Celeb Online

“เคลาเดีย ไชน์บอม” ปธน.หญิงคนแรกเม็กซิโก เฟมินิสต์ตัวแม่เชื้อสายยิว


เป็นที่ฮือฮาเมื่อเม็กซิโกได้ผู้นำคนใหม่เป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ “เคลาเดีย ไชน์บอม” สาวเชื้อสายยิวที่ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แต่ก็ไม่วายมีดราม่ามากมายด้วยเชื้อชาติและข้อครหาในฐานะหุ่นเชิดของอำนาจเก่า พร้อมทั้งปัญหามากมายที่รอให้เธอแก้ไข ทั้งแก๊งค้ายา ปัญหาความปลอดภัย และคลื่นผู้อพยพที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่คนอาจไม่ค่อยรู้คือเธอเป็นนักสิทธิสตรีตัวยงและยังมีใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาก


#EsClaudia “เคลาเดียคือคนที่ใช่” สโลแกนนี้มีให้พบเห็นได้ทั่วประเทศเมื่อสอง-สามปีก่อน เป็นข้อความที่ทาสีไว้ตามผนังและกำแพงบ้านก่อนที่การรณรงค์หาเสียงจะเริ่มต้นขึ้น และเธอคือคนที่ใช่จริงๆ หญิงวัย 61 ปี จากครอบครัวเชื้อสายยิวในบัลแกเรียที่เคยลี้ภัยจากลัทธิฟาสซิสต์ในยุโรปเมื่อช่วงทศวรรษ 1940 ได้กลายเป็นประธานาธิบดีหญิงและเชื้อสายยิวคนแรกของเม็กซิโก นับตั้งแต่เม็กซิโกได้รับเอกราชเมื่อ 200 ปีก่อน

เธอเคยแต่งงานกับคาลอส กิสเพิร์ท นักการเมืองดัง มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อยู่กันมายาวนานเกือบ 30 ปี ก่อนจะหย่าร้างกันเมื่อปี 2559 แล้วจึงพบรักใหม่กับ เยซุส มาเรีย นักการเงินของธนาคารแห่งชาติเม็กซิโก เพื่อนสมัยเรียนของเธอที่กลับมาสปาร์กกันอีกครั้ง ก่อนจะเข้าพิธีแต่งงานกันเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว


ไชน์บอมโดนหาว่าเป็นหุ่นเชิดของ “อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์” ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เพื่อสืบทอดอำนาจ แถมยังมีคำครหาว่าด้วยความมีเชื้อสายยิวของเธอ เป็นพลังการสนับสนุนจากชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และการชนะการเลือกตั้งท่ามกลางความรุนแรงที่เหล่าทีมงานคู่แข่งเสียชีวิตกันหลายสิบราย

ที่จริงแล้วเธอไม่ได้เพิ่งก้าวเข้าวงการการเมือง แต่ก่อนหน้านี้เธอเคยทำหน้าที่นายกเทศมนตรีของมหานครเม็กซิโกมาแล้ว แถมยังมีบทบาทในด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเด่นชัด ซึ่งเธอเป็นนักฟิสิกส์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม เธอมีส่วนสำคัญต่อสาขาพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืนผ่านบทความมากกว่า 100 บทความ และหนังสือ 2 เล่ม


หลังรับตำแหน่งเธอวางแผนจะขยายการลงทุนในพลังงานสะอาด โดยมีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนมากกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ในโครงการพลังงานใหม่ภายในปี 2030 ที่จะมุ่งเน้นไปที่การผลิตพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ และปรับปรุงโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำให้ทันสมัย วิสัยทัศน์ของเธอรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและการส่งเสริมเทคโนโลยีสีเขียว เพื่อปฏิวัตินโยบายพลังงานของเม็กซิโก

อีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญคือการส่งเสริมสิทธิสตรี ความเท่าเทียมกันทางเพศ ผลักดันเรื่องกฏหมายทำแท้ง ร่วมไปถึงเรียงร้องสิทธิให้กับเพศทางเลือกด้วย แถมเมื่อปี 2565 เธอยังเป็นนายกเทศมนตรีของเม็กซิโกคนแรกที่เข้าร่วมเดินขบวน Pride Parade อีกด้วย