หลายคนมักมีความเข้าใจว่าปัญหาสุขภาพผิวส่วนใหญ่จะพบมากในช่วงฤดูร้อน แต่แท้ที่จริงแล้วช่วงฤดูฝนถึงแม้ว่าจะมีความชุ่มชื้นในอากาศมาก แต่ใช่ว่าผิวของเราจะได้รับความชุ่มชื้นตามไปด้วย หากสังเกตดีๆ จะพบว่าช่วงเวลาก่อนเวลาฝนตก อากาศมักจะอบอ้าว เรียกว่า “อากาศร้อนชื้น” นอกจากทำให้คนป่วยง่ายแล้ว ยังทำให้ผิวป่วยได้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอาการผิวอิดโรยขาดน้ำ ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ มา “แนะนำวิธีคืนความมีชีวิตชีวาให้กับผิวอิดโรยขาดน้ำช่วงฤดูฝน” กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘ชิโซะ’ (Shiso Collection) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยมาเผยเคล็ดลับวิธีดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น พร้อมวิธีดูแลผิวรอบดวงตาให้สุขภาพดี
แพทย์หญิงนิโลบล เจริญวุฒิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะนำวิธีคืนความมีชีวิตชีวาให้กับผิวอิดโรยขาดน้ำว่า “สาเหตุของผิวอิดโรยขาดน้ำ ดูไม่สดใส ขาดชีวิตชีวา เกิดได้จากทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประกอบกัน โดยปัจจัยภายในจะมาจากพันธุกรรมของเราที่ถูกถ่ายทอดระหว่างรุ่นสู่รุ่นซึ่งเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก พันธุกรรมของเรายังสัมพันธ์กับอายุของเราด้วย ในแต่ละช่วงวัยผิวหนังของเราจะมีโครงสร้างของผิวที่แตกต่างกันกัน เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนก็จะเริ่มเสื่อมลง การสร้างเซลล์ผิวใหม่และการผลัดเซลล์ผิวจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ผิวหนังชั้นนอกสุดที่เปรียบเป็นกำแพงผิว (Skin Barrier) บางลง ทำให้ผิวไม่อุ้มน้ำและขาดความชุ่มชื้น นอกจากนี้ความเครียดก็ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุล และไปยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนแห่งความหนุ่มสาวหรือ ‘โกรทฮอร์โมน’ (Growth Hormone) ทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้าน สิว ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้
ส่วนปัจจัยภายนอกจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อย่างช่วงนี้ที่มีทั้งสภาพอากาศร้อนสลับกับฝนตก ทำให้ผิวปรับตัวไม่ทันตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้การอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลาก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะผิวขาดน้ำได้ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศดึงความชื้นในอากาศออกไป ส่งผลให้ผิวเกิดปัญหาผิว แห้งกร้าน เกิดอาการคัน ระคายเคือง ผดผื่น รวมถึงเกิดอาการอักเสบของผิว
ดังนั้นวิธีที่ง่ายสุดสำหรับรับมือกับปัญหาผิวอิดโรยขาดน้ำ คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ควรเลือกชนิดที่ไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน ไม่อุดตันรูขุมขน และมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้นและฟื้นฟูสภาพผิว ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากชิโซะ (Shiso extract) นอกจากการบำรุงผิวจากภายนอกแล้ว สิ่งสำคัญอีกสิ่งคือควรดูแลตัวเองจากภายในควบคู่ไปด้วย อาทิ
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ควรเข้านอนก่อน 22.00 น. เพราะระหว่างเวลา 22.00 – 02.00 น.จะเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ร่างกายเข้าสู่ภาวะซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืช ผลไม้ตระกูลเบอรี่ รวมถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
– ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวันสามารถคำนวณได้จาก น้ำหนักตัว (ก.ก.) / 2 x 2.2 x 30 = ……ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว) ตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม การคำนวณคือ 50/2 x 2.2 x 30 = 1,650 ซีซี หรือประมาณ 6 – 7 แก้ว
– ลดความเข้มของแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือลง เพื่อลดปริมาณแสงบลูไลท์ที่จะทำร้ายผิวของเรา
– สำหรับคนที่ชอบนอนดึก หรือติดดูซีรีส์ ควรระวังเรื่องผิวบริเวณรอบดวงตาเกิดความอ่อนล้า ทำให้เกิดอาการบวมของถุงใต้ตา รวมถึงริ้วรอยและความหมองคล้ำ ควรให้ความสำคัญกับการดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นพิเศษด้วย”
‘ธัญ’ (THANN) ใช้เวลานับพันชั่วโมงในการไขความลับอันน่าอัศจรรย์ของ “ชิโซะ” พืชอัศจรรย์ที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์ (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า), วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อม วิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด นอกจากนี้ในสารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับฟื้นฟูสภาพผิวให้สวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ‘เอจ อินเวอร์ชั่น อาย ซีรั่ม’ (Age inversion eye serum) ขนาด 15 มล. ราคา 1,500 บาท เซรั่มเนื้อบางเบาอ่อนโยนต่อผิวรอบดวงตา พัฒนามาเพื่อรับมือกับปัญหาความร่วงโรยแห่งวัยโดยเฉพาะ คืนสมดุลความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา ลดเลือนริ้วรอย ความหมองคล้ำ และถุงใต้ตา ช่วยลดความหมองคล้ำของผิวใต้ตา (Dark circle) ลง 28%* ลดอาการบวมของถุงใต้ตา (Puffiness) ลง 7%* และลดเลือนริ้วรอย (Fine lines) ลง 5%* ด้วยส่วนผสมทรงประสิทธิภาพจากธรรมชาติ อาทิ สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract), สารสกัดจากเซลล์ต้นกำเนิดของข้าวแดง (Regenistem rice extract), สารสกัดจากรากต้นหญ้าทะเลทราย (Imperata cylindrica root extract) และสารสกัดจากดอกปักษาสวรรค์ (White bird of paradise extract) *ทดสอบโดยสถาบันผิวหนัง Dermscan Asia กับผู้หญิงเอเชียอายุ 50 – 63 ปี จำนวน 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์วันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 28 วัน
‘ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น’ (Hydrating Emulsion) ขนาด 100 มล. ขนาด 1,200 บาท ผลิตภัณฑ์เติมเต็มความชุ่มชื้นสำหรับผิวหน้าสูตรที่พัฒนามาเพื่อแก้ปัญหาผิวขาดน้ำโดยเฉพาะซึมซาบเข้าบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน และไม่อุดตันรูขุมขน อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะ (Nano Shiso Extract) เพิ่มความชุ่มชื้นลดการอักเสบและอาการระคายเคืองต่างๆพร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะสารสกัดจากต้นไมโรทัมนัส (Myrothamnus Extract) พืชทะเลทรายจากทวีปแอฟริกาใต้ที่ได้รับฉายาต้นไม้คืนชีพเพียงโดนน้ำแค่หยดเดียวก็สามารถฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง อุดมด้วยสารอาร์บูติน (Arbutin) และโพลีฟีนอล (Polyphenol) เสริมความแข็งแรงให้ผิวเพิ่มความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง พร้อมคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันเมล็ดชาออแกนิค (Organic Camellia Seed Oil) อุดมด้วยวิตามิน A, B, D, E, กรดโอเลอิก, โอเมก้า 3,6,9 และโพลีฟีนอล )Polyphenol) ทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์, น้ำมันสกัดจากถั่วอินคาออแกนิค (OrganicInca Inchi Seed Oil) อุดมด้วยโอเมก้า 3,6,9 ปกป้อง และลดการระคายเคืองของผิวจากแสงแดด, เชีย บัตเตอร์ (Shea butter), โจโจ้บา ออยล์ (Jojoba oil), น้ำมันมะกอก (Olive oil), สารสกัดจากสาหร่ายทะเล (Algin Extract) และ ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) ฟื้นฟูและปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน บำรุงผิวที่อ่อนล้าได้อย่างอ่อนโยน
‘บอดี้ บัตเตอร์’ (Body Butter) ขนาด 350 มล. ราคา 1,700 บาท ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายสูตรเสริมประสิทธิภาพที่ให้มากกว่าแค่ความชุ่มชื้น แต่ยังสามารถรับมือกับผิวเปลือกส้มที่หลายคนกังวลใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะ (Platinum colloid shiso extract), ออแกนิค เชียบัตเตอร์ (Organic shea butter), น้ำมันโจโจ้บาออแกนิค (Organic jojoba oil), สารสกัดจากบุทเชอร์ส บรูม (Butcher’s broom extract) และสารสกัดจากมิลค์ ทิสเซิล (Milk thistle extract) พืชธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด พร้อมลดอาการระคายเคือง, สารสกัดหญ้าหางม้า (Horsetail extract) ลดอาการผิวลาย และช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับเรียบเนียน, สาหร่ายแบล็ดเดอร์แร็ค (Bladderwrack extract) และสาหร่ายเคลป์ (Kelp extract) ช่วยกระตุ้นการย่อยสลายไตรกลีเซอไรด์ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของไขมัน และสารสกัดจากใบไอวี่ (Ivy extract) อุดมด้วยสารซาโพนูไซด์ (Saponoside) และ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ลดอาการบวมน้ำของผิว และลดการซึมผ่านของไขมันเข้าสู่เส้นเลือด เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการกระชับสัดส่วน ขอแนะนำเทคนิคการนวดเพื่อสลายไขมันหน้าท้อง เรียวขา และต้นขา สำหรับใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ ‘Body Butter’ เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดในการกระชับสัดส่วน
ด้านเซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเคล็ดลับวิธีดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้น พร้อมวิธีดูแลผิวรอบดวงตาให้สุขภาพดี เริ่มที่ เอมษิกา โชติวิจิตร เผยว่า “ช่วงโควิดเป็นช่วงที่ทำให้เราต้องอยู่บ้านมากขึ้น ไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก ต้องเปลี่ยนมาเวิร์คฟอร์มโฮมและใช้เวลาติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ในแต่ละวันเราต้องนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือหน้าจอมือถือหลายชั่วโมงติดต่อกัน พอหลังเลิกงานเราก็ชอบดูซีรีส์ ดูภาพยนตร์ ทำให้นอนดึกติดต่อกัน พอนานเข้าผิวใต้ตาก็เลยเริ่มหมองคล้ำ มีริ้วรอย ซึ่งเราก็พยายามปรับเปลี่ยนเวลาเพื่อไม่ให้นอนดึกมาก และใช้ตัวช่วยอย่าง Age Inversion Eye Serum ทุกคืนก่อนเข้านอน เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวบริเวณรอบดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น ส่วนตัวก็มีเคล็ดลับเล็กๆ อย่างการใช้แตงกวาประคบควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้การที่เราต้องอยู่ห้องแอร์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ก็ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นและแห้งกร้านได้ง่าย ยิ่งเราเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว ก็ต้องไม่ลืมทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำทุกวันด้วย Body Butter ชอบที่เนื้อครีมเข้มข้น แต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้เป็นอย่างดี และยังช่วยรับมือกับผิวเปลือกส้มได้ดีอีกด้วย”
ถัดมาที่ พลอยวารินทร์ ทรงปกรณ์ เล่าว่า “ยิ่งช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปไหน อยู่แต่บ้านอยู่แต่ในห้องแอร์ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งได้ง่าย บางทีผิวก็จะแห้งแตกจนคัน เราก็จึงต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นตลอด โดยจะดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการบำรุงผิวด้วย Body Butter เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว นอกจากปัญหาเรื่องผิวกายแล้ว อีกสิ่งที่เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเผชิญ คือ ปัญหาสภาพผิวรอบดวงตาที่เกิดจากการทำงานหน้าจอคอมพิเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งติดต่องาน ติดตามโซเชียล ถ่ายรูปและทำคลิป เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้พักสายตาเลย ประกอบกับการที่เราเป็นคนชอบนอนดึกแต่ตื่นเช้า ก็จะเจอกับปัญหาผิวใต้ตาคล้ำ หากเมื่อไหร่ที่ผิวขาดน้ำด้วยแล้ว ก็จะเจอปัญหาริ้วรอยรอยดวงตาตามมาด้วย เราจึงมีวิธีดูแลสุขภาพผิวรอบดวงตาด้วย Age Inversion Eye Serum เซรั่มเนื้อบางเบาที่อ่อนโยนต่อผิวรอบดวงตา ช่วยคืนสมดุลความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา ช่วยลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำของผิวใต้ตาได้ดี”
ปิดท้ายที่ ขนิษฐา ดรุณเนตร เผยว่า “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกไปไหนส่วนใหญ่จะอยู่แต่บ้านและทำงานแบบเวิร์คฟอร์มโฮมในห้องแอร์ตลอดเวลา ซึ่งการที่เราอยู่ในห้องแอร์นานๆ แน่นอนว่าผิวเราก็จะแห้งตามไปด้วย ยิ่งเราเป็นคนที่มีสภาพผิวแห้งอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิมอีก เราจึงไม่ละเลยการดูแลผิวด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเรา อย่างใบหน้าก็จะใช้ Hydrating Emulsion และถ้าเป็นผิวกายก็จะใช้ Body Butter เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว การที่เรายังต้องทำงานแบบออนไลน์ และต้องใช้โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา ทำให้ต้องใช้สายตาและกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตามากขึ้น ผิวบริเวณรอบดวงตาจึงเกิดความอ่อนล้า จึงต้องหาวิธีดูแลเป็นพิเศษโดยเราเลือกใช้ Age Inversion Eye Serum เป็นตัวช่วยในการดูแลสภาพผิวรอบดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น รวมถึงลดเลือนริ้วรอยและความหมองคล้ำของถุงใต้ตาด้วยค่ะ”
ฟื้นคืนความมีชีวิตชีวาให้ผิวที่อิดโรยขาดน้ำให้กลับมามีสุขภาพดีกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘ชิโซะ คอลเลกชั่น’ (Shiso Collection) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ