ยุ่งยากแต่อย่างใด :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/