Celeb Online

เหล่าคนดังที่พัวพันกับดรามาคริปโต เสี่ยงโดนฟ้องตาม “คิม คาร์ดาเชียน”


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ในวงการคริปโตเคอเรนซี สกุลเงินตราดิทัล เมื่อสาวเซเลบคนดังระดับโลก อย่าง “คิม คาร์ดาเชียน” โดนสั่งปรับเงินจากตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากที่เธอโพสต์โปรโมทการลงทุนด้านคริปโต เหรียญดิจิทัล ลงทุนใน EthereumMax โดยไม่ยอมเปิดเผยเงินค่าจ้างที่ได้รับตอบแทนจากการโฆษณาชวนเชื่อ โดยเธอต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินจำนวนสูงถึง 45 ล้านบาท


เรียกได้ว่าในต่างประเทศก็ไม่ได้ต่างจากเมืองไทย ที่เลือกใช้คนดัง ที่เป็นที่รู้จักออกมาเป็นกระบอกเสียง โฆษณาชวนเชื่อให้ลงทุนในทางเลือกใหม่ๆ อย่าง Forex, Crypto, NFT ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นการนำเสนอแบบถูกกฎหมาย หรือเหล่าคนดังเผยแพร่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่โดยมากที่เราเห็นกันมักจะเป็นการที่เหล่าคนดังรับเงินค่าจ้าง โดยที่ไม่ได้ลงทุนเองจริง หรือไม่ก็ได้รับผลตอบแทนส่วนแบ่งจากการลงทุนของเหล่าแฟนๆ เหมือนอย่างแชร์ลูกโซ่ ซึ่งนั่นล้วนเป็นการผิดกฎหมายการเงินของประเทศต่างๆ


เพราะไมใช่เพียงแค่ คิม คาร์ดาเชียน เท่านั้นที่โดนบทลงโทษดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2020 เคยมีดาวบู๊ อย่าง “สตีเว่น ซีกัลป์” ก็โดนลงโทษในกรณีเดียวกันกับคิม โดยเขาต้องจ่ายราว 11 ล้านบาท เป็นค่าปรับจากการไม่ยอมรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และหลังจากนี้ยังมีอีก 2 คนดังที่น่าจะต้องเดินตามรอยคิมคือ อดีตนักมวยดัง “ฟลอยด์ เมย์เวเธอร์”, นักกีฬา NBA “พอล เพียซ” ฯลฯ ที่ร่วมโปรโมทเหรียญเดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน และทางการกำลังดำเนินการเตรียมลงโทษต่อไป


ก่อนหน้านี้ก็ยังมีดาราฮอลลีวู้ดมากมาย ที่โปรโมทเหรียญคริปโตออกสื่อ ทั้งในโซเชียลมีเดียส่วนตัว รวมไปถึงการถ่ายแคมเปญโฆษณาออกฉายในโทรทัศน์หรือเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “รีส วิเธอร์สปูน” ที่ว่าคริปโตจะกลายเป็นวิถีทางแห่งอนาคต, “กวินเน็ธ พัลโทรว์” ที่โปรโมทแอปฯ แลกเปลี่ยนคริปโต โดยเสนอจะแจกบิตคอยน์ให้กับผู้ติดตาม, “ปารีส ฮิลตัน” ก็โพสต์แสดงการสนับสนุนคริปโต และ NFT อยู่ตลอด


นักมวยระดับตำนาน “ไมค์ ไทสัน” ก็ออกมาบอกว่าเขาลงทุนในเหรียญสกุล Solana และเชิญชวนให้คนเข้าร่วม ส่วนนักแสดงดัง อย่าง “เจมี่ ฟอกซ์” ก็เข้าไปมีส่วนร่วมและโฆษณาให้กับแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัล หรืออย่าง พระเอกมือรางวัล “แมตต์ เดมอน” ถึงขนาดเล่นโฆษณาให้กับ crypto.com กับ VTR ที่งบประมาณสูงถึงเกือบ 4 พันล้านบาท แถมยังได้ออกฉายช่วยการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ซูเปอร์โบวล์ นัดชิงอเมริกันฟุตบอล ที่ถือเป็นรายการที่มีคนรอติดตามชมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา