Celeb Online

เจ้าหญิงแมรี เตรียมรับมง เป็นราชินีจากออสเตรเลียพระองค์แรก หลังประมุขแห่งเดนมาร์กสละราชบัลลังก์


เปิดปีใหม่กันด้วยข่าวใหญ่ ที่ทำเอาเซอร์ไพรซ์ไปทั้งโลกกับการเคลื่อนไหวในแวดวงราชวงศ์ต่างแดน เมื่อในขณะที่สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก กำลังมีพระราชดำรัสพระราชทานพรแก่พสกนิกรชาวเดนมาร์ก เนื่องในวาระขึ้นไปใหม่ ซึ่งจะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในช่วงวันส่งท้ายปี เป็นธรรมเนียมของทุกปี พระองค์ได้ประกาศว่าในวันครบรอบการครองราชย์ 52 ปี ในวันที่ 14 มกราคมที่จะถึงนี้ พระองค์จะสละราชสมบัติและให้เจ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมาร ขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ต่อแทน


สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์กมีพระชนมายุ 82 พรรษา และทรงมีพระอาการบาดเจ็บบริเวณหลังที่เข้ารับการผ่าตัดในช่วงปีที่แล้ว ซึ่งปัญหาด้านพระพลานามัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พระองค์ตัดสินใจส่งมอบพระราชกรณียกิจและหน้าที่ต่างๆ ให้เชื้อพระวงศ์เจนเนเรชั่นใหม่ได้เข้ามาสานต่อ โดยราชวงศ์เดนมาร์กนับเป็นราชวงศ์ที่ได้รับการสนับสนุนและเป็นที่รักของพสกนิกรมาโดยตลอด คาดกันว่าหลังการลงจากราชบัลลังก์ พระองค์น่าจะรื่นรมย์ไปกับการทำผลงานศิลปะซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ชื่นชอบ โดยทรงมีผลงานวาดภาพประกอบหนังสือ การออกแบบเสื้อผ้า ไปจนถึงกำกับฉากละครเวทีมาแล้ว

และในการสละราชสมบัติให้เจ้าชายเฟรดอริก ก้าวขึ้นมาครองราชย์แทนครั้งนี้ จะไม่มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแบบใหญ่โตหรูหรา แต่จะเป็นการประกาศตามธรรมเนียมภายใน โดยสะท้อนถึงการพยายามไม่แสดงออกถึงความฟุ้งเฟ้อร่ำรวยและทำให้เห็นถึงการที่สถาบันกษัตริย์ปรับตัวเข้ากับสภาพสังคมและเศรษฐกิจเหมือนอย่างที่ราชวงศ์เดนมาร์กพยายามทำมาโดยตลอด


การขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมารที่จะเกิดขึ้น จะทำให้เจ้าหญิงแมรี มกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก จะกลายเป็นชาวออสเตรเลียนคนแรกที่ได้ขึ้นเป็นพระราชินี พระองค์กำเนิดที่เกาะแทสมาเนีย เกาะเล็กๆ ทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย


มีพระนามเดิมว่า แมรี เอลิซาเบธ โดนัลด์สัน เติบโตมาในครอบครัวนักวิชาการ เธอจบการศึกษาทางด้านกฎหมายและพาณิชย์ศาสตร์ และเคยทำงานด้านการตลาด ก่อนจะพบรักกับเจ้าชายเฟรดอริกที่พระองค์เดินทางไปร่วมโอลิมปิกเมื่อปี 2000 ที่ประเทศออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพ โดยมีเรื่องราวประหนึ่งนิยายรัก ที่ทั้งคู่พบกันผ่านเพื่อนฝูงคนรู้จักภายในบาร์แห่งหนึ่ง โดยที่ฝ่ายหญิงไม่รู้ว่าอีกคนคือเจ้าชาย


ทั้งคู่ครองรักแบบระยะทางไกลอยู่หลายปี จนกระทั่งแมรีตัดสินใจย้ายไปอยู่เดนมาร์ก และได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกันเมื่อปี 2004 ทรงมีพระโอรสและพระธิดารวม 4 พระองค์ ในปีนี้ซึ่งจะครบรอบ 20 ปีในการครองคู่กัน เจ้าหญิงแมรีได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะมงกุฏราชกุมารีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทรงฝึกฝนภาษาเดนส์ จนเชี่ยวชาญ ด้วยภาพลักษณ์ที่แสนอบอุ่น เรียบร้อย แฟชั่นสไตล์เรียหรู ไม่เคยมีข่าวเสียหาย ดูแลลูกๆ และครอบครัวเป็นอย่างดี และยังเป็นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ที่ทำงานหนักที่สุด จึงชนะใจพสกนิกรชาวเดนมาร์กมาได้อย่างยาวนาน