เปิดลุคเก๋ๆ ของว่าที่เจ้าหญิงคนใหม่ “อนิชา อิซา-คาเลบิก” หญิงสาวผู้คว้าหัวใจ เจ้าชายมาทีน แห่งบรูไน

ข่าวการประกาศแต่งงานของเจ้าชายอับดุล มาทีน มกุฏราชกุมารลำดับที่ 4 ของราชวงศ์บรูไน ทำเอาสาวๆ หลายคนที่ฝันอยากเป็นซินเดอเรล่าต้องฝันสลาย อกหักจากแฟนหนุ่มในมโน หน้าชื่นอกตรมพร้อมแสดงความยินดีให้กับว่าที่เจ้าหญิงคนใหม่ “อนิชา อิซา-คาเลบิก” ที่คว้าหัวใจของเจ้าชายหนุ่มสุดฮอตคนนี้ไปครองได้

“อนิชา อิซา-คาเลบิก” วัย 29 ปี เป็นทายาทของตระกูลสำคัญตระกลูหนึ่งของบรูไน โดยเป็นหลานของ Pehin Dato Haji Isa ผู้ได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของสุลต่าน และยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสายการบินรอยัล บรูไน แอร์ไลน์และยังมีเชื้อสายญาติห่างๆ ของพระมารดาเจ้ามาทีน เธอมีพี่น้อง 4 คน โดยพี่ชายคือ แดเนียล อิซา-คาเลบิก (สามีของ เจนธิรา อรรถสกุลชัย ทายาทบีทาเก้น) ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในก๊วนเพื่อนสนิทของเจ้าชาย ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ

อนิชาเองเติบโตในประเทศอังกฤษ จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยบาธ เคยร่วมหุ้นกับเพื่อนทำธุรกิจการท่องเที่ยว เปิดบริษัทชื่อ Authentinerary จัดวางแผนการท่องเที่ยวสุดพิเศษให้แก่นักเดินทางผู้มีรสนิยม โดยเน้นจุดหมายปลายทางอย่าง ปารีส มาดริด และ บาธ ซึ่งล้วนเป็นเหมือนที่อนิชาเคยใช้ชีวิตอยู่และเชี่ยวชาญ สามารถพาไปสัมผัสกับจิตวิญญาณและของดีของแต่ละเมืองได้อย่างแท้จริง

รวมทั้งมีธุรกิจด้านแฟชั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นเธอในภาพลักษณ์เก๋ไก๋ สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างงดงาม ทั้งในชุดแบบท้องถิ่นของบรูไน และในชุดแบบทันสมัย โดยเธอกับเจ้าชายมาทีนได้คบหากันมาหลายปีแล้ว ยิ่งในช่วง 1-2 ปีหลังนี้ เทียบจะทุกการเดินทาง ทุกกิจกรรมของเจ้าชายมาทีน จะต้องมีเงาสาวสวยคนนี้ร่วมอยู่ด้วยเสมอ จะเป็นที่คาดหมายกันมาพักใหญ่แล้วว่า คนนี้แหละเป็นตัวจริง จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนจับภาพแหวนปริศนาบนนิ้วนางมือซ้ายของเธอได้ เป็นแหวนเพชรวงมหึมาซึ่งว่ากันว่านั่นคือแหวนหมั้น เพราะหลังจากนั้นก็เห็นเธอใส่ติดนิ้วอยู่ตลอด และแล้วก็มีการประกาศข่าวการประกาศแต่งงานขึ้นตามความคาดหมาย

โดยพิธีอภิเษกสมรสจะจัดขึ้นช่วงวันที่ 7–16 มกราคม ของปีหน้า ที่บ้านพักอย่างเป็นทางการของสุลต่าน โดยมีพิธีต่างๆ เกิดขึ้นตลอดการเฉลิมฉลองสิบวัน เริ่มตั้งแต่พิธีการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตการเสกสมรสอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 7 มกราคม ณ พระราชวังอิสตานา นุรุล อิมาน พระราชพิธีทรงหมั้น ในวันที่ 9 มกราคม ประกอบพระราชพิธีพระราชทานแป้ง และของทูลพระขวัญแก่เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ในวันที่ 10 มกราคม ส่วนพิธีเฉลิมฉลองการเสกสมรสตามหลักศาสนา ที่เรียกว่า “อาคัดนิกะห์” จะจัดขึ้นในวันที่ 11 มกราคม ที่มัสยิดสุลต่าน โอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน งานเฉลิมฉลองจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ที่พระราชวังอิสตานา นุรุล อิมาน มีขบวนพาเหรดฉลองผ่านใจกลางเมืองหลวงบันดาร์เสรีเบกาวัน ซึ่งวันที่ 15 มกราคม จะมีการจัดพระราชพิธีพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารช่วงค่ำ และมีพิธีบรรเลงดนตรีโดยวงมโหรีเป็นการสิ้นสุดพระราชพิธีเสกสมรส ในวันที่ 16 มกราคม