Celeb Online

“วิลเลี่ยม หลี่” มหาเศรษฐีฉายา อีลอน มัสก์ สัญชาติจีน


เกิดในฟาร์มโคนม แต่โตมาเป็นซีอีโอของยนตรกรรมไฟฟ้าสุดล้ำ นิโอ (Nio) ก็ได้ด้วย ซึ่งจากผลงานความล้ำสมัยนี่เอง ทำให้ วิลเลี่ยม หลี่ หรือ หลี่ปิน มหาเศรษฐีชาวจีน คว้าฉายา ‘อีลอน มัสก์’ สัญชาติจีนมาครอง

หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง หลี่ปิน ก็ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านไอทีของตัวเองขึ้นมาตอนอายุ 21 เช่นเดียวกับ อีลอน มัสก์ นายใหญ่เทสลา ทำการลงทุนในธุรกิจไอทีและรถยนต์ตั้งแต่เริ่มต้น


กว่าจะถึงปัจจุบันที่วัย 45 ปี หลี่ปิน ก็ลงทุนในอุตสาหกรรมไอทีและรถยนต์ไปแล้วกว่า 40 บริษัท รวมทั้ง นิโอ โรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ

คาดว่า ‘อีลอน มัสก์’ แห่งเซี่ยงไฮ้ ร่ำรวยราวๆ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลำพังเฉพาะ นิโอ บริษัทเดียวก็สร้างรายได้มากกว่าครึ่ง

หลี่ปิน ก่อตั้งบริษัท นิโอ ขึ้นในปี 2014 ก่อนที่จะเปิดตัวรถเอสยูวีระบบไฟฟ้าให้สั่งจองได้เป็นคันแรกในปี 2017 ผ่านรูปแบบคราวด์ฟันดิ้ง ได้เงินทุนไปถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ และสามารถเปิดตัวผลิตในระบบอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นทางการในปีต่อมา


ไม่แปลกเลยที่ นิโอ มักจะได้รับการขนานนามว่าเป็น เทสลาแห่งจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยยอดขายที่พุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ทำลายสถิติการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 3,965 คันในเดือนเดียว เมื่อรวมทั้งปีมีอัตราการขยายตัวของยอดขาย 104.1 เปอร์เซ็นต์

ถึงจะเป็นลูกชายของเจ้าของฟาร์มเล็กๆ ในมณฑลอานฮุย แต่บิดาของหลี่ปินเป็นคนทันสมัย เขามองการไกลตั้งแต่แรก ด้วยการเก็บเงินสำหรับเป็นทุนการศึกษาของลูกชายตั้งแต่เด็ก ขณะที่หลี่ปินก็สนับสนุนปณิธานของผู้เป็นพ่อ ด้วยการเรียนไปทำงานไป จนในที่สุดก็จบการศึกษาเอกสังคมวิทยา โทกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง


หลี่ปินเปิดบริษัทสตาร์ทอัพด้านอินเทอร์เน็ตบริษัทแรกขึ้นในปี 1996 กระทั่งอีก 4 ปีต่อมา ก็เปิดบริษัททำเว็บข่าวการตลาดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ขึ้นมา

การได้คลุกคลีกับบริษัทรถยนต์ ได้สัมภาษณ์ผู้บริการระดับสูงของค่ายรถยนต์ชั้นนำ ทำให้เขาเข้าใจตลาดรถยนต์อย่างทะลุปรุโปร่ง เว็บของเขาได้การยอมรับอย่างกว้างขวาง จนทำให้หลี่ปินกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการรถยนต์ไปโดยปริยาย เขาทำเว็บไซต์นี้อยู่ 13 ปี ก่อนจะขายออกไปในปี 2013 แล้วเริ่มนำเงินไปลงทุนในอุตสาหกรรมรถจริงจัง โดยเริ่มจากการก่อตั้ง โมไบค์ ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มจักรยานสาธารณะ ก่อนจะเปิดบริษัท นิโอ ในปีต่อมา


หลี่ปิน บอกว่า แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมไฟฟ้า มาจากการเห็นความสำเร็จของ เสียวมี่ บริษัทไอทีของจีนที่ได้การยอมรับไปทั่วโลก โดยโมเดลแรกของ นิโอ เป็นรถยนต์สปอร์ต 2 ประตู Nio EP9 เปิดตัวที่ซาตชิ แกลเลอรี ในกรุงลอนดอน ปี 2016 ขายให้นักลงทุนกลุ่มแรก 6 คันมูลค่ารวม 3.2 ล้านดอลลาร์

บริษัท นิโอ เพิ่งออกมาประกาศเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ว่าสามารถระดมทุน (Crowdfunding) ได้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยลดค่าใช่จ่ายสำหรับแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าของพวกลงได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์