Celeb Online

ชีวิตต้องสู้ของ "ลีลี่-โรส เดปป์" ลูกสาวคนโตของ "จอห์นนี เดปป์"


นับตั้งแต่ จอห์นนี เดปป์ ตกเป็นคดีฟ้องร้องกับอดีตภรรยา แอมเบอร์ เฮิร์ด ลีลี่-โรส เดปป์ ลูกสาววัย 23 ปี ได้ยืนเคียงข้าง คอยเป็นกำลังใจ และเป็นพยานปากสำคัญให้พ่อนับตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นศาล

การฟ้องร้องสุดฉาวระหว่างพระเอกคนดังกับอดีตภรรยา ทำให้ชื่อเสียงของจอห์นนี เสียหายเป็นอย่างมาก มีภาพยนตร์หลายโปรเจ็คต์ที่บอกเลิกสัญญาไป ทำให้สูญเสียรายได้เป็นเงินมหาศาล ยังไม่รวมสุขภาพที่เสียจากการอาศัยสุราในการเยียวยาแผลใจอีกล่ะ แต่ในที่สุด ผลก็ออกมาแล้วว่า พระเอกสุดเซอร์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด


ในการสรุปปิดคดี เบนจามิน ชิว ทนายของจอห์นนี บอกว่า “นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น” ซึ่งลูกๆ 2 คนของเขากับอดีแฟนสาว วาเนสซา ปาราดีส์ ทั้งลีลี่-โรสและแจ๊ค ต่างก็มาช่วยเป็นพยานให้พ่อ พร้อมทั้งบอกว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” ขณะที่ตัวจอห์นนีเองให้สัมภาษณ์ว่า เขารู้สึกว่าตัวเองต้องลุกขึ้นมาสู้ “ไม่ใช่เพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อลูกของผมด้วย”

สำหรับ กามิลล์ วาสเกซ ทนายอีกคน กล่าวหาว่า แอมเบอร์ ชอบเรียกจอห์นนีแบบเหยียดๆ ไม่ว่าจะเป็น คุณโสโครก หน้าตัวเมีย หรือพ่อตอไม้ รวมทั้งชอบทำร้ายร่างกายพระเอกสุดเซอร์ เพราะรู้ว่า ลูกๆ ของเขาจะต้องเจ็บไปด้วย

แย่ตรงที่ทั้งลีลี่-โรสและแจ๊ค ต่างก็โดนคอมเม้นต์ในโซเชียลมีเดียอย่างเสียๆ หายๆ หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจว่าจะวางเฉย ก่อนที่คดีจะสิ้นสุด


แจ๊ค เดปป์ ลูกชายวัย 20 ของจอห์นนี เป็นคนเก็บเนื้อเก็บตัว มีโลกส่วนตัวสูง ต่างจากลีลี่-โรส เดปป์ ที่ยึดอาชีพนางแบบและนักแสดง ที่ต้องอยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ และเธอกำลังไปได้สวยในสายอาชีพเสียด้วย แม้จะข้ามผ่านความป่วยไข้ที่เกือบทำให้เสียชีวิตมาหลายครั้ง

ลีลี่-โรส เดปป์ เคยไตวายเฉียบพลันในปี 2007 ตอนนั้นเธออายุแค่ 7 ขวบเท่านั้น เธอต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 9 วัน หลังจากติดเชื่ออีโคไล ทำให้อาหารเป็นพิษ และส่งผลถึงไต จอห์นนีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายการ เดอะ แกรห์ม นอร์ตัน โชว์ว่า หลังจากเหตุการณ์วิกฤติผ่านพ้นไป เขาบริจาคเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้โรงพยาบาลเกรท ออร์มอนด์ สตรีทในปีถัดมา

“ทางโรงพยาบาลบอกว่าไตของลีลี่-โรสไม่ทำงาน และเธอจะโชคดีมากหากรอดชีวิตไปได้ เรานั่งเฝ้าที่ข้างเตียงของเธออยู่ตลอด 9 วัน เฝ้าจนกระทั่งเธอพ้นขีดอันตราย”


ลีลี่-โรส ยังต้องต่อสู้กับโรคอนอร์เร็กเซีย (ภาวะไม่อยากอาหาร) โดยเธอออกมาพูดถึงเรื่องนี้ครั้งแรกในปี 2016 โดยยอมรับว่า หลังจากบอกออกไปก็มีแต่เสียงคอมเม้นต์เสียๆ หายๆ เกี่ยวกับรูปร่างของเธอ “มันแย่มากๆ เพราะฉันยังเด็ก และไม่รู้จะหาทางออกยังไง แทนที่ผู้คนจะช่วยแนะนำการแก้ปัญหา แต่กลับว่าฉันต่างๆ นานา ฉันต้องพยายามอย่างหนักที่จะเพิ่มน้ำหนักตัวเองให้ได้ ในที่สุด ฉันก็ทำได้สำเร็จ” เธอให้สัมภาษณ์นิตยสารแอบ ฝรั่งเศส

ย้อนไปในวัย 16 ลีลี่-โรส ไปทดสอบการเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้แคมเปญแว่นตาของชาเนลเป็นครั้งแรก พอในปี 2016 เธอก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมชาเนล นัมเบอร์ไฟฟ์ และนับจากนั้น เธอนัวเป็นขาประจำบนแคตวอล์กเสื้อผ้าแบรนด์สุดหรูของฝรั่งเศสอีกด้วย


อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พ่อเริ่มเป็นห่วง “สิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลีลี่-โรส ผมว่ามันเร็วเกินไป ผมเห็นแล้วว่า คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ให้ความสนใจเธอ ตอนที่ไปชมแฟชั่นโชว์กับแม่ ซึ่งคาร์ลเองก็ติดต่อกับแม่ของลีลี่-โรส ตอนที่อยู่ในวัยเดียวกันนี่แหละ พอผมเห็นเธอแต่งหน้าแต่งตาและแต่งตัว ดูแล้วมันหงุดหงิดนะ เพราะเธอสวยมาก และเป็นเรื่องที่เกิดเร็วเกิ๊น” คุณพ่อหวงลูกสาวให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ

ลีลี่-โรส ยังเดินตามรอยพ่อแม่ ด้วยการดรอปเรียน เพื่อออกมาทำวานเป็นนางแบบและนักแสดงเต็มตัว แล้วพ่อแม่จะว่ายังไง? … “พ่อกับแม่ก็ออกจากโรงเรียนตอนอายุ 15 เพราะฉะนั้น ท่านก็พูดอะไรไม่ได้หรอก การเข้ามหา’ลัย ไม่ใช่เป้าหมายของฉัน ฉันอยากทำงานมากกว่า ฉันอ่านหนังสือมากมาย และค้นหาความรู้ในสิ่งที่ฉันสนใจอยู่เสมอ” ลีลี่-โรสให้สัมภาษณ์นิตยสารโว้ก


แม้ตอนนี้เธอจะเดทอยู่กับพระเอก The King ทิโมเต ชาลาเมต์ แต่นางแบบสาวเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เพศสภาพของเธอเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ โดยผู้คนต่างก็ตีความไปว่า เธอคงเป็นหนึ่งในกลุ่ม LGBTQ จนเธอต้องออกมาเคลียร์ให้ชัดๆ ว่า “ฉันคงพูดอะไรผิดไป จริงๆ แล้ว ฉันเพียงต้องการจะบอกว่า คุณไม่ควรไปตัดสินเพศสภาพของคนอื่น เพราะมันไม่ใช่ธุระของคุณ ซึ่งถ้าฉันจะเดทกับใคร ก็เพราะเขาเป็นเขา ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเพศอะไร”

คุณพ่อจอห์นนีไม่มีอะไรจะกล่าว นอกจากออกมาชื่นชมลูกสาวคนโต “เธอมีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียมากมาย ซึ่งผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะเธอเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ลีลี่-โรส พูดคุยกับผมทุกเรื่อง เธอไม่กลัวที่จะพูดกับผมตรงๆ เราสนิทสนมกันมา ซึ่งผมรู้สึกดีมากๆ จริงๆ”

ลีลี่-โรส เดทอยู่กับทิโมเต ชาลาเมต์ นักแสดงคู่ใน The King ด้วยกัน ภาพการไปเที่ยวบนเรือยอชต์ที่อิตาลีกับ กลายเป็นไวรัลในปี 2019

“ก่อนนอนคืนนั้นฉันคุยกับตัวเองว่า นี่เป็นวันที่ดีมากๆ วันหนึ่งในชีวิตเลยนะ ฉันเยูบนเรือตลอดทั้งวัน กันคนที่ฉันชอบมากๆ พอฉันหลับตาลง ฉันคิดว่าจะนอนหลับฝันดีแน่ๆ แต่คนอื่นก็เม้าท์กันว่า นี่เป็นภาพพีอาร์แน่ๆ เลย”

แม้ว่าจะมีข่าวว่า ทั้งสองเลิกรากันหลังจากเดทกันได้หนึ่งปี แต่ปีที่แล้ว ปาปาราซซียังไปจับภาพทั้งคู่ออกไปช็อปปิ้งด้วยกันกลางกรุงนิวยอร์กอยู่เลย