ชื่อของ“คาร์เทียร์” ชวนให้นึกถึงแบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาหรู ซึ่งก่อตั้งในปารีสตั้งแต่ปี 1847 โดยช่างอัญมณี “หลุยส์ ฟรานซิส คาร์เทียร์” มีลูกชาย “อัลเฟรด” และหลานชายสามคน “หลุยส์” “ปิแอร์” และ “ฌากส์” ช่วยกันสร้างธุรกิจจนเติบใหญ่ และย้ายกิจการไปปักถิ่นฐานบนถนนรู เดอ ลา เปซ์ ในย่านหรูของปารีสเมื่อปี 1899 จากตรงนั้นชื่อของคาร์เทียร์ก็กลายเป็นแบรนด์หรูที่รู้จักกันทั่วโลก
แบรนด์คาร์เทียร์เป็นกิจการของตระกูลมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงปี 1964 หลังจากหลานชาย-ปิแอร์เสียชีวิต ธุรกิจก็ถูกขายต่อ
“แมกซิมิเลียน เดอ ฮูป คาร์เทียร์” ทายาทสายตรงของตระกูลคาร์เทียร์ ซึ่งตกเป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แจ้งจับดำเนินคดีด้วยข้อหาค้ายาเสพติดและฟอกเงินผ่านการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัล USDT เขาเป็นทายาทคนหนึ่งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟชั่นแบรนด์หรู หากแต่หันมาทำธุรกิจเครื่องดื่ม เมื่อปี 2007 เขาก่อตั้งแบรนด์ Patagonia ผลิตไวน์หรูจากอเมริกาใต้ เบียร์พรีเมียม และน้ำดื่มที่เคลมว่าเป็นหนึ่งในบรรดาน้ำดื่มที่ดีที่สุดในโลก วางขายในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป
“แมกซ์ เดอ ฮูป คาร์เทียร์” เป็นชื่อเรียกของเขาในโซเชียลมีเดีย ในเฟซบุ๊กของเขาบอกเล่าเกี่ยวกับการศึกษาว่าสำเร็จจาก Ecole d’Ingenieurs de Changins, Glion Institute of Higher Education และ Ecole Lemania College ในสวิตเซอร์แลนด์ มีตำแหน่งเป็น CEO ที่บริษัท Vintech Capital LLC มีโปรไฟล์เป็นนักร้อง ที่กำลังมีผลงานเพลงเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ “แมกซ์ คาร์เทียร์” ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงของฝรั่งเศส และมีสถานะโสด
แมกซ์ คาร์เทียร์ มีสองสัญชาติ ฝรั่งเศสและอาร์เจนตินา เกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1967 ในบัวโนสไอเรส มีชีวิตวัยเด็กที่อบอุ่นในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย เขาคลุกคลีกับดนตรีและงานศิลปะ “ซาราห์ คาร์เทียร์” แม่ของเขาเป็นทายาทสายตรงของตระกูลคาร์เทียร์ ส่วนพ่อของเขา “ดาเนียล เดอ ฮูป” เป็นสมาชิกราชวงศ์ของเนเธอร์แลนด์ที่สละยศถาบรรดาศักดิ์
ทั้งแม่และป้าเคยพาเขาไปโรงโอเปราครั้งแรกตอนเขาอายุเพียง 5 ขวบ หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มสนใจงานศิลปะ และชอบเดินทางไปเยือนพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วยุโรป อีกทั้งยังชอบเก็บสะสมข้าวของสวยงาม รวมถึงคอลเลกชันคาร์เทียร์ “ลิมิเตด เอดิชัน” 300 ชิ้น
แมกซ์ คาร์เทียร์ ใช้เงินทุนของตัวเองในการเดินทางไปเรียนและใช้ชีวิตที่ยุโรปตอนอายุ 18 เคยทำงานเป็นอาจารย์สอนภาควิชาธุรกิจที่โลซานน์ และเคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการที่โรงแรมเล็กๆ ในย่านแพดดิงตันของกรุงลอนดอน ก่อนจะย้อนกลับไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อศึกษาขั้นตอนการผลิตและการตลาดเครื่องดื่มไวน์ คอนญัก แชมเปญ และเบียร์
ในด้านการกุศล แมกซ์ คาร์เทียร์ ได้ก่อตั้งมูลนิธิ ‘De Hoop Cartier’ ขึ้นที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมด้านสุขภาพและการศึกษาสำหรับเด็กๆ ในละตินอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจนถึงขณะนี้การสืบสวนของหน่วยงานยุติธรรมของสหรัฐฯ น่าจะรุกคืบถึงเส้นสายการเงินที่หมุนเวียนอยู่ในมูลนิธิของเขาเช่นกัน
จากการสืบสวนย้อนเส้นทางการเงินของแมกซิมิเลียน เดอ ฮูป คาร์เทียร์ เจ้าหน้าที่พบว่าเขาใช้ USDT สกุลเงินดอลลาร์ เปโซ และสกุลเงินอื่นๆ ในการฟอกเงินจากอาชญากรรมมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้แจ้งข้อหาความผิดทางอาญากับเขา 4 กระทง ได้แก่ การฟอกเงิน การสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงิน การทำธุรกรรมทรัพย์สินที่ได้จากธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และดำเนินการส่งเงินโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดสัญชาติโคลอมเบียอีก 5 คน
ในระหว่างนี้ แมกซิมิเลียน เดอ ฮูป คาร์เทียร์ ยังถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์กักขังที่ไมอามี ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาถูกคุมขังในเรือนจำที่โคลอมเบีย