ท่ามกลางวิกฤตโลกร้อน ที่ผู้คนทั้งหลายเป็นห่วงเรื่องสิ่งแวดล้อม และสภาพอากาศที่แปรปรวนแบบสุดขั้ว ไม่ตรงตามฤดูกาล ที่หนึ่งในสาเหตุใหญ่มาจากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ทั้งโรงงาน การเผาไหม้ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ล้วนแล้วแต่เป็นบ่อเกิดหลัก ที่หลายคนพยายามให้ลด ละ เลิก ทั้งทำโครงการรีไซเคิล งดการเผาขยะ ทั้งรณรงค์เรื่องการใช้รถสาธารณะงดปล่อยควันท่อไอเสีย หรือหันไปใช้พลังงานสะอาด โดยมีบรรดาคนดังทั้งหลายออกมาช่วยกันรณรงค์รักษ์โลก อย่างมีวันเอิร์ธเดย์ ที่มีคอนเสิร์ตจัดแคมเปญมากมายให้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
แต่แล้วก็กลับทำตัวแบบมือถือสาก ปากถือศีลกัน เพราะมีข่าวเผยว่าหลังจากจบการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศอเมริกันฟุตบอล หรือ ซูเปอร์โบว์ล ที่สนามกีฬาในเมืองลาสเวกัสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีบรรดาเซเลบคนดังหลากหลายวงการเข้าชม มีฝูงบินไพรเวทเจ็ทรวมแล้ว 882 ลำ บินออกจากน่านฟ้าลาสเวกัส ส่งเหล่าคนดังเดินทางไปยังเมืองต่างๆ และประเทศอื่นๆ
ในไฟลท์บินเกือบ 900 ไฟลท์ที่เกิดขึ้นนั้น มีเที่ยวบินสั้นๆ แบบไม่ถึงชั่วโมงที่ใช้ไป-กลับเมืองใกล้เคียง อย่าง ลาสเวกัส เกือบ 100 เที่ยว หรือจะเป็นเที่ยวบินไกลๆ อย่างที่ เทเลอร์ สวิฟท์ บินกลับมาจากทัวร์ที่ญี่ปุ่น เพื่อมาเชียร์แฟนหนุ่มแข่งขัน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนใช้พลังงานเชื้อเพลิงน้ำมันจำนวนมาก ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายหมื่นตัน ซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เพราะเครื่องบินส่วนตัวจะสร้างมลพิษต่อการเดินทางของแต่ละคน สูงกว่าการโดยสารเครื่องบินพานิชย์มากถึง 5-14 เท่า และมากกว่ารถไฟถึง 50 เท่า
ในแต่ละปี เครื่องบินส่วนตัวก่อให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 800 ล้านตัน ซึ่งถือเป็น 2 เปอร์เซ็นต์ของมลพิษจากการใช้พลังงานทั่วโลก จึงนับได้ว่านี่คือรูปแบบการเดินทางที่ไม่เป็นมิตรต่อโลกมากที่สุด โดยเมื่อปีที่แล้ว เหล่าคนดังที่ติดอันดับท็อป 10 ในการใช้เครื่องบินส่วนตัว ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีทั้ง ไคลีย์ เจนเนอร์, บิล เกตส์, บียอนเซ, อีลอน มักส์, คิม คาร์ดาเชียน, ทราวิส สกอตต์ ฯลฯ